บล.ธนชาต

แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนตัว และผลประกอบการของบริษัทส่วนใหญ่ลดลง แต่ Dow Jones ยังปิดบวกได้จากความเชื่อว่าวิกฤติเศรษฐกิจใกล้สิ้นสุด สำหรับตลาดไทย TNS ยังแนะนำกลุ่มธนาคารที่ผลประกอบการน่าจะออกมาดี โดยวันนี้ KBANK รายงานกำไรที่ดีกว่าคาด นอกจากนี้ เรายังแนะนำ "ซื้อ"
KTB ที่มี P/BV ต่ำ และคาดว่าจะรายงานกำไรใน 1Q08 ที่เพิ่มขึ้น 9 เท่าจาก 4Q07

หุ้นสถาบันการเงินช่วย Dow Jones ปิดบวกแม้รายงานเศรษฐกิจอ่อนตัว
* แม้ดัชนี Dow Jones เปิดตลาดด้วยการลดลงจากความกังวลตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่
สามารถปิดบวกได้เล็กน้อย หนุนช่วยโดยหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินจากการคาดการณ์ว่าปัญหาวิกฤติในตลาดสินเชื่อใกล้สิ้นสุด

* Fed (Philadelphia) รายงานดัชนีภาคอุตสาหกรรมการผลิต เม.ย.ที่ติดลบ 24.9 จุด
ต่ำสุดในรอบ 7 ปี ในขณะที่จำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดใน 4 ปี เป็น 2.98 ล้านคน

* ผลกำไรใน 1Q08 ของ 61 บริษัทใน S&P 500 ที่ประกาศจนถึงปัจจุบันโดยเฉลี่ยลดลง 26% y-y ในขณะที่บริษัทกลุ่มสถาบันการเงินรายงานผลประกอบการแย่สุด ลดลง 67%

น้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงจาก demand ในช่วง driving season
* NYMEX อ่อนตัวเล็กน้อยมาปิดที่ USD114.86/bbl (แตะ new high ที่
USD115.54/bbl)

* ตลาดยังคาดว่าความต้องการน้ำมันจะสูงขึ้นในฤดูร้อนซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวในสหรัฐง
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และเงินเฟ้อที่สูงยังทำให้มีการเข้าซื้อน้ำมันเพื่อป้องกันความเสี่ยง

KBANK (BUY; TP THB105.0 ) ผลประกอบการน่าประทับใจ
* รายงานกำไรเพิ่มขึ้น 14% y-y และ 22% q-q ซึ่งดีกว่าที่เรา และตลาดคาดการณ์
* เงินกู้เติบโตสูงขึ้น 4.9% q-q จากสินเชื่อธุรกิจ
* NIM เพิ่มขึ้นเป็น 3.9% ในขณะที่ NPL ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 4.9%
* มี upside 13% จากเป้าหมาย และเราคาดว่า KTB (BUY; TP THB14.0) น่าจะมี
upside มากกว่าเพราะธุรกิจฟื้นตัว, คาดกำไร 1Q08 เติบโต 9 เท่าจาก 4Q07 และมี P/BV ต่ำ

MINT (BUY; TP THB21.1) ปรับกำไร & ราคาเป้าหมายขึ้น (อ่าน Company Note)
* เราปรับสมมติฐาน room rate & occupancy rate ขึ้น รวมทั้งตั้งงบซื้อกิจการเพิ่มขึ้น
* ปรับกำไรปี 2008-10 ขึ้น 2-10% คาด Eps โต 25% ปีนี้ และ 17% ต่อปีใน 2 ปีหน้า
* ราคาเป้าหมายปรับขึ้นจากเดิม 8.8% (จาก 19.4 บาท) เป็น 21.1 บาท
* มีจุดแข็งในตะวันออกกลาง & เอเชีย และมีตลาดใหม่ในยุโรป & แอฟริกา
* มี PEG ปีหน้าใกล้กับค่าเฉลี่ยในเอเชีย แต่กำไรขยายตัวสูง และน่าจะทำ PEG ลดลง

AOT (BUY; TP THB67.0) สถานะการเงินแข็งแกร่งรองรับแผนขยายธุรกิจ
* รมว.คมนาคมเตรียมผลักดันการลงทุนเฟส 2 ของสุวรรณภูมิ มูลค่า 73 พันล้านบาท
* การขยายเฟส 2 จะทำให้รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น จาก 45 ล้านคน เป็น 60 ล้านคน
* เราคาดว่า AOT ไม่มีปัญหาแหล่งเงินลงทุนเพราะมีสถานะการเงินที่ดี ยังแนะนำ "ซื้อ"

