May 3, 2024   2:27:53 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > Weekly Comment
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 08/04/2008 @ 08:48:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.โกลเบล็ก


WEEKLY COMMENTS : การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญกดดันตลาด
* รัฐบาลต้องตอบคำถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นการแก้เพื่อส่วนรวมหรือไม่
* การแก้มาตรา 237 เป็นทางออกของการยุบพรรค ทำให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้
* แนวรับ 818 , 810 และ 793 แนวต้าน 829*** , 840 และ 849

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา 31 มีนาคม - 4 เมษายน 2551
สรุปภาวะการลงทุนสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปิดที่ 824.80 ลดลง 0.37 จุด จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่อยู่
ระดับปิดที่ 825.17 โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 16,938 ล้านบาทใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่
ระดับ 16,200 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 154 ล้านบาท ต่างประเทศขายสุทธิที่ 78 ล้านบาท รายย่อย
ซื้อสุทธิ 231 ล้านบาท

ภาพรวมการแกว่งตัว :
วันจันทร์ดัชนีปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับลงทั่วโลกมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่สลับแรง
ซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก วันอังคารดัชนีปรับขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศมีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม
ธนาคารและพลังงานนอกนั้นเป็นการซื้อเก็งกำไรสลับในหุ้นขนาดเล็ก วันพุธดัชนีขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับ
ขึ้นแรงกว่า 391 จุดปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นแต่แรงซื้อยังเน้นในหุ้นขนาดเล็กเป็นหลักขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ปรับขึ้น
ตามตลาดก่อนมีแรงขายออกมาก่อนปิดตลาดทำให้ดัชนีปิดบวกเล็กน้อยเท่านั้น วันพฤหัสบดีดัชนีปรับตัวขึ้นเล็ก
น้อยและแกว่งตัวในกรอบแคบเกือบทั้งวันยังคงซื้อเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กต่อเนื่อง โดยที่ตลาดยังไม่มีปัจจัย
บวกใหม่เข้ามากระตุ้นตลาดวันศุกร์ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบสลับแดนบวกและลบยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา
กระตุ้นตลาดเป็นการสลับเข้ามาซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กต่อเนื่อง ปิดตลาดดัชนีปิดลบเล็กน้อย

ปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาดได้แก่ : ดัชนีหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นแรงกว่า 391 จุด ,ราคาน้ำมันเริ่ม
ปรับลง,ธปท.เผยยอดส่งออกไทยเดือน ก.พ. ขยายตัว 16.2% รวม2เดือนแรกของปีเติบโต 14%yoy,
ก.พาณิชย์ เผยตัวเลข CPI เดือน มี.ค.51 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 YOY และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 MOM,
กกต.เลื่อนการลงมติส่งเรื่องการยุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย

ปัจจัยสำคัญที่น่าติดตามและมีผลต่อการลงทุนในสัปดาห์ 8-11 เมษายน 2551
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ 8-11 เมษายน 2551 ทางฝ่ายวิเคราะห์ บล.
โกลเบล็กฯ ประเมินภาวะตลาดมีแนวโน้มผันผวนจากปัจจัยการเมืองไทยเป็นหลัก มีโอกาสที่จะแกว่งตัวออก
ด้านข้างต่อไป โดยมีแนวต้านสำคัญ 829-830 และ แนวต้าน 840 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 โดยคณะ
กรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลมีมติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญใน 5 ประเด็นคือ 1). แก้ไขมาตรา 163
โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายได้ทุกหมวดหมู่ จากเดิมให้เนอได้เฉพาะหมวดสิทธิ
เสรีภาพเท่านั้น 2). แก้ไขมาตรา 190 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำสนธิสัญญาณระหว่างประเทศต้องได้รับ
ความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน 3). แก้ไขมาตรา 237 โดยตัดคำว่า "ให้ถือว่าพรรคกระทำการออกไป"
เพื่อไม่ให้เกิดการเหมารวมความผิดให้แก่กรรมการบริหารพรรคและพรรค เป็นความผิดส่วนบุคคล
4). แก้ไขมาตรา 266 เพื่อให้ สส. ช่วยเหลือประชาชนได้ 5). ยกเลิกมาตรา 309 เพื่อเปิดโอกาสให้
จำเลย ค.ต.ส. มีช่องทางในการต่อสู้คดีได้ ทั้งนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสการคัดค้านจากอาจารย์คณะนิติศาสตร์
หลายสถาบัน รวมทั้งบุคคลสำคัญๆ ซึ่งได้ตั้งคำถามการการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการกระทำเพื่อใคร
หากกระทำเพื่อส่วนรวมก็สนับสนุน การแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราเช่น มาตรา 237 เป็นทางออกทางหนึ่ง
ที่เป็นกลาง ทางฝ่ายฯคาดว่า กกต. มีแนวโน้มที่จะให้ความเห็นชอบด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีข่าวออก
มาว่า กกต. ไม่อยากจะให้มีการยุบพรรคเกิดขึ้น ด้านการประชุมรอบต่อไปของ กนง. เริ่มมีท่าทีผ่อนปรน
ต่อนโยบายการเงินมากขึ้น ที่ประชุมเผยว่าจะไม่ดูแลเงินเฟ้ออย่างเดียว แต่จะพิจารณาจากภาพรวม
เศรษฐกิจประกอบด้วย นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ในตลาดทั่วโลกกำลังเฝ้าติดตามตัวเลขบ่งชี้ภาวะ
เศรษฐกิจที่สำคัญทั้งหลายว่าจะมีแนวโน้มชี้ไปตามที่ประธานเฟดแถลงต่อสภาครองเกรสหรือไม่ ที่ยังคงมี
ความจำเป็นในการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่จะช่วยหนุนการขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
และปีหน้า ตลาดเองยังคงมีความหวังที่จะได้เห็นการดำเนินมาตรการออกมาเพื่อช่วยเหลือและบรรเทา
ภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้นต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย

ปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้

1. ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวและผลประกอบการหุ้นกลุ่มการเงินที่ยัง
มีตัวเลขออกมาย่ำแย่ ถึงแม้ว่า Fed จะดำเนินการมาตรการช่วยเหลือต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่
ประธาน Fed ได้แถลงต่อสภาคองเกรสและยอมรับเป็นครั้งแรกว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะ
เข้าสู่ภาวะถดถอย แสดงถึงปัญหาถดถอยทางเศรษฐกิจยังคุกคามสหรัฐอยู่ ยังคงต้องติดตามตัวเลขทาง
เศรษฐกิจที่ประกาศออกมาเพื่อประเมินถึงทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯต่อไป ซึ่งในวันที่ 11 เม.ย.นี้สหรัฐฯจะ
ประกาศตัวเลขดุลการค้าเดือน ก.พ. 51

2.ราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับลงซึ่งเกิดจากการขายทำกำไรก่อนจบสิ้นงวดบัญชี1Q08 และตลาดน้ำมัน
เริ่มคลายกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันหลังจากการขนส่งน้ำมันในอิรักที่ถูกระเบิดโจมตีได้กลับคืนสู่ภาวะปกติอย่าง
สมบูรณ์แล้ว ขณะที่คำกล่าวของประธานกลุ่มโอเปกที่ว่าตลาดน้ำมันมีปริมาณเพียงพอและปัจจุบันปริมาณสำรอง
น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นได้อยู่สูงมากกว่าระดับค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีขณะที่การลดลงของอุปสงค์น้ำมัน
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอทำให้เป็นตัวกดดันราคาน้ำมันในช่วงนี้

3.แรงซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ
กลับมาขายสุทธิเล็กน้อยเป็นสัญญาณชะลอการลงทุนของต่างชาติ ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยัง
ไม่มีสัญญาณคลี่คลายทำให้กองทุนต่างประเทศเน้นการถือครองเงินสดมากกว่าจะนำเงินมาลงทุนในช่วงนี้
อย่างไรก็ตามยังไม่มีสัญญาณเงินไหลออกของต่างชาติ ทำให้เม็ดเงินบางส่วนที่ยังอยู่ในประเทศยังคงมี
แนวโน้มเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น จากการที่รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนและกระตุ้นภาคอสังหา
ริมทรัพย์เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 2 มาตรการภายในครึ่งแรกของปีนี้เป็นตัวดึงดูดการลงทุน แต่อาจจะเข้ามา
ลงทุนไม่มากนักเนื่องจากการเมืองไทยยังไม่มีความชัดเจน

4. สถานการณ์ด้านการเมือง
คดียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยตลอดจนคดีใบแดงนายยงยุทธที่ยังอยู่ในกระบวนการ
พิจารณาคดี การเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากขึ้นจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯในการต่อต้านรัฐบาลหากเสนอญัตติ
ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 50 เข้าสู่สภา โดยล่าสุดได้มีมติจะรวบรวมรายชื่อประชาชนไม่น้อยกว่า
2 หมื่นคนเพื่อยื่นถอดถอนสส.ทุกคนที่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 และพร้อมจะเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ จาก
กระแสการเมืองที่ยังไม่นิ่งและยังมีเค้าของความวุ่นวายอยู่ทำให้สร้างบรรยากาศกดดันการลงทุนในตลาดหุ้น

5. 9 เม.ย.51 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ ธปท.
มีแนวโน้มคงดอกเบี้ย R/P 1 วันไว้ที่ 3.25 % ถึงแม้ว่าจะมีส่วนต่าง 1% เมื่อเทียบกับอัตรา
ดอกเบี้ยสหรัฐฯซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 2.25% จากการเผยของรองผู้ว่าฯ ธปท.ว่า ขณะนี้ดอกเบี้ยเอื้อต่อการปล่อย
สินเชื่อและการลงทุน ในขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางรัฐบาล
ทำให้เศรษฐกิจยังคงเคลื่อนไปในทิศทางที่ทางกนง.ประเมินไว้ ในขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่
ผ่านมาจะมีส่วนช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากการนำเข้าสินค้าทุนและการนำเข้าน้ำมันที่ทำให้ราคา
ถูกลง

6. ธนาคารโลกปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ขึ้นมาที่ 5% จากเดิม 4.6%
จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีความ
ชัดเจนทำให้การบริโภคและการลงทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่ ธปท.รายงานปริมาณการส่งออกของไทยช่วง ม.ค.-
ก.พ. ของปี 51 เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 50 บ่งชี้ถึงการส่งออกไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี
และมีความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่ ADB ยกให้ไทยเป็นประเทศที่จะแสดงอัตราการขยายตัวของ
เศรษฐกิจปี51มากที่สุดในเอเชียเนื่องจากสถานการณ์การเมืองของไทยที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นสัญญาณบ่ง
ชี้ถึงเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในทิศทางที่ดี

แนวโน้มการเคลื่อนไหวระดับสัปดาห์

ด้านการวิเคราะห์เทคนิค
ดัชนีมีความอ่อนแรงการขึ้นให้เห็นหลังขึ้นทดสอบแนวต้านขาลงไม่ผ่านยืนหลังการทดสอบกว่า 2
ครั้ง การเกิดแท่งเทียนสีดำที่แนวต้านเส้น DOWN TREND ลงมาต่ำกว่าแนวต้านการกลับตัว 1/2 ที่ 826
อีกครั้ง ทำให้มีแนวโน้มพักตัวลงต่ำกว่าแนวรับเส้น SMA 5 วัน ขณะที่ค่าสัญญาณ RSI เริ่มปรับลงเป็น
สัญญาณลบทำให้เพิ่มน้ำหนักกดดันดัชนีมากขึ้น และ VOLUME ที่กลับมาเบาบางอีกครั้ง ขาดแรงส่งดัชนีให้กลับ
ตัวขึ้นต่อในแนวไหล่ขวา ดังนั้นจากภาพที่เกิดขึ้นทำให้ดัชนีมีแนวโน้มที่พักตัวลงในช่วงสัปดาห์นี้จากสัญญาณ
ลบที่เกิดขึ้น ยกเว้นดัชนีจะขึ้นมาผ่านยืนแนวต้านเส้น DOWN TREND ที่ 829 ได้โดยไม่วกกลับลงมาต่ำกว่า

:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 08/04/2008 @ 08:49:32 :
กลยุทธ์ในสัปดาห์นี้
ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นควรรอช่วงปรับตัวเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากสัญญาณพักตัวที่เกิดขึ้น
สัปดาห์นี้มีแนวรับที่ 810, 810 และ 793 แนวต้าน 829*** , 840 และ 849

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค.
จากกราฟรายวันราคาน้ำมันเริ่มแกว่งออกด้านข้างด้วยการทำจุดต่ำที่ต่ำลง ค่าสัญญาณทางเทคนิค
แสดงการพักตัว ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะค่อยๆแกว่งตัวลงตามแนวการพักที่เริ่มเกิดขึ้น

ค่าเงินบาท/ดอลลาร์ในตลาดออนชอร์
จากกราฟรายวันค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าลง ขณะที่ค่าสัญญาณทางเทคนิคเริ่มปรับขึ้น เป็น
สัญญาณสอดคล้องกันในทิศทางขึ้น ทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
จากกราฟรายวันดัชนีแกว่งตัวในลักษณะซิกแซกขึ้นต่อเนื่องทำให้เกิดแนวกลับทิศเป็นขึ้นในระยะสั้น
ค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับขึ้นตามกัน ทำให้ดัชนียังมีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้นต่อตามแนวซิกแซกขึ้นเดิม

ดัชนีนิกเกอิ
จากกราฟรายวันดัชนีเริ่มปรับขึ้นมาสร้างแนวกลับตัวรอบใหม่ ค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับขึ้นตามกัน
ทำให้ดัชนีมีแนวโน้มขึ้นต่อและเกิดแรงผลักดันให้กลับทิศเป็นขึ้นจบแนวการลงก่อนหน้า

:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com