*"โมนิก้า" ไม่รู้ว่าระหว่างดีใจ หรือเสียใจอันไหนจะดีกว่ากันในยามนี้ หลังเห็นดัชนีเด้งพรวดพราดบวกไปถึง 6.28 จุด ก่อนจะมาปิดที่ 833.38 จุด ขณะเดียวกันก็ได้รับข่าวร้ายว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาถึงระดับ 114 เหรียญ/บาเรล ส่งผลให้ปั๊มต่างๆ เตรียมขยับขึ้นราคาน้ำอีกรอบ

*โดยล่าสุดราคาน้ำมันดีเซลก็ขยับขึ้นมายืนถึงระดับ 32.44 บาท หากราคาน้ำมันยังพุ่งพราดอย่างต่อเนื่อง "โมนิก้า" รับรองว่า มีปัญหาตามามากมายแน่ๆ ซึ่งหนึ่งนั้นจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักรวมอยู่ด้วย เพราะข้าวของเรื่องใช้ต่างๆ จะขึ้นราคาอย่างบ้าระห่ำ

*เมื่อสถานการณ์ออกมาในรูปนี้ "โมนิก้า" ก็คงไม่มีอารมณ์พูดถึงเรื่องการเล่นน้ำสงกรานต์ในช่วงที่ผ่านมา เพราะนับวันประเพณีอันดีงามจะเสื่อมทรามลงอย่างน่าใจหาย แถมข่าวแต่ละเรื่องที่ออกมาในช่วงนั้นก็เต็มไปด้วย "ตัณหาราคาะ" จึงไม่น่าจะกล่าวถึงให้เปลื้องน้ำลาย!!!

*จริงที่นักวิเคราะห์บางแห่งออกมาแนะนำให้จับตาดูหุ้นพลังงานมากเป็นพิเศษ แต่เมื่อลองคิดคำนวณถึง ผลได้ ผลเสีย อย่างละเอียดยิบ "โมนิก้า" คิดว่าไม่ควรเอาตัวเข้าไปเสี่ยง เพราะสารพันปัญหารุมเร้ารอบด้าน...ดัชนีจะเหินทะยานขึ้นไปอย่างมั่นคงได้อย่างไรกันเล่า???

*นักลงทุนจำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าวมากเป็นกรณีพิเศษ เพราะหุ้นบลูชิพที่ขยับขึ้นได้วันนี้ วันถัดไปใช่จะขยับขึ้นต่อ โดยเฉพาะในภาวะการลงทุนหน้าสิ่วหน้าขวาน และมีตัวแปรหลายอย่างเป็นตัวกำหนดทิศทางของดัชนี นักลงทุนที่สมควรเข้ามาลงทุน น่าจะเป็นพวกที่มีเงินเย็นจริงๆ นะจะบอกให้

*สำหรับประเด็นยุบพรรคการเมืองที่กลัวกันว่า กระทบต่อบรรยากาศการลงทุน "โมนิก้า" กลับคิดว่า ไม่น่าจะรุนแรงเท่ากับที่มีการพูดกันก่อนหน้านี้ เพราะมีข่าวลือแพร่งพรายออกมาก่อนหน้านี้ว่า "อย่างงั้ยก็ต้องถูกยุบพรรค" ส่งผลให้ฝรั่งดำ ฝรั่งหัวแดง ทำใจกับเรื่องดังกล่าวได้มากเลยทีเดียวนะจ๊ะ

*การลงทุนในภาวะตลาดหุ้นผันผวน จึงต้องอาศัยประสบการณ์ และความเก๊าเกมมากเป็นพิเศษ เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนต้องว่ากันวันต่อวัน และไม่สามารถดูไปข้างหน้ายาวๆ ได้...แถมการไปโรดโชว์เพื่อสร้างความมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมากนัก เพราะกองทุนต่างๆ สงวนท่าทีการลงทุนเหมือนกันหมดทุกที่...มันเลยตายหยังเขียดไงหล่ะค่ะ

*หุ้นกลุ่มพลังงานมาตามนัดเหมือนกับ "ข่าวหุ้น" นำเสนอไปเมื่อสัปดาห์ก่อน...ครั้งนี้นำทัพใหญ่ด้วย PTT PTTEP TOP PTTAR และ PTTCH โดยทุกตัวมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า ราคาต่ำกว่านี้ไม่มีโอกาสได้เห็นอีกต่อไป

"โมนิก้า" จึงขอแสดงความยินดีกับแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามอ่านหนังสือพิมพ์ทุกวัน เพราะผลกำไรที่งอกเงยคราวนี้ไม่ได้มาจากความฟลุค!!!

