May 3, 2024   5:38:38 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเด็ดวันนี้
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 04/04/2008 @ 13:29:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ความสำเร็จในการซื้อโรงงาน 2 แห่งที่ยุโรปด้วยเงินลงทุนที่ลดจากเดิม 9% และคาดเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงาน 2 โรงงานนี้ตั้งแต่เม.ย. 51 (เดิมคาด ก.พ. 51) เราปรับกำไรปี 51 ลดจากเดิม 7% และปรับกำไรปี 52 เพิ่มจากเดิม 2% และคาดว่าโครงการขยายกำลังผลิตอย่างต่อเนื่องตาม Mission ที่บริษัทตั้งไว้แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสร้างการเติบโตของกำไรอย่างยั่งยืน จะทำให้มีอัตราเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานสุทธิในระยะ

3 ปี (50-53) เฉลี่ย 45% ต่อปี และมี ROE 28-33% ต่อปี ทำให้ IRP เป็น Growth Stock ที่ควรค่าแก่การลงทุน เพราะ ณ ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER ปี 51 เพียง 7.7 เท่า และยังมี Upside ถึง 25% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ 11.50 บาท (DCF, WACC 11% และ terminal growth 3%)

ซื้อ 2 โรงงาน PET ในยุโรปเสร็จแล้ว ด้วยเงินลงทุนต่ำ เพื่อโตทันทีIRP สานฝันโครงการขยายกำลังผลิตในตลาดยุโรปสำเร็จแล้ว (ตลาดยุโรปเป็น net importer PET โดยคาด Demand จะโต 7-8% ต่อปี จาก 4 ล้านตันในปี 50 เป็น 4.28

ล้านตันในปี 51 แต่มี Supply เพียง 3.47 ล้านตัน และยังไม่มีกำลังผลิตใหม่เกิดขึ้นในปี

51-52) ด้วยการซื้อโรงงาน 2 แห่ง กำลังผลิตรวม 3.55 แสนตัน/ปี (2.0 แสนตัน/ปีในเนเธอร์แลนด์ และ 1.55 แสนตันในอังกฤษ) ด้วยเงินลงทุนเพียง 59 ล้านยูโร (หรือ 2.95 พันล้านบาท ? ลดลง 9% จากเดิมตั้งงบไว้ 65 ล้านยูโร โดยแหล่งเงินทุน 30% มาจากกระแสเงินสดกิจการ และ 45 ล้านยูโรมาจากเงินกู้) หรือคิดเป็น 166 ยูโร/ตัน ซึ่งถือว่าถูกเมื่อเทียบกับเงินลงทุน 400 ยูโร/ตัน สำหรับ Green Field Project ในลิธัวเนีย และ 220 ยูโร/ตัน สำหรับ Green Field Project ในอเมริกา ที่บริษัทลงทุนในปี 48 และ50 ตามลำดับ การเข้าซื้อโรงงานเดิมทั้ง 2 แห่งจะทำให้ IRP รับรู้ผลการดำเนินงานทันทีภายหลังการซื้อโรงงานเสร็จสิ้นใน มี.ค. 51 ด้วยกำลังผลิต PET ที่เพิ่มขึ้น 179% ในยุโรปจาก 1.98 แสนตันเป็น 5.53 แสนตัน/ปี และส่งผลให้กำลังผลิต PET รวมของ

IRP เพิ่ม 64% YoY เป็น 8.7 แสนตันในปี 51 และโรงงานใหม่ในอเมริกา 4.32 แสนตัน/ปีที่จะเริ่มผลิต มี.ค. 52 จะส่งผลให้ IRP มีกำลังผลิตรวม 1.39 ล้านตันในปี 52 ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก (จากอันดับ 6 ในปัจจุบัน)

ปรับกำไรปี 51 ลดจากเดิม 8% แต่ปรับกำไรปี 52 เพิ่มจากเดิม 2% ผลจากการขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้นในภูมิภาคยุโรปตั้งแต่เม.ย.51 (เลื่อนจากเดิม ก.พ. 51)

ด้วยเงินลงทุนที่ลดจากเดิม 9% ฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการยอดขายปี 51 ลดจากเดิม 6% เป็น 35.7 พันล้านบาท และปี 52 คงเดิมที่ 44.4 พันล้านบาท ส่งผลให้ประมาณการ EPS ปี 51 ลดจากเดิม 7% เป็น 1.2 บาท/หุ้น (+60% YoY) และปี 52 เพิ่มจากเดิม 2% เป็น 1.66 บาท (+38% YoY) และได้มูลค่าพื้นฐานใหม่เป็น 11.50 บาท

YE Dec (Bt m)2005A2006A2007A2008F2009FTurnover11,72911,84725,55135,68644,425EBITDA1,2841,1742,0252,9614,072Norm. Profit8197401,0381,6572,292Net Profit7727841,0731,6572,292Norm. EPS (Bt)0.590.540.751.201.66Norm. EPS growth158%-10%40%60%38%PER (x)15.5417.1912.257.685.55PBV (x)3.132.832.401.911.51EV/EBITDA (x)11.3514.4010.158.435.96DPS (Bt)0.160.170.230.360.50Dividend Yield1.7%1.8%2.5%3.9%5.4%ROE24.6%18.3%21.9%27.7%30.4%

:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com