May 3, 2024   4:36:16 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ประเมินแนวโน้มตลาด Kim Eng
 

ChennyVI
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 84
วันที่: 17/04/2008 @ 08:48:07
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แนวโน้มตลาด

มุมมองตลาด: หุ้นไทยน่าจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมของปีนี้ที่ระดับ 845.76 จุดในวันนี้ หลังการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความคาดหวังว่าผลกำไรของธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะอยู่ในช่วงขาลง

ประเด็นสำคัญ: หุ้นที่มีพื้นฐานเติบโตแข็งแกร่งจะวิ่งนำตลาด เนื่องด้วยความเสี่ยงจากภายนอกลดลงเล็กน้อย อีกทั้งนักลงทุนให้ความสนใจน้อยลงกับปัญหาการเมืองในประเทศ

พัฒนาการตลาด:

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้น จากผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาดของบริษัทอินเทล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ผลประกอบการของกลุ่มเทคโนโลยี และ เจพี มอร์แกน (สถาบันการเงินขนาดใหญ่)
นักลงทุนต่างชาติกลับมา ซื้อสุทธิจำนวน 1.14 พันล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วน 45% ของมูลค่าซื้อขายรวม (21.3 พันล้านบาท) เมื่อวานนี้ หุ้นขนาดใหญ่จะได้รับผลดีจากเงินทุนที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องและภาวะตลาดที่เริ่มฟื้นตัวในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบปิดที่ 114.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ เนื่องจากปริมาณสำรองลดลงเกินคาด
แนวการเทรดหุ้น:

หุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานการเติบโตดี น่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยเราแนะนำ KBANK, BAY, PTTEP และ PTT เนื่องจากการขยายธุรกิจและกำไรมีแนวโน้มเติบโตดี
TOP เป็นหุ้นพลังงานที่เราชอบที่สุดในขณะนี้ จากการที่ค่าการกลั่นฟื้นตัวมาอยู่ในระดับ 10 เหรียญต่อบาร์เรล และการขยายกำลังการผลิตทั้งในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่แนะนำคือ BANPU, UMS, TTA, CPF และ TVO เราคาดว่าผลกำไรของหุ้นเหล่านี้จะเติบโตแข็งแกร่งในปีนี้
เรายังแนะนำ LPN ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวในเวลาอันใกล้นี้
กลยุทธ์หุ้น

ซื้อหุ้น TOP บนฐานการเติบโตของธุรกิจ ธุรกิจของบริษัทฟื้นตัวและพัฒนาไปในทางที่ดีอย่างมากแต่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกนัก ทั้งค่าการกลั่นที่ปรับขึ้นไปสูงที่ 10เหรียญต่อบาร์เรล กำลังการกลั่นและ กำลังการผลิตปิโตรเคมีที่ได้ดำเนินการขยายไปแล้ว อีกทั้งราคาพลังงานก็ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่หุ้นซื้อขายที่ PE เพียง 7.2 เท่า


สัดส่วนการลงทุน

เรายังคงสัดส่วนการถือครองเงินสดในระดับ 35% แม้ตลาดจะปรับตัวขึ้น


สัดส่วน
หุ้นหลัก

Cash
35%


Blue chips
25%
PTT, BBL, PTTEP, และ KBANK

Index stocks
19%
TTA, BAY, BANPU, และ TCAP

Story stocks
16%
CPF, BLS, PHATRA, BECL, HMPRO, และ MCOT

Small caps
5%
UMS, ROJANA, KH, MJD, และ SPALI


หุ้นน่าจับตา

หุ้น LPN ตกลง 5% เมื่อวานนี้ ซึ่งไม่ได้มีข่าวลบใด ทำให้เราคาดว่าราคาหุ้นจะมีแรงดีดกลับได้ในวันนี้ ทั้งนี้ ล่าสุดเราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้นของ LPN ราว 17% (จากการรวมผลประโยชน์จากมาตรการภาษีใหม่ของรัฐบาลเป็นหลัก) บริษัทมีโครงการขนาดใหญ่ 4 แห่งมูลค่า 6.5 พันล้านบาท ซึ่งสร้างและขายไปแล้วกว่า 80% จะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ก็จะได้รับผลประโยชน์ไปมาก เราจึงได้คาดว่ากำไรจะขยายตัวถึง 40% ในปีนี้ แต่มี PE เพียง 10 เท่าเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ที่เทรดกัน 14-21 เท่า

 กลับขึ้นบน
ChennyVI
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 84
#1 วันที่: 17/04/2008 @ 08:50:24 :
กระแสข่าว/กลยุทธ์ (17/04/51)

เอกสารนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุนเท่านั้น มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะชักชวนหรือชี้นำการซื้อขายหลักทรัพย์ใดโดยเฉพาะหรือเป็นการทั่วไปแต่อย่างใด นักลงทุนพึงใช้ข้อมูลในเอกสารนี้ประกอบกับข้อมูลและความเห็นอื่น ๆ และวิจารณญาณของตนในการตัดสินใจการลงทุนให้เหมาะสมแก่กรณี ทั้งนี้ความเห็นที่แสดงอยู่ในเอกสารนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้จัดทำ บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ตลอดจนผู้บริหารและพนักงานของบริษัทไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องกับความเห็นที่แสดงอยู่ในเอกสารนี้ด้วยแต่อย่างใด
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com