*ส่วนไฮไลท์หุ้นกลุ่มแบงก์ยังอยู่ 2 เสือ KBANK และ SCB ราคาหุ้นแกว่งตัวฉวัดเฉวี่ยน และผลัดกันเบียดขึ้นเป็นผู้นำแบบนี้ เหมาะที่จะซื้อลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะตามรูปการณ์ "หุ้นจะขึ้นไปถึง 100 บาท" เหมือนที่กูรูสำนักต่างๆ มองไว้อย่างแน่นอน หลังราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดถึงที่ 92.50 บาท กับ 93.50 บาทแล้วนะจ๊ะ

*สำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเงินถุงเงินถัง "โมนิก้า" ขอแนะนำให้เหลือบดูหุ้น BAY ตัวเดียวโดดๆ หลังสัญญาณทางเทคนิคฟ้องว่ากำลังไต่เพดานสูงขึ้นไปเรื่อยๆ พร้อมกับมีโอกาสขึ้นไปยืนเฉียดๆ 30 บาทแบบนี้...เดี๊ยนไม่แนะนำให้ขาประจำเข้าเล่นได้อย่างไรหล่ะจ๊ะ

*แปลกประหลาดต้องยกให้ ADVANC ร่วงปิดลบแดงแจอย่างน่าตกใจ เมื่อเหลือบตามาดูอีกทีก็พบว่า เป็นการขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นละ 3.30 บาท จึงรู้สึกเฉยๆ ที่เห็นราคาหุ้นร่วลงมาปิดที่ 95 บาท ลบไป 3 บาท เพราะท้ายสุดหุ้นจะกลับขึ้นไปยืนแถว 100 บาทเหมือนเดิมเจ้าค่ะ

*พูดถึงหุ้นบลูชิพพอประมาณแล้ว "โมนิก้า" ขอวกกลับมาที่หุ้นเก็งกำไรสั้นๆ ยอดนิยม หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค KASET อีกสักครั้ง เพราะวานนี้แสดงความแข็งแกร่งด้วยการทะยานขึ้นมาปิดที่ 5.30 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไปถึง 26% มองจากมุมไหนก็ไม่ทางลงง่ายๆ เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นเกือบ 400 ล้านบาท แสดงว่านักลงทุน want... หุ้นตัวนี้มากๆ นะค่ะ

*ในรายของ LST เห็นผลุ๊บๆ โผล่ๆ และออกอาการจะกลับบ้านเก่าทุกเมื่อ แต่พอคล้อยหลังได้แป๊บเดียว พ่อทูนหัวกลับฉวยโอกาสดันหุ้นขึ้นสุดลิ่มทิ่มประตู "โมนิก้า" มองเป็นเรื่องความสามารถเฉพาะบุคคล ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้...ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 4.04 บาท บวกไป 0.58 บาท หรือขึ้นไปเกือบ 17% ขณะที่ยอดเดิมเมื่อ 3 วันที่แล้วอยู่แถว 4.30 บาท น่าตามหรือไม่...คิดกันเอาเองนะค่ะ

*ตบท้ายกันที่ TRAF จู่ๆ มีมือดีเข้ามาดันราคาในช่วงที่หุ้นกำลังอยู่ในช่วงขาลงแบบนี้ แสดงว่าตั้งใจเข้ามาทำราคาเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาต่อยอด ซึ่งล่าสุดราคาหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 6 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไปถึง 17% มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดไหมหล่ะ

:lol: