บล.โกลเบล็ก

SET 826.19 -0.66 -0.08%
H / L : Day 829.59 / 823.05
H / L : Week 829.59 / 823.05
H / L : Year 860.69 / 728.58

มีโอกาสพักตัวลงจากสัญญาณลบแท่งเทียน

ระยะสั้น ดัชนีขึ้นไม่ต่อเนื่องหลังทำจุดสูงกว่าแนวต้านเส้น DOWN TREND เป็นสัญญาณอ่อนแรง การเกิดแท่งเทียนสีดำ HANGING MAN ทำให้มีเสี่ยงพักตัวลงจากแนวต้าน ระยะสั้น ดัชนีขึ้นมาทำจุดสูงกว่าแนวต้านเส้น DOWN TREND หลังปรับค่าความชันลงมาอยู่ที่ 827 (แท่งเทียนทำจุดสูงที่ 829.59) แต่ขึ้นไม่ต่อเนื่อง ก่อนปรับตัวลงมาต่ำกว่าเส้น SMA 5 วันด้วยการสร้างแท่งเทียนสีดำ HANGING MAN ตามมา เป็นสัญญาณอ่อนแรงของขาขึ้น การเกิดแท่งเทียน HANGING
MAN ที่แนวต้าน ในขณะที่ค่าสัญญาณ RSI เริ่มปรับลงเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ยตัวเองหลังจากที่ไม่ทำจุดสูงใหม่ ในช่วงก่อนหน้า ทำให้แรงกดดันของแนวต้านเส้น DOWN TREND มีแรงกดดันดัชนีมากขึ้น ดังนั้นจากภาพที่เกิดขึ้นทำให้ดัชนีมีความเสี่ยงพักตัวลงรอบใหม่ซึ่งจะมีช่วงของการลงที่กว้างเนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นการลงจากแนวต้าน และจะมีผลให้ดึงเส้น SMA 5 วันปรับลงตามกลับมาเป็นแนวต้านขาลงอีกครั้ง กลยุทธ์ ซื้อ
เก็งกำไรระยะสั้นควรชะลอไว้ก่อนเพื่อลดความเสี่ยงการพักตัวทีมีแนวโน้มเกิดขึ้น
ระยะกลาง ดัชนียังแกว่งตัวอยู่ในแนวไหล่ขวารูปแบบหัวและไหล่ขึ้น การเรียงตัว SMA 5,10
วัน และ RSI,MACD เริ่มชะลอการขึ้น ทำให้มีสัญญาณบวกลดลง เป็นความเสี่ยงการพักตัวรอบใหม่
กลยุทธ์ ถือรอดู
แนวรับ : 823 / 818
แนวต้าน : 829*** / 834

FIN 952.77 แท่งเทียน
ความเห็น: ดัชนีเริ่มยกจุดต่ำสูงขึ้นหลังปรับลงมาใกล้ทดสอบแนวรับกรอบสามเหลี่ยมแบบที่ 938 ส่งผลให้ดัชนียังมีโอกาสขึ้นรอบใหม่ตามแนวขึ้นรูปแบบสามเหลี่ยม การเรียงตัว SMA และค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับขึ้นเป็นสัญญาณบวกเพิ่มโอกาสกลับตัวมากขึ้น
กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น
แนวรับ 937 / 915
แนวต้าน 962 / 993

AUTO 305.47 กรอบขาขึ้น
ความเห็น: ดัชนีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านกรอบขาขึ้นหลังจากพักตัวแล้วแกว่งตัวอยู่ที่บริเวณแนวรับ SMA เกิดแท่งเทียน INVERT HAMMER ที่อยู่ในแนวการพักตัวที่เป็นขาขึ้น เป็นสัญญาณบวกการพักตัว
เพื่อขึ้นรอบใหม่
กลยุทธ์ ซื้อถือแนวรับ
แนวรับ 300 / 294
แนวต้าน 312 / 318


:lol:

นักลงทุนแห่เก็งกำไรหุ้นเล็ก ไร้ปัจจัยบวกกดดันตลาดซึม


ตลาดหุ้นซึม เมินผลการประชุมกนง. ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.25% ขณะที่พฤติกรรมนักลงทุนเปลี่ยนไปเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กแทนหุ้นมาร์เกตแคปใหญ่ นักวิเคราะห์นี้ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (8 เม.ย.) ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ในทิศทางปรับตัวลดลงจากวันก่อน โดยนักลงทุนเทขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมาทั้ง หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ สื่อสาร และพลังงาน เพื่อหันเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กแทน ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 829.59 จุด ต่ำสุดที่ 823.05 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 826.19 จุด ลดลง 0.66 จุด หรือลดลง 0.08% มูลค่าการซื้อขาย 17,474.38 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 237.52 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 108.81 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 128.71 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย ใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญบริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ WIN-W ปิดที่ 0.19บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท หรือ 137.50% มูลค่าซื้อขาย 6.38 ล้านบาท ใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญบริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC-W1 ราคาปิดที่ 4.44 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท หรือ 46.05% มูลค่าซื้อขาย 291.45 ล้านบาท

บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC ปิดที่ 13.60 บาท เพิ่มขึ้น 3.10 บาท หรือ 29.52% มูลค่าซื้อขาย 378.79 ล้านบาท บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST ปิดที่ 3.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.84 บาท หรือ 29.37% มูลค่าซื้อขาย 387.35 ล้านบาท และใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญบริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน)หรือ EMC-W1 ราคาปิดที่ 13.30 บาท เพิ่มขึ้น 2.60 บาท หรือ 24.30% มูลค่าการซื้อขาย 3.55 ล้านบาท

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) หรือ UOBKH กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลงสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนได้ขายหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มพลังงาน หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงบวกกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มแกว่งตัวในกรอบแคบๆ รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่มีการขึ้นเครื่องหมาย XD ทำให้มีแรงขายออกมา

"นักลงทุนได้ทิ้งหุ้นขนาดใหญ่ออกมา และหันไปลงทุนซื้อหุ้นขนาดเล็กในกลุ่มสินค้าเกษตรจากการที่ราคาสินค้าเกษตรได้มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น และเข้าไปลงทุนในหุ้นเก็งกำไรอื่นๆ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้จึงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ" นายโกสินทร์ กล่าว

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.25% เพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อนั้น เป็นตามความคาดหมายของหลายฝ่าย ทำให้ประเด็นดังกล่าวไม่มีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยแต่อย่างใด

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 เม.ย.) คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นคงจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยคาดว่าคงจะมีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ออกมา จากที่จะมีการประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล ซึ่งประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 822-824 จุด และแนวต้านที่ระดับ 830-832 จุด

นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า กนง.คงอัตราดอกเบี้ยตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย 1-2 จุดเท่านั้น โดยนักลงทุนได้ขายหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกมาจากก่อนหน้านี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะเก็งกำไรที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับตัวลดลง และเรื่องการลดภาษีการโอน

"ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นและปัจจัยลบใหม่ๆ ยังไม่มีเข้ามา ส่วนในเรื่องปัจจัยการเมืองใน ขณะนี้ยังไม่มีน้ำหนักต่อตลาดในเรื่องของการยุบพรรคและการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องใช้เวลาอีกนาน"

อย่างไรก็ตาม ในช่วงประกาศผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารพาณิชย์ประจำไตรมาส 1/51 จะเป็นปัจจัยหลักช่วยสนับสนุนให้มีแรงซื้อเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มดังกล่าว โดยแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง และประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 820 จุด แนวต้านที่ระดับ 830 จุด

นายรณกฤต สารรินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL กล่าวว่า ดัชนีแกว่งตัวแคบๆ จากหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ไม่มีการเคลือนไหว นักลงทุนจึงหันเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กๆจึงทำให้หุ้นขนาดเล็กในวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ดัชนีวานนี้ไม่ค่อยเคลื่อนไหว ส่วนในเรื่องผลการประชุมของกนง.ไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย เพราะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

"ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ จากที่ใกล้เข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ โดยมองกรอบการแกว่างตัวที่ 820-830 จุด มูลค่าการซื้อขายประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท จากการที่หุ้นขนาดใหญ่จะไม่ค่อยเคลื่อนไหวนักลงทุนควรที่หันมาเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นขนาดเล็ก"

--จบ--

--ผู้จัดการออนไลน์

:lol:

บล.นครหลวงไทย

Stock Picks
( SELL ) TDEX 5.85 - 5.95
( SELL ) BANPU 420 - 436
( SELL ) BBL 138 - 142