NEWS BY THE NUMBER

5.1% GDP08
+ เศรษฐกิจ: ม.หอการค้าไทย ปรับเป้า GDP ปีนี้โต 5.1% ชี้ปัจจัยหนุนส่งออกขยายตัวสูง
ต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลวงเงินแสนล้านบาท ผลักดันการบริโภคและลงทุนฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังประเมินเงินเฟ้อพุ่ง 4.8% เหตุน้ำมันแพงและมาตรการตรึงราคาสินค้าไร้ผล แนะรัฐตรึงอัตราดอกเบี้ย (กรุงเทพธุรกิจ)

4 พันล้านบาท
Sell TP 87 บาท
0 ADVANC: เปิดขายหุ้นกู้อายุ 5 ปี มูลค่า 4,000 ล้านบาท กำหนดอัตราดอกเบี้ย 4% ใน
2 ปีแรก และ 4.90% ใน 3 ปีหลังจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน พร้อมเปิดจองซื้อในวันที่ 24-29 เม.ย.นี้ ผ่านสาขาของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ (ทันหุ้น)

7 หมื่นลบ.
- AOT: รมว.คมนาคม เห็นชอบ AOT ทุ่มเงินกว่า 7 หมื่นล้าน ขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 เตรียมเปิดประมูลงานแรก ก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 วงเงิน 3.6 พันล้านภายในปีนี้ ส่วนปีหน้าลงทุนอาคารผู้โดยสารอีก 2 หลัง คาดสามารถรองรับผู้โดยสารได้อีก 15 ล้านคนต่อปี พร้อมสั่งกรมขนส่งทางอากาศ สำรวจที่ดินโดยรอบสนามบิน เล็งขยายพื้นที่หลังปี 2019 (ข่าวหุ้น) BuyTP 67 บาท

100% ส่งออก
+ CIG: ผู้บริหารมั่นใจรายได้จากการส่งออกปีนี้โต 100% ขณะที่ออเดอร์ล่วงหน้าจ่อคิวเต็มขึ้น 2Q08 แล้ว เชื่อ 1H08 กวาดยอดขาย 1,000-1,500 ล้านบาท ระบุเดือน พ.ค. เตรียมลัดฟ้าขยายตลาดในประเทศอาร์เจนตินา ชิลี และบราซิล เพิ่ม (ทันหุ้น)

100 ล้านบาท
+ GRAMMY: โชว์ธุรกิจขายตรงซีดีเพลงรุ่ง ตั้งเป้าโกยรายได้ปีนี้ 100 ล้านบาท "ยงศักดิ์" มั่นใจอัลบั้มรวมฮิต-ลูกทุ่ง-สตริงมาแรงคนชอบซื้อ เปิดแผนรุกตลาดปี51 เพิ่มพนักงานให้ครบ 250 คน รองรับการขยายพื้นที่จัดจำหน่ายไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างน้อย 8 แห่ง (ข่าวหุ้น)

+14% กำไร 1Q08
Buy TP 105 บาท
+ KBANK: แจ้งผลการดำเนินงาน 1Q08 กำไรสุทธิ 4,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.47%y-y ขณะที่ยอด NPL Gross อยู่ในระดับ 4.46% (ผู้จัดการ)

100% รายได้ปี08
Buy TP 14 บาท
+ KSL: ตีปีกรับปีทองเอทานอลโชว์แค่ 5-6 เดือนแรก 19 ล้านลิตร เท่ากับทั้งปีของปีก่อนตั้ง
เป้ายอดขายเอทานอลปีนี้ 45 ล้านลิตร ขณะที่กำลังผลิตน้ำตาลทรงตัว 6 แสนตัน มั่นใจดันรายได้ปีนี้โตกว่า 10% เตรียมเดินเครื่องโรงงานน้ำตาลกัมพูชาปีหน้าไม่หวั่น "มิตรผล" ตีท้ายครัวตลาดอาเซียน "สนพ." ชี้ยอดใช้แก๊สโซฮอล์พุ่ง 108.4% (ข่าวหุ้น)

900 ล้านบาท
+ MFEC: มีรายได้แล้วกว่า 900 ลบ. หลังมูลค่างานในมือไหลเข้าไม่หยุด ด้านผู้บริหารเดิน
หน้าโกยงานกลุ่มสถาบันการเงินและเทเลคอมต้อนรับระบบ 3G พร้อมเล็งแตกไลน์ธุรกิจเพิ่มช่องทางรายได้ ขณะที่รายได้ 1Q08 ใกล้เคียงกับ 1Q07 ที่มีรายได้ 530 ลบ. ส่วนเป้าทั้งปีโต 20-30% (ทันหุ้น)

+30% รายได้ปี08
+ PSAP: PSAP ตั้งเป้ารายได้พุ่ง 30% หลังปรับทัพธุรกิจใหม่ลุยส่งสารคดีเจาะตลาด เชื่อขายได้แน่เหตุสินค้าดีราคาถูก แต่ย้ำไม่ขอเสนอสารคดีผ่านฟรีทีวี เพราะต้องการขายเองเป็นหลัก ผู้บริหารมั่นใจผู้ถือหุ้นอนุมัติเพิ่มทุน 21 เม.ย.แน่ แบไต๋ยังพร้อมขยายเงินทุนอีกหากข้อเสนอน่าสนใจ (ข่าวหุ้น)

วอร์แรนต์ เทรด พ.ค.
+ SPPT: คาด SPPT-W จำนวน 62.50 ล้านหน่วย ที่แจกฟรีให้ผู้ถือหุ้นเดิมจะเข้าซื้อขายต้นเดือน พ.ค.นี้ เชื่อว่าการที่ธุรกิจและปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมีความแข็งแกร่งน่าจะทำให้นักลงทุนสนใจและน่าจะส่งผลให้สภาพคล่องของหุ้นดีขึ้น (ผู้จัดการ)

200 ล้านบาท
+ TCC: ได้เงินขายหุ้นเหล็กบูรพา 200 ล้านบาท ปลาย เม.ย.นี้ ปิ๊งไอเดียสร้างโรงงานแยก
ถ่านหินเอง แก้ปัญหาส่งออเดอร์ล่าช้าคาดอีก 1 เดือนรู้ผลชัวร์ พร้อมนำเข้าถ่านหินล็อตสองต่อหลังล็อตแรก 2.4 หมื่นตันใกล้หมด เตรียมถกตลาดหลักทรัพย์ขอย้ายเทรดหมวดพลังงาน หากปั้นรายได้ถ่านหินทะลุ 1,000 ล้านบาท (ทันหุ้น)

1.4 พันล้านบาท
+ YNP: คาดรายได้ 1Q08 โต 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,100 ล้านบาท เหตุออเดอร์ค่ายโตโยต้าและฮอนด้าทะลัก ขณะที่ผลงานทั้งปีมั่นใจพลิกจากขาดทุนเป็นกำไรได้แน่ หลังเดินหน้าสรรหาพันธมิตรรายใหม่ร่วมทุน (ทันหุ้น)


:lol:

บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส

ภาพวันวาน
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ โดยตลาดหุ้นไทยบวก 1.45% พร้อมมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นสูงถึง 2.81 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 2 เดือน ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 2,760.16 ล้านบาท

ประเด็นร้อนวันนี้
* เชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มกลับตัว ดีต่อตลาดหุ้นเอเชียระยะกลาง
คืนวานตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาทรงตัว หลังจากฟื้นตัว 2 วันก่อนหน้า ทั้งนี้คาดว่าเป็นผลจากสถาบันการเงินของสหรัฐ ทยอยประกาศผลประกอบการงวด 1Q51 แม้ยังรายงานขาดทุนจากการตั้งสำรองหนี้ที่มีปัญหา แต่เป็นตัวเลขลดลง (เช่น Merrill Lynch ขาดทุนสุทธิ 1.96 พันล้านเหรียญฯ เกิดจากที่ตั้งสำรองฯ ถึง 6.6 พันล้านเหรียญฯ โดยมียอดขาดทุนสะสม 9 เดือนสุดท้าย 14 พันล้านเหรียญฯ) อย่างไรก็ตามคาดว่าการตั้งสำรองของสถาบันการเงินของสหรัฐต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 โดยรวมสำรองฯ 2.45 แสนล้านเหรียญฯ น่าจะรองรับความเสียหายได้ระดับหนึ่ง และเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ GDP growth งวด 1H51 อาจจะไม่เติบโตเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับการรายงานดัชนีที่สำคัญทางเศรษฐกิจชี้นำเดือน มี.ค. พบว่าเพิ่มขึ้น 0.1% เป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน น่าจะสนับสนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัว และมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 12,300-12,700 จุด และผลักดันให้หุ้นเอเชียฟื้นตัวในระยะกลาง โดยคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเดินหน้าทดสอบแนวต้าน 845-850 จุด แต่วันนี้เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ดัชนีอาจจะมีการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากดัชนีปรับตัวแรงมากวานนี้

* ราคาน้ำมันทรงตัว ค่าการกลั่นดีดตัวรุนแรง
ราคาน้ำมันดิบดูไบเริ่มทรงตัว ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 105 เหรียญฯต่อบาร์เรล แต่พบว่าค่าการกลั่นยังคงดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 13 เหรียญฯต่อบาร์เรล ทำให้ค่าเฉลี่ยจากต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 7.63 เหรียญฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ เชื่อว่าค่าการกลั่นจะมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ในช่วงไตรมาส 2 เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐ ในขณะที่ปริมาณเบนซินสำรองของสหรัฐกลับมีปริมาณที่ลดลงต่อเนื่องถึง 5 สัปดาห์แล้ว เป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการดีดตัวของค่าการกลั่นในระยะ 1-1.5 เดือน แนะนำซื้อหุ้นโรงกลั่น TOP(FV@B93.56), PTTAR(FV@B51.15)

* ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ หนุนดัชนีแกว่งตัวขึ้น
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่อง 2 วันทำการด้วยมูลค่ากว่า 3.9 พันล้านบาท แต่ตลอดเดือน เม.ย. มียอดซื้อสุทธิรวม 3.08 พันล้านบาท พร้อมมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้นเหนือระดับ 1.9 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อแนวโน้มระยะกลางของตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตามประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองโดยเฉพาะกรณีการยุบพรรคการเมือง 2 พรรคขนาดกลาง คาดว่าจะยืดเยื้อ และยังไม่มีข้อสรุปในระยะ 3 เดือนนี้ จึงเป็นปัจจัยที่จะอยู่กับตลาดต่อไป ดังนั้นการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาแรง จะมีแนวต้านสำคัญที่ 850 และ 860 จุด จึงควรเริ่มใช้กลยุทธ์ทยอยขายทำกำไรระยะสั้น เมื่อดัชนีเข้าสู่แนวต้าน และรอซื้อกลับเมื่อดัชนีอ่อนตัว

INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้าน ใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด: 820 / 860 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้แกว่งตัวเชิงลบ แนวรับ 835 จุด แนวต้าน 850 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : แนะนำเลือกซื้อหุ้นรายตัวเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าสู่แนวรับ AP(7.8/8.2),
SPALI(3.82/3.96), LPN(8.15/8.4), NNCL(2.08/2.2), DTAC(46.75/48.5)


:lol:

บมจ.ซิกโก้

ยังสดใส...
หลังสงกรานต์ผ่านไปดัชนี SET ก็เริ่มสดใสยิ่งขึ้นหลังจากที่ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆเป็นเวลานานในช่วงก่อนสงกรานต์ สาเหตุมาจากทั้งการเมืองภายในเรื่องการยุบพรรคการเมืองที่ยังต้องใช้เวลาในการตัดสินอีกนาน และแรงส่งจากดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกที่เริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง หลังจากที่ปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐเริ่มคลี่คลาย และตลาดกำลังรับข่าวผลดำเนินงานใน Q1/51 ส่งผลให้เม็ดเงินต่างชาติเริ่มไหลกลับมาอีกครั้ง ความโดดเด่นของตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องผลดำเนินงาน Q1 ของสถาบันการเงินที่ยังออกมาดี ขณะที่การปรับขึ้นของราคาน้ำมัน และปิโตรเคมีในตลาดโลกจะส่งผลดีต่อราคาหุ้นพลังงาน และปิโตรเคมี ซึ่งดูได้จากดัชนี MSCI Thailand เทียบกับดัชนีในภูมิภาค นับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ที่สามารถยืนในแดนบวกได้ดูจากรูปด้านซ้าย

* การปรับตัวสร้างสถิติรอบใหม่ของราคาน้ำมันที่เกิน 115 ดอลลาร์ต่อบาร์ ยังจะคงส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อขายหุ้นในกลุ่มพลังานหลักๆต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม้จะขึ้นได้ไม่สูงเหมือนกับที่ผ่านมา อันมีเหตุมาจากการกลัวกันว่าราคาน้ำมันที่ยังพุ่งขึ้นไม่หยุดจะเริ่มส่งผลต่อการใช้น้ำมัน และการที่ภาครัฐกำลังดำเนินนโยบายพยุงราคาเชื้อเพลิง (ดูจากรูปด้านขวา) แต่อย่างไรก็ตามในช่วงสั้นๆนี้คงยังไม่เห็นสัญญาณการขายออก ดังนั้นหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีจะยังหนุนตลาดหุ้นในช่วงหลังจากนี้ ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะยังยืนรับข่าวผลดำเนินงานใน Q1 หากราคาน้ำมันยังยืนสูงกว่า 100 หรือแม้กระทั่งขึ้นไปถึง 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณว่าการผลิตน้ำมันในรัสเซีย(ไซบีเรีย) กลับลดลงในรอบ 10 ปี หุ้นในกลุ่ม 2 นี้ถือว่าจะยังโดดเด่นและจะนำพาให้ดัชนี SET ขึ้นทะลุ 850 จุดได้ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากหุ้นทั้ง 2 กลุ่มนี้มีขนาดตลาดมากกว่า 30% และกำลังจะเข้าสู่ช่วง Peak ของค่าการกลั่น และการปรับตัวขึ้นของราคาปิโตรเคมีจากการเริ่มปิดโรงงานซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ในช่วง เม.ย. ถึง พ.ค.

* แรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานในรอบนี้จะต่างจากที่ผ่านมา เนื่องจากแรงซื้อจะมุ่งไปยังหุ้นที่ได้
ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นอย่าง PTTEP TOP และ PTTAR ขณะที่แรงซื้อหุ้น PTT และ PTTCH กลับไม่หนาแน่น และราคาหุ้นขยับขึ้นน้อยมาก น่าจะมีเหตุผลมาจากนโยบายการเข้าไปพยุงราคาเชื้อเพลิงบางประเภทที่ทาง PTT อาจต้องรับภาระ รวมทั้งการปรับตัวลงของสาร MEG แต่อย่างไรก็ตามสุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นที่จะกลับมาเล่นหุ้นเหล่านี้ เนื่องจากราคาหุ้นของทั้ง 2 ตัวนี้ถือว่ายังถูกโดยเปรียบเทียบรวมทั้งหุ้น BANPU หุ้นโรงกลั่นอีกตัวที่ระดับราคาก่อนหน้านี้แทบจะไม่ไปไหน แต่หลังจากที่ทางโรงกลั่นได้ทำการปรับปรุงขบวนการการกลั่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หุ้น BCP รวมทั้ง BCP-DR ก็เริ่มที่จะมีแรงซื้อขายที่คึกคักมากขึ้นตามลำดับ การปรับขบวนการในการกลั่นให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากเดิมที่กลั่นแล้วออกมาเป็นน้ำมันเตาในสัดส่วนสูง เป็นให้สัดส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น ที่สุดจะทำให้ผลดำเนินงานเริ่มดีขึ้นตามลำดับ เราจึงแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 16.5 บาท

* หลังจากนี้คือในสัปดาห์หน้า ดัชนี SET คงจะยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมี รวมทั้งสื่อสารใหญ่ (ADVANC ราคาเป้าหมายที่ 107 บาท/DTAC ราคาเป้าหมายที่ 53 บาท/TRUE
ราคาเป้าหมายที่ 6.2 บาท) ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะเป็นตัวเสริม โดยหุ้นในกลุ่มนี้ที่ยังพอมี Gap ให้เล่นคือ KBANK ราคาเป้าหมายที่ 102 บาท/BAY ราคาเป้าหมายที่ 29 บาท อย่างไรก็ตามในภาวะที่ราคาน้ำมันขึ้นสูงระดับนี้และยังมีสิทธิขึ้นแตะสร้างสถิติใหม่ที่ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็ให้ระวังแรงขายหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปูนและผู้ผลิตเหล็ก เพราะนอกจากจะถูกกดดันจากภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นแล้ว ราคาหุ้นส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับที่สูง การเข้าเล่นหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์รอบใหม่ ยังต้องรอให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงมากกว่านี้

:lol:

บล.กิมเอ็ง


แนวโน้มตลาดวันนี้
มุมมองตลาด: เม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นจากยังคงผลักดันตลาดและจิตวิทยาตลาดโดยดัชนีจะเข้า
ทดสอบช่วง 850-855 เราก็เห็นว่าจะมีแรงทำกำไรในตลาดแต่ก็น่าจะมีผลจำกัดในระยะนี้
แนวคิดสำคัญ: การกลับเข้าตลาดของนักลงทุนสถาบัน (นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2.8 พันล้านบาท) ในระหว่างที่ตลาดหุ้นทั่วโลกมีเสถียรภาพและศักยภาพกำไรหุ้นไทยอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยดี

ปัจจัยสำคัญของตลาด:
* หุ้นสหรัฐฯมีเสถียรภาพ หลังจากรับรู้งบไม่ดีของเมอร์ริลลินซ์ แต่กำไรของกูเกิลล์ออกมาดี
(สะท้อนในหุ้นซื้อขายล่วงหน้า) น้ำมันดิบ ลงเล็กน้อยแต่คงระดับสูงที่ US$114.86/บาร์เรล
* งบ KBANK ไตรมาส 1/51 ออกมาดีกว่าคาดที่ 4.4 พันล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน เป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจและกำไรบริษัททางอ้อมได้ดี สินเชื่อเติบโตดีกว่าที่คาดไว้รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียม ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 51 เพิ่มขึ้น 3.2% จากประมาณการเดิมของเรา

แนวทางการเทรดหุ้น
* หุ้นใหญ่ในกลุ่ม PTT (PTT, TOP, PTTEP และ PTTAR) น่าจะไปต่อได้เพราะมูลค่าพื้นฐานนั้นยังสูงกว่าราคาตอนนี้ โดยหุ้น TOP และ PTTEP มีปัจจัยการเติบโตของธุรกิจ
* เทรดหุ้นแกว่งไกวสูง (high-beta) เช่น ถ่านหิน และ เดินเรือ (BANPU, UMS และ
TTA) เพราะราคาถ่านหินปรับขึ้นไป US$125.1/ตัน และ ค่าระวางทะลุ 8,038 ไปได้
* ธนาคารใหญ่ (BAY, KBANK และ BBL) จะไปได้ต่อเพราะงบ KBANK ออกมาสวย แม้ว่าอาจจะมีการขายหุ้น KBANK และ SCB ออกมาบ้างแต่ปริมาณการซื้อขายจะยังดี
* หลักทรัพย์ใหญ่ จะกลับมาเป็นที่นิยมของตลาดมากขึ้นเพราะดัชนีหุ้นดี การซื้อขายสูงขอให้เน้นหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ได้แก่ PHATRA, ASP และ BLS
* SSI จะเป็นตัวเก็งกำไรที่ดีเพราะกำไรระยะสั้นเติบโตสูงมากเพราะราคาเหล็กดีแต่ต้นทุนต่ำ เราได้ปรับราคาเหมาะสมขึ้นไปเป็น 1.2 บาท

กลยุทธ์หุ้น

* ซื้อ BAY และ BAY-W1
ธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น, การซื้อ GECAL และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็น 3.6% เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของ BAY ดังนั้น BAY-W1 ก็เป็นหุ้นที่มีความไวต่อดัชนีที่น่าสนใจด้วย

* ซื้อหุ้นหลักทรัพย์ขนาดใหญ่อย่าง PHATRA, ASP และ BLS
ภาวะตลาดที่มีแนวโน้มดีขึ้นและมูลค่าการซื้อขายที่กลับมาคึกคักอีกครั้งจะช่วยดึงดูดความสนใจของนักลงทุนในหุ้นหลักทรัพย์ขนาดใหญ่

* ซื้อเก็งกำไรหุ้น SSI
เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในครึ่งปีแรกจะฟื้นตัว เนื่องจากราคาขายเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงเรื่องผลกำไรที่อาจผันผวน แต่ก็เป็นหุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ

สัดส่วนการลงทุน
เรายังคงสัดส่วนการถือครองเงินสดในระดับ 35% แม้ตลาดจะปรับตัวขึ้น

สัดส่วน หุ้นหลัก
เงินสด 35%
หุ้นขนาดใหญ่ 25% PTT, BBL, PTTEP, และ KBANK
หุ้นไวต่อดัชนี 19% TTA, BAY, BANPU, และ TCAP
หุ้นมีประเด็น 16% CPF, BLS, PHATRA, BECL, HMPRO, และ MCOT
หุ้นขนาดเล็ก 5% UMS, ROJANA, KH, MJD, และSPALI

หุ้นน่าจับตา
SSI ถูกปรับเพิ่มมูลค่าเหมาะสมเป็น 1.2 บาท/หุ้น โดยนักวิเคราะห์ของเราคาดการณ์ว่าบริษัทจะกลับมามีกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/51 หลังจากขาดทุนเมื่อปีที่ผ่านมา รวมทั้งคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/51 จะปรับตัวดีขึ้นจากราคาเหล็กที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 970 เหรียญ/ตัน ส่วนต่างราคาเหล็กที่สูงขึ้นจะช่วยให้บริษัทมีกำไร 400 ดอลลาร์/ตัน โดยSSI ได้สต็อกวัตถุดิบslab สำหรับใช้ราว 1 ไตรมาสอยู่ราคาราว 553- 563 ดอลลาร์/ตัน ขณะที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 800-850 ดอลลาร์/ตัน

บทวิเคราะห์วันนี้

> AIT <16.90 บาท : ซื้อ> ปรับประมาณการ และ ราคาเหมาะสมขึ้น จากงานในมือที่สูง
และ แนวโน้มปีนี้จะเติบโตโดดเด่น
> CPF <4.84 บาท : ทยอยสะสม> จะพลิกจากขาดทุนเป็นกำไรจากราคาหมูและไก่ที่สูงขึ้นมาก
> KBANK <92.50 บาท : ซื้อ> อีกหนึ่งไตรมาสที่ผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง
> BECL <20.30 บาท : ทยอยสะสม> ยอดการใช้ทางด่วนไตรมาส 1/51 ยังชะลอตัวจากผลกระทบของวงแหวนด้านใต้

สรุปข่าว

ชัดเจนแก้รธน.เขี่ยกกต.-ป.ป.ช. เหตุมาจากเผด็จการ คงไว้3หมวดที่เหลือใช้ปี40 (ข่าวหุ้น
18/4/51):
อนุกรรมการยกร่างแก้รัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชนได้ข้อสรุป คงของเดิมไว้ในหมวด 1-3 ที่เหลือใช้ของปี 2540 แต่ยังไม่ได้ข้อยุติมาตรา 309 ขณะที่องค์กรอิสระให้กกต.-ป.ป.ช.ซึ่งคณะปฏิวัติแต่งตั้งพ้นเก้าอี้แล้วสรรหาใหม่ ด้าน"สมัคร"วันเดียวนั่งหัวโต๊ะประชุมสองวงใหญ่สมช.เคาะยกเลิกกฎอัยการศึก 179 อำเภอ ส่วน ก.ตร. คืนเก้าอี้ รอง ผบ.ตร."เพรียวพันธ์"

ฮอนด้าเพิ่มผลิตจยย.รับรากหญ้าฟื้น (กรุงเทพธุรกิจ 18/4/51):
ราคาสินค้าเกษตรพุ่ง ผนวกเม็ดเงินเอสเอ็มแอล ดันตลาดสินค้ายานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าฟื้นรับไตรมาส 2 ฮอนด้าเผยเพิ่มกำลังผลิต 5% สำรองสินค้าคงคลังเพิ่ม

คลังส่งทีมเจรจา KFW ซื้อหุ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส (ข่าวหุ้น 18/4/51):
คลังส่งคณะทำงานเจรจาเคเอฟดับบลิว-กลุ่มนิวเวิล์ด ขอซื้อหุ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส 89% พร้อมศึกษารูปแบบตั๋วร่วมรถไฟทั้งระบบ ส่วนแผนระดมทุนทั้ง 6 สาย 7.7 แสนล้านบาทแบ่งเป็นกู้ในประเทศปีละ 4 หมื่นล้านบาท โดยออกพันธบัตรระยะยาว กลาง และสั้นรองรับที่เหลือกู้เจบิค และเปิดเอกชนประมูล

ฟิชเชอร์แอนด์เพเคิล พึ่งแหล่งผลิตต้นทุนต่ำ โยกโรงงานเข้าไทย (กรุงเทพธุรกิจ 18/4/51):
ฟิชเชอร์ แอนด์ เพเคิล ย้ายฐานโรงงานเข้าไทย อิตาลี และเม็กซิโก หวังพึ่งแหล่งผลิตต้นทุน
ต่ำ เพิ่มขีดแข่งขันตลาดโลก และสำหรับไทย ได้เลือกตั้งโรงงานผลิตในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร

เวียดนามปั่นราคาข้าว 1,200 ดอลล์ ฟิลิปปินส์ประมูลรอบใหม่ 6 แสนตัน พ.ค.นี้ (กรุงเทพธุรกิจ
18/4/51):
ฟิลิปปินส์ เปิดประมูลข้าวล็อตใหญ่ได้น้อยกว่าความต้องการถึง 1.7 แสนตัน เหตุราคาพุ่งสูงสุดถึงตันละกว่า 1,200 ดอลลาร์ จุดชนวนความวิตกขาดแคลนอาหารอีกระลอก เตรียมเปิดประมูลรอบใหม่ 6 แสนตัน เดือนพ.ค.นี้

คลังแจง 6 เดือนขาดดุลเงินสด 1.7 แสนล้านตามเป้า (กรุงเทพธุรกิจ 18/4/51):
คลังเผย 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 2551 ขาดดุลเงินสดแล้ว 1.73 แสนล้านบาท ต่ำกว่าการ
ขาดดุลช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8.5% หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย 5.0%

เดือนม.ค.คอนโดจดทะเบียนใหม่พุ่ง 58% (กรุงเทพธุรกิจ 18/4/51):
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลสำรวจตลาดอสังหาฯ เดือนแรกของปี 2551 พบว่า จำนวนห้องชุดในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีจำนวนรวม 973 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 616 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 58%

สคิบจูงใจกบข.ชูสินเชื่อ 3 แบบขยายฐานลูกค้า (ผู้จัดการรายวัน 18/4/51):
แบงก์นครหลวงไทยจับมือ กบข. คลอด "โครงการสวัสดิการธนาคารหลวงไทยเพื่อสมาชิกกบข." ชู 3 ผลิตภัณฑ์การเงินเงื่อนไขพิเศษ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพ เดินหน้าแผนการขยายฐานลูกค้ารายย่อยตามแผนกลยุทธ์ 3 ปี โชว์ไตรมาสแรกรายได้ค่าธรรมเนียมเกินเป้าที่ตั้งไว้ 18-20%

แบงก์ทยอยโชว์ผลงาน Q1 กสิกรฯ นำร่องกำไรโต 14% (ผู้จัดการรายวัน 18/4/51):
ธนาคารกสิกรไทยนำร่องแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2551 โชว์กำไร 4.4 พันล้าน
โต 14.47% ขณะที่ยอด NPL Gross อยู่ในระดับ 4.46% ด้าน "เกียรตินาคิน" ไม่น้อยหน้ากำไรเพิ่ม 50%

TCC เล็งย้ายเทรดพลังงานเตรียมสร้างโรงแยกถ่านหิน (ทันหุ้น 18/4/51):
TCC ได้เงินขายหุ้นเหล็กบูรพา 200 ล้านบาทปลายเมษายนนี้ ปิ๊งไอเดียสร้างโรงงานแยกถ่านหินเอง แก้ปัญหาส่งออเดอร์ล่าช้าคาดอีก 1 เดือนรู้ผลชัวร์ พร้อมนำเข้าถ่านหินล็อตสองต่อหลังล็อตแรก 2.4 หมื่นตันใกล้หมด เตรียมถกตลาดหลักทรัพย์ขอย้ายเทรดหมวดพลังงาน หากปั้นรายได้ถ่านหินทะลุ 1,000 ล้านบาท

KSL ติดปีกรับปีทองเอทานอลพุ่ง140% ยอดออเดอร์ตปท.ทะลัก โซฮอล์ทะลุ 7.5 ล้านลิตร (ข่าวหุ้น 18/4/51):
KSL ตีปีกรับปีทองเอทานอล โชว์แค่ 5-6 เดือนแรก 19 ล้านลิตร เท่ากับทั้งปีของปีก่อนตั้งเป้ายอดขายเอทานอลปีนี้ 45 ล้านลิตร ขณะที่กำลังผลิตน้ำตาลทรงตัว 6 แสนตันมั่นใจดันรายได้ปีนี้โตกว่า 10% เตรียมเดินเครื่องโรงงานน้ำตาลกัมพูชาปีหน้าไม่หวั่น "มิตรผล" ตีท้ายครัวตลาดอาเซียน "สนพ."ชี้ยอดใช้แก๊สโซฮอล์พุ่ง 108.4%

ไฟเขียวสุวรรณภูมิเฟส 2 สันติสั่งลุยใช้งบ 7 หมื่นล. (ข่าวหุ้น 18/4/51):
รมว.คมนาคมเห็นชอบ AOT ทุ่มเงินกว่า 7 หมื่นล้าน ขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 เตรียมเปิดประมูลงานแรก ก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 วงเงิน 3.6 พันล้านภายในปีนี้ ส่วนปีหน้าลงทุนอาคารผู้โดยสารอีก 2 หลัง คาดสามารถรองรับผู้โดยสารได้อีก 15 ล้านคนต่อปี พร้อมสั่งกรมขนส่งทางอากาศ สำรวจที่ดินโดยรอบสนามบิน เล็งขยายพื้นที่หลังปี 2562

GRAMMY ปลื้มขายตรงซีดีรุ่ง โกยรายได้ปีนี้ 100 ล้านบาท (ข่าวหุ้น 18/4/51):
GRAMMY โชว์ธุรกิจขายตรงซีดีเพลงรุ่ง ตั้งเป้าโกยรายได้ปีนี้ 100 ล้านบาท "ยงศักดิ์" มั่นใจอัลบั้มรวมฮิต-ลูกทุ่ง-สตริงมาแรงคนชอบซื้อ เปิดแผนรุกตลาดปี51 เพิ่มพนักงานให้ครบ 250 คน รองรับการขยายพื้นที่จัดจำหน่ายไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างน้อย 8 แห่ง