ChennyVI สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 84 | วันที่: 17/04/2008 @ 08:48:07 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต แนวโน้มตลาด
มุมมองตลาด: หุ้นไทยน่าจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมของปีนี้ที่ระดับ 845.76 จุดในวันนี้ หลังการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความคาดหวังว่าผลกำไรของธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะอยู่ในช่วงขาลง
ประเด็นสำคัญ: หุ้นที่มีพื้นฐานเติบโตแข็งแกร่งจะวิ่งนำตลาด เนื่องด้วยความเสี่ยงจากภายนอกลดลงเล็กน้อย อีกทั้งนักลงทุนให้ความสนใจน้อยลงกับปัญหาการเมืองในประเทศ
พัฒนาการตลาด:
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้น จากผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาดของบริษัทอินเทล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ผลประกอบการของกลุ่มเทคโนโลยี และ เจพี มอร์แกน (สถาบันการเงินขนาดใหญ่)
นักลงทุนต่างชาติกลับมา ซื้อสุทธิจำนวน 1.14 พันล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วน 45% ของมูลค่าซื้อขายรวม (21.3 พันล้านบาท) เมื่อวานนี้ หุ้นขนาดใหญ่จะได้รับผลดีจากเงินทุนที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องและภาวะตลาดที่เริ่มฟื้นตัวในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบปิดที่ 114.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ เนื่องจากปริมาณสำรองลดลงเกินคาด
แนวการเทรดหุ้น:
หุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานการเติบโตดี น่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยเราแนะนำ KBANK, BAY, PTTEP และ PTT เนื่องจากการขยายธุรกิจและกำไรมีแนวโน้มเติบโตดี
TOP เป็นหุ้นพลังงานที่เราชอบที่สุดในขณะนี้ จากการที่ค่าการกลั่นฟื้นตัวมาอยู่ในระดับ 10 เหรียญต่อบาร์เรล และการขยายกำลังการผลิตทั้งในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่แนะนำคือ BANPU, UMS, TTA, CPF และ TVO เราคาดว่าผลกำไรของหุ้นเหล่านี้จะเติบโตแข็งแกร่งในปีนี้
เรายังแนะนำ LPN ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวในเวลาอันใกล้นี้
กลยุทธ์หุ้น
ซื้อหุ้น TOP บนฐานการเติบโตของธุรกิจ ธุรกิจของบริษัทฟื้นตัวและพัฒนาไปในทางที่ดีอย่างมากแต่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกนัก ทั้งค่าการกลั่นที่ปรับขึ้นไปสูงที่ 10เหรียญต่อบาร์เรล กำลังการกลั่นและ กำลังการผลิตปิโตรเคมีที่ได้ดำเนินการขยายไปแล้ว อีกทั้งราคาพลังงานก็ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่หุ้นซื้อขายที่ PE เพียง 7.2 เท่า
สัดส่วนการลงทุน
เรายังคงสัดส่วนการถือครองเงินสดในระดับ 35% แม้ตลาดจะปรับตัวขึ้น
สัดส่วน
หุ้นหลัก
Cash
35%
Blue chips
25%
PTT, BBL, PTTEP, และ KBANK
Index stocks
19%
TTA, BAY, BANPU, และ TCAP
Story stocks
16%
CPF, BLS, PHATRA, BECL, HMPRO, และ MCOT
Small caps
5%
UMS, ROJANA, KH, MJD, และ SPALI
หุ้นน่าจับตา
หุ้น LPN ตกลง 5% เมื่อวานนี้ ซึ่งไม่ได้มีข่าวลบใด ทำให้เราคาดว่าราคาหุ้นจะมีแรงดีดกลับได้ในวันนี้ ทั้งนี้ ล่าสุดเราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้นของ LPN ราว 17% (จากการรวมผลประโยชน์จากมาตรการภาษีใหม่ของรัฐบาลเป็นหลัก) บริษัทมีโครงการขนาดใหญ่ 4 แห่งมูลค่า 6.5 พันล้านบาท ซึ่งสร้างและขายไปแล้วกว่า 80% จะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ก็จะได้รับผลประโยชน์ไปมาก เราจึงได้คาดว่ากำไรจะขยายตัวถึง 40% ในปีนี้ แต่มี PE เพียง 10 เท่าเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ที่เทรดกัน 14-21 เท่า
|