แนวโน้ม มีแนวโน้มปรับลง กรอบ 818-828 จุด
* SCIBS คาดว่าดัชนีตลาดจะเคลื่อนตัวในกรอบ 818-828 จุด
* สัญญาณทางเทคนิคฯหลังจากที่ตลาดมีแนวโน้มเป็น sideway มา 10 วัน ล่าสุด candle stick และ price pattern แสดงสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับลง (จากที่เราคาดว่าเป็น sideway และค่อนไปทางขึ้น) คาดว่าแนวโน้มที่ยังไม่ทะลุ 830 จุดขึ้นไปในช่วงนี้ น่าจะเป็นรูปแบบปรับฐานก่อน อาจทดสอบ 810 จุด ในระยะใกล้
* SCIBS แนะนำควรขายออกไปก่อน และรอซื้อกลับที่แนวรับ 810 จุด หุ้นที่ควรขาย คือ หุ้นกลุ่ม SET 50
* TDEX แนวโน้มราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับลง หลังจาก candle stick และ price pattern แสดงสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับลง แนะนำขายออกไปก่อน
* BANPU แนวโน้มราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับลง หลังจาก candle stick และ price pattern แสดงสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับลง แนะนำขายออกไปก่อน
* BBL แนวโน้มราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับลง หลังจาก candle stick และ price pattern
แสดงสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับลง แนะนำขายออกไปก่อน

Most Active Stocks

BANPU
ราคาปิด 432
แนวรับ 424
แนวต้าน 436
แนวโน้ม SIDEWAY DOWN
BANPU คงนโยบายขายล่วงหน้าถ่านหินในปี 2552 ที่ 60% ตอนนี้ตกลงขายแล้ว 40%

PTT
ราคาปิด 318
แนวรับ 312
แนวต้าน 322
แนวโน้ม SIDEWAY
PTT-PTTAR-PTTCH ร่วมทุนโครงการผลิต Bis-Phenol-A มูลค่า 251 ล้านดอลล์

KBANK
ราคาปิด 91.5
แนวรับ 91
แนวต้าน 92.5
แนวโน้ม SIDEWAY
KBANK คาดว่า ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 1/51 จะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 4% ขณะที่การปล่อยสินเชื่อยังเป็นไปตามเป้าหมาย

SCB
ราคาปิด 89
แนวรับ 88
แนวต้าน 90
แนวโน้ม SIDEWAY
SCB ขาย NPL Q1/51 ได้ 8 พันล้านบาท โดยในปี 2551 ธนาคารมีเป้าหมายที่จะลดลงเป็น 5% หรือต่ำกว่า จากที่เมื่อปี 2550 อยู่ที่ 6.1% ในปี 2550

PTTEP
ราคาปิด 156
แนวรับ 154
แนวต้าน 159
แนวโน้ม SIDEWAY
PTTEP และพันธมิตรใหม่ "ซีนุค" ลงนามแลกเปลี่ยนสิทธิในการสำรวจปิโตรเลียมในสหภาพพม่า นับเป็นการร่วมมือด้านการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมครั้งแรกระหว่างบริษัทน้ำมันของไทยกับจีน

APURE
ราคาปิด 2.7
แนวรับ 2.68
แนวต้าน 2.9
แนวโน้ม SIDEWAY UP
APURE คาดว่าในปี 2551 มีแนวโน้มจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้จากปีก่อนที่ขาดทุนกว่า 60.72 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯ มีการทำงานอย่างเต็มที่

TT&T
ราคาปิด 1.23
แนวรับ 1.1
แนวต้าน 1.25
แนวโน้ม SIDEWAY DOWN
-
BBL
ราคาปิด 141
แนวรับ 138
แนวต้าน 142
แนวโน้ม SIDEWAY DOWN
BBL ขายหุ้นในบริษัทกลุ่มไทยโพลิเมอร์รวมมูลค่า 40 ล้านบาท

GSTEEL
ราคาปิด 1.15
แนวรับ 1.12
แนวต้าน 1.25
แนวโน้ม SIDEWAY
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. มีการซื้อขายหุ้นรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้นของบริษัท จีสตีล (GSTEEL)
จำนวน 230 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 1.08 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 248.4 ล้านบาท

ADVANC
ราคาปิด 99
แนวรับ 98
แนวต้าน 100
แนวโน้ม SIDEWAY
ADVANC เปิดให้บริการ 3G รายแรก 6 พ.ค นี้ที่เชียงใหม่เป็นแห่งแรก และ 15 มิ.ย.ที่
กรุงเทพ

:lol: