เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการทำกำไรของ BAY จากการเป็นผู้นำในการให้บริการสินเชื่อรายย่อย ด้วยแรงหนุนจาก GE ซึ่งจะช่วยหนุนให้สินเชื่อเติบโตในอัตรา 12% และผลักดันให้กำไรเติบโตเฉลี่ย 40% ในระยะ 2 ปีข้างหน้า เราจึงยังคงคำแนะนำ ?ซื้อ? เพราะแม้จะปรับลดประมาณการกำไรจากตั้งสำรองเงินลงทุนใน CDO เพิ่มเติม แต่กำไรจากการดำเนินงาน (pre-provision profit) และ กำไรสุทธิปี 51 เติบโตสูงถึง 70% และ 270% YoY โดยประเมินมูลค่าพื้นฐาน 27.50 บาท (PBV ปี 51 ที่ 1.9 เท่า)

คาดสินเชื่อสุทธิ 1Q51 เติบโตก้าวกระโดด 20% QoQ และ 17% YoY การโอนพอร์ตสินเชื่อจาก GECAL เสร็จสิ้นในเดือน ก.พ. 51 หนุนให้สินเชื่อสุทธิของ BAY ใน 1Q51 ขยายตัว 20% QoQ และ 17% YoY การควบรวมพอร์ตสินเชื่อส่งผลบวกต่อ net

interest margin เติบโตอย่างรวดเร็ว จาก 3.18% ใน 4Q50 เป็น 3.35% ใน 1Q51 และจะทยอยเติบโตเป็น 3.4% ใน 4Q51 เราจึงประมาณรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (net interest income: NII) เติบโตอย่างมีนัยเป็น 2.4 พันล้านบาทภายในสิ้นปี51 จาก 1.96 พันล้านบาทในปี 50 เพิ่มขึ้น 23% YoY เปรียบเทียบกับอัตราเติบโต 3% ในปี 50

คาดตั้งสำรองเพิ่ม สำหรับหนี้เสีย และ CDOsเพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงพอร์ตสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น หลังรับโอนพอร์ตสินเชื่อจาก GECAL เราจึงปรับประมาณการสำรองปี 51 เพิ่มจาก 3.2 พันล้านบาท เป็น 5.2 พันล้านบาท นอกจากนี้ ผู้บริหารยังคาดว่ามูลค่าเงินลงทุนใน CDO ยังลดลงอีก 20-30% ทำให้เราคาดว่า BAY ต้องปรับลดมูลค่าเงินลงทุนใน CDO อีกประมาณ 800 ล้านบาท ใน 1Q51 เป็นผลให้ประมาณกำไรสุทธิ 1Q51 ลดลง 11% YoY เป็น 1 พันล้านบาท

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 51การปรับเพิ่มประมาณการสำรองและการปรับลดมูลค่าเงินลงทุนใน CDO ส่งผลให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 51 ลดลง 22% จาก 8.7 พันล้านบาท เป็น 6.7 พันล้านบาท รวมถึงปรับลดมูลค่าพื้นฐานจาก 29 บาท เป็น 27.50 บาท (PBV ปีFY Dec (Bt m)200620072008F2009F2010FPre Provision Profit12,9358,50414,43319,93723,339Net profit1,666-3,9926,76810,78613,269EPS (Bt)0.57-0.691.111.782.18EPS Growth (%) -72.96-222.57269.5459.3723.02BV (Bt) 15.7713.5514.5816.0517.74PER (x)40.77-33.2620.7313.0110.58PBV (x)1.461.711.581.441.30ROE (%)3.53-5.117.6311.0412.29ROA (%)0.25-0.610.821.171.30DPS (Bt)0.200.000.300.500.50Div Yield (%)0.870.001.302.162.16

:lol:

หุ้นเด่นทักษิโน

BJC

โครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์ปรับเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน และหากสังเกตแท่งเทียนรายวันจะเห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นยืนเหนือแนวต้านทุกเส้นที่ระดับ 6.80 บาท อย่างมั่นคง ขณะที่เส้นสัญญาณ RSI Slow Stochastic บ่งบอกทิศทางการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นเป็นหลัก ดังนั้นช่วงนี้มีโอกาสว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้นอีกคำแนะนำ ซื้อลงทุน

CCET

หากสังเกตโครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์และรายวัน จะเห็นว่าราคาหุ้นย่ำอยู่แถวระดับ 5บาท มานานกว่า 2 เดือน ขณะที่ราคาหุ้นรายวันเริ่มขยับขึ้นที่ระดับ 5.35 บาท และสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้จากสัญญาณ Bollinger Bands ที่บ่งบอกการเข้าสู่แรงซื้ออย่างชัดเจน น่าจะทำให้หุ้นรายนี้ปรับตัวขึ้นเพื่อสร้างแนวรับใหม่ได้อีกครั้งคำแนะนำ ทยอยซื้อลงทุน

KBANK

แม้ราคาหุ้นรายสัปดาห์และรายวันจะปรับตัวขึ้นยืนเหนือแนวต้านทุกเส้นที่ระดับ 92.50 บาท หากแต่สัญญาณทางเทคนิคบ่งบอกการเข้าเขตแรงซื้อมากเกินไป ดังนั้นระยะนี้ควรหาจังหวะขายทำกำไรออกมาก่อน เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นสูง น่าจะถึงจังหวะที่หุ้นรายนี้อ่อนตัวลงพักฐานเพื่อขึ้นอีกรอบใหม่คำแนะนำ ขายทำกำไร

:lol: