May 3, 2024   3:08:43 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นไทยสัปดาห์นี้ปรับขึ้น แรงซื้อต่างชาติ-หุ้นพลังงานหนุน
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 21/04/2008 @ 08:36:44
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

รอยเตอร์

ดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index)สัปดาห์นี้ มีแนวโน้มปรับขึ้น โดยมองปัจจัยบวก
จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ขณะที่
จะมีการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน จากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรงตัวระดับสูง
ประกอบกับผลประกอบการในไตรมาส 1/51 ที่คาดจะออกมาดี

แต่ ตลาดอาจแกว่งในกรอบจำกัด เนื่องจากอาจมีแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ออกมา
หลังกลุ่มแบงก์ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/51 แล้ว
นักวิเคราะห์ มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทย ระหว่าง 830-865

เมื่อวันศุกร์ที่ 18 เม.ย. ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 845.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.21% จาก
ระดับปิด เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ซึ่งอยู่ที่ 827.10 จุด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ
3.41 พันล้านบาท
"(สัปดาห์นี้)ตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะแกว่งขึ้น หุ้นในภูมิภาค ก็น่าจะแกว่งขึ้นตาม"
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน
(ประเทศไทย) กล่าว
เขา กล่าวว่า สัปดาห์นี้ ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มปรับขึ้น หลังบริษัท
จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐบางแห่ง ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ไม่ได้แย่อย่างที่
คาดการณ์ ขณะที่บางแห่งกำไรดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ สหรัฐจะประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
หลายตัว ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาดีขึ้น

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดบวก 228.87 จุด หรือ 1.81% มาที่
12,849.36 หลังบริษัทกูเกิล ซึ่งเป็นผู้นำทางอินเทอร์เน็ต และบริษัทแคเทอร์พิลลาร์ ซึ่ง
เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์หนัก สามารถรักษาความแข็งแกร่งของผลประกอบการได้ ท่ามกลาง
เศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว โดยผลกำไรสองบริษัทนี้สูงกว่าคาดการณ์ด้วย

ขณะที่ ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารอันดับหนึ่งของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนพอใจกับ
การดำเนินขั้นตอนสำคัญ เพื่อคลี่คลายปัญหาสินเชื่อ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ซิตี้กรุ๊ปขาดทุน
ในไตรมาสล่าสุด การดำเนินขั้นตอนนี้ ทำให้นักลงทุนหวังว่า วิกฤติสินเชื่อใกล้สิ้นสุดแล้ว
นายโกสินทร์ เชื่อว่า สัปดาห์นี้ ยังมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง
จากการเก็งกำไรผลประกอบการในไตรมาส 1/51 ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรดีขึ้น โดยเป็นผล
จากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรงตัวในระดับสูง
"ผลประกอบการไตรมาส 1 ของกลุ่มพลังงาน จะออกมาดี ตามราคาน้ำมัน
ที่ทรงตัวระดับสูง" เขา กล่าว

สำหรับกลุ่มแบงก์นั้น ในระยะสั้น อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง หลัง
ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/51 แต่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกปีนี้
ยังจะออกมาดีอยู่ จึงเชื่อว่า จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา

เขา ยังคาดว่า สัปดาห์นี้ แรงซื้อหุ้นส่วนหนึ่งจะมาจากนักลงทุนต่างชาติ
ตามปัจจัยบวกกรณีที่ รมว.คลังไปโรดโชว์ในต่างประเทศ ทั้งในอังกฤษ สหรัฐอเมริกา
และยุโรป แต่ต่างชาติที่เข้ามาซื้อส่วนใหญ่เป็นเฮดฟันด์ ที่เข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้น
โดย เขามองว่า ช่วงครึ่งหลังเดือนเม.ย.จนถึงต้นเดือนพ.ค.กลุ่มเฮดฟันด์
น่าจะยังเข้าซื้ออยู่ แต่หลังจากนั้น จะมีการขายทำกำไรออกมา ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ
ที่ลงทุนระยะยาว จะรอดูประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน

"นักลงทุน(ต่างชาติ)ที่ลงทุนระยะยาว เขารอดูการเมืองไทย ช่วงเดือน
พฤษภาคม มิถุนายน เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ และคดียุบพรรค" นายโกสินทร์ กล่าว

เขา มองว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ มีแนวรับที่ 835 และ 830
ส่วนแนวต้าน ที่ 860 และ 865
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย มองว่า
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากต่างประเทศ จากการที่
ผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐ ไม่ได้กดดันตลาดหุ้นอย่างที่คาดกันไว้

"ผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐ ไม่ได้กดดันอย่างที่คาด เป็นเรื่องที่
ไม่ effect ต่อตลาด" เขา กล่าว
เขา กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/51 ของกลุ่มแบงก์นั้น
คาดว่าจะออกมาดีขึ้น แต่ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ได้ปรับขึ้นมารับข่าวไปบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขา คาดว่าในสัปดาห์นี้ จะมีแรงซื้อหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่
เข้ามาในกลุ่มพลังงาน จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติด้วย ซึ่งจะผลักดันให้ตลาดหุ้นไทย
ปรับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน
นายสุกิจ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ หุ้นไทยมีแนวรับที่ 835 ส่วนแนวต้านที่ 860

**แกว่งในกรอบจำกัด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย
พลัส กล่าวว่า สัปดาห์นี้ มีปัจจัยที่จะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย คือ การประกาศ
ผลประกอบการในไตรมาส 1/51 ของกลุ่มแบงก์
โดยคาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/51 ของกลุ่มแบงก์ จะมีกำไรจาก
การดำเนินงานปกติ 2.92 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และ
เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันก่อน

"ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ สะท้อน(ผลประกอบการไตรมาส 1/51)ไปบ้างแล้ว...
ประกาศแล้ว อาจมี sale on fact หรือไม่เป็นไปตามคาด ก็อาจขาย อันนี้จะ
กดดันตลาด"เขา กล่าว

นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า แต่ในสัปดาห์นี้ อาจมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน จาก
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานก็ยังมี upside เมื่อเทียบกับ
ราคาปัจจุบัน เช่น บมจ.ไทยออยล์(TOP) ซึ่งมีราคาเหมาะสมที่ 93.56 บาท, บมจ.
ปตท.(PTT) ราคาเหมาะสมที่ 410 บาท และ บมจ.บ้านปู(BANPU) ราคาเหมาะสม
ที่ 564 บาท

"ถ้ามองแบบนี้ สัปดาห์นี้ตลาดก็คงขยับขึ้นได้ แต่มีกรอบที่จำกัด ระหว่าง
830 ซึ่งเป็นแนวรับ และ 850 ถึง 860 เป็นแนวต้าน" เขา กล่าว

ปัจจัยที่น่าจับตา
วันที่ 21 เม.ย.-รมว.คลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาหัวข้อ"มองเศรษฐกิจไทย
ภายใต้วิกฤติเศรษฐกิจโลก" พร้อมแสดงปาฐกถาเรื่อง"มาตรการ
กระตุ้นเศรษฐกิจไทยระลอกใหม่" จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด เวลา 09.30 น.-12.00 น.
-ZMICO พบสื่อมวลชน เวลา 13.30 น.
-ตลาด mai-สภาอุตสาหกรรม จัดเสวนาเรื่อง อีโคคาร์ เวลา
08.30 น.
-SCIB แถลงผลประกอบการ Q1/51 เวลา 10.00 น.
วันที่ 22 เม.ย.-ธปท.ทบทวนตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 51 ช่วงบ่าย
-SHIN ประชุมผู้ถือหุ้น เวลา 14.00 น.
วันที่ 23 เม.ย.-รมว.คลัง ร่วมประชุมคณะกรรมการตลาดทุน เวลา 09.30 น.
-THAI แถลง ครบรอบ 48 ปีของบริษัท เวลา 09.30 น.
วันที่ 24 เม.ย.-SCIB ประชุมผู้ถือหุ้น เวลา 10.00 น.
-MCOT ประชุมผู้ถือหุ้น เวลา 13.30 น.
-GEN ประชุมผู้ถือหุ้น เวลา 9.30 น.
วันที่ 25 เม.ย.-TMB, ITD, KTB ประชุมผู้ถือหุ้น เวลา 15.00 น.--จบ--


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 21/04/2008 @ 08:46:57 :
บริษัท ธนเกษตร จำกัด
วิเคราะห์ทางเทคนิค (21 เมษายน 2551)

ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าประเทศไทย(RSS 3 AFET)
ข้อมูลล่าสุดวันที่ 18 เมษายน 2551
ราคาเดือน 11 OPEN HIGH LOW CLOSE CHANGE
18/4/08 89.7 89.8 88.75 88.95 -0.55

เขียนเมื่อ : 18/4/08
บทวิเคราะห์นี้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กระแสหุ้น : 21/4/08
ทิศทาง: นิ่งอยู่ที่ 88-89 บาท
กราฟทางเทคนิค : ราคาปรับลดลงเล็กน้อยในวันที่ 18/4/08 การปรับลดลงของราคารอบนี้ทำให้การขึ้นรอบนี้ยังดูไม่มั่นคงมากนักและทำให้ราคาในวันที่ 21 เมษายน 2551 มีแนวโน้มที่ราคาจะนิ่งอยู่ที่ 89-90 บาท ก่อนที่ราคาจะเริ่มกลับมามีทิศทางที่ชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 23/4/08 และน่าจะกลับขึ้นไปยืนได้ที่ 90 บาทอีกครั้ง

วิเคราะห์โดย ซุนปิง มีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ 08-6779-7892,0-2245-9505 ต่อ 6814

ระยะสั้น
แนวรับ : 88.0
แนวต้าน : 92.0

ระยะกลาง & ยาว
แนวรับ : 88.0
แนวต้าน : 92.0

กลยุทธ์ สำหรับ AFET : แผน A : เปิดซื้อ
แผน B :

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 21/04/2008 @ 08:56:53 :
บล.นครหลวงไทย

Stock Picks
( BUY ) PTTEP 165 - 174
( BUY ) KTB 11 - 12
( BUY ) KBANK 92.5 - 97

แนวโน้ม แนวโน้มขาขึ้นทดสอบ 855 จุด
* SCIBS คาดว่าดัชนีตลาดจะเคลื่อนตัวในกรอบ 843-855 จุด
* สัญญาณทางเทคนิคฯล่าสุดแสดงสัญญาณขาขึ้น โดยมีลักษณะการเคลื่อนไหวแบบ continuation
pattern การพักตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาส่งสัญญาณว่า ยังมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องและน่าจะเป็นแนวโน้มขึ้น
อยู่อีกเกือบ 1 สัปดาห์ สนับสนุนด้วยการมีวอลุ่มเพิ่มต่อเนื่องสามวันทำการ
* SCIBS แนะนำถือต่อ หรือ ซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำและมีแนวโน้มขาขึ้นแบบเดียวกับ SET INDEX
เช่น PTTEP, KTB, KBANK
* PTTEP แนวโน้มราคาจะปรับขึ้นต่อเนื่อง หลังจากรูปแบบราคาเมื่อสามวันล่าสุดมีรูปแบบขาขึ้น
และมีวอลุ่มหนุนทางขาขึ้นต่อเนื่อง แนะนำซื้อ / หรือมีอยู่ถือต่อ
* KTB แนวโน้มราคาหุ้นแสดงสัญญาณขาขึ้น โดยมีแบบ breakout ที่ราคาสูงสุดของสัปดาห์
แนะนำซื้อ / ซื้อเพิ่ม / มีอยู่ถือต่อ
* KBANK แนวโน้มราคาหุ้นก่อนหน้าพักตัวอยู่บนค่าเฉลี่ย 10 และ 25 วัน แต่มีแนวโน้มที่จะ
ปรับขึ้นต่อ โดยมีวอลุ่มหนุน 3 วัน แนะนำซื้อ / ซื้อเพิ่ม / มีอยู่ถือต่อ


:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 21/04/2008 @ 08:58:15 :
บริษัท แอโกรเวลท์ จำกัด

Distributor - Bisnews AFE

บทวิเคราะห์

* ภาวะตลาดซื้อขายเงินสด : ราคายางแผ่นดิบตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่เคลื่อนไหวผกผัน
ราคาปรับลดลงจากเมื่อวาน 0.18 บาท/กก. ทั้งๆ ที่อุปทานยางมีน้อย และอุปสงค์ยางยังคงมีอยู่ แต่เนื่อง
จากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแตะระดับที่ 31.41 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ
และวันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ของการซื้อขายมีผู้เข้าประมูลน้อยราย
* การซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้นสาม (RSS3) ประจำวันที่ 18 เมษายน 2551 ทั้งตลาดมี
ปริมาณการซื้อขายยรวมทุกเดือนส่งมอบ 339 สัญญา ลดลงจากวันก่อนหน้า 256 สัญญา โดยมีสถานะคงค้าง
ทั้งสิ้น 1,560 สัญญา เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 35 สัญญา โดยสัญญาส่งมอบเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นตัวแทน
ตลาดมีปริมาณการซื้อขาย 302 สัญญา เปิดซื้อขายกันที่ราคา 89.70 บาท/กก.ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 89.80
บาท/กก.ลงไปต่ำสุดของวันที่ 88.75 บาท/กก.ก่อนจะมาปิดที่ราคา 88.95 บาท/กก.ราคาลดลงจากวัน
ก่อนหน้า 0.55 บาท/กก.
* Technical play : ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาราคายางในโตคอมปรับเพิ่มขึ้นมาได้มาได้ 11
เยน สำหรับตลาด afet เปิดทำการ 3 วันราคาปรับเพิ่มขึ้น 2.45 บาทและราคายังสามารถยืนเหนือเส้น
ค่าเฉลี่ย 5 วัน 10 วัน และ 15 วันได้ (SMA 5 วันเท่ากับ 288.80 เยน SMA 10 วันเท่ากับ 286.97
เยนและSMA 15 วันเท่ากับ 286.98 เยน) ทำให้สัญญาณทางเทคนิคจาก indicators ต่าง ๆ ในตอนนี้
โดยเฉพาะตัวหลักอย่าง MACD,TRIX และ ADXให้สัญญาณขึ้นทั้งหมด ยังคงคาดการณ์แนวรับโตคอมอยู่ที่
282-280 เยน แนวต้านแรก 295-296 เยน แนวต้านถัดไป 302-303 เยน สำหรับ afet คาดการณ์
แนวรับ 88.00 บาท แนวต้าน 90.00 บาท และแนวต้านถัดไป 92.00 บาท
* กลยุทธ : ในสัปดาห์หน้าราคาอาจจะมีโอกาสที่จะปรับขึ้นหรือลงอย่างรุนแรงได้ให้นักลงทุน
ระวังไว้ด้วยโดยเฉพาะในตลาดโตคอมที่ในตอนนี้กลุ่มที่ถือสถานะซื้อหรือขายรายใหญ่ ๆ ซึ่งมีไม่กี่รายกำลัง
สะสมสถานะของตนเองอยู่ก็มีโอกาสที่จะซื้อและขายทำกำไรออกมาได้ เมื่อมองระยะยาวแล้วกลยุทธ์การลง
ทุนยังคงเหมือนเดิมคือมองว่าการเข้าสถานะซื้อน่าจะมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าโดยเฉพาะการซื้อใน
จังหวะที่ราคาย่อตัว สำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะซื้ออยู่แล้วก็อาจจะซื้อเพิ่มได้อีก และกำหนดจุด stop loss
สำหรับขาซื้อไว้เมื่อราคาโตคอมหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 วัน (ประมาณ 286 เยน)



:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#4 วันที่: 21/04/2008 @ 09:03:08 :
บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส


ภาพวันวาน

ตลาดหุ้นไทยยืนแดนบวกตลอดวัน แต่ปิดตลาดอ่อนตัวลงและติดลบ 0.03 จุด มีแรงขายหุ้นธ.พ.
(BBL) แต่มีแรงซื้อหุ้นพลังงาน มูลค่าการซื้อขายลดลง 2.11 หมื่นล้านบาท และต่างชาติกลับมาขายสุทธิ
493 ล้านบาท

ประเด็นร้อนวันนี้
* DJIA ต้องเผชิญแนวต้านระยะสั้น 12,800-13,000 จุด ส่วนไทยจะเผชิญที่ 850 จุด ระยะ
1 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าดัชนี DJIA ดีดตัวขึ้นกว่า 4.25% สู่ระดับ 12,800 จุด ทั้งนี้เนื่องจากการรายงาน
ผลประกอบการงวด 1Q51 ของบริษัทจดทะเบียน ออกมาสดใส แม้ว่าได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจใน
สหรัฐชะลอตัวก็ตาม เช่น กูเกิล กำไรเติบโตสูงถึง 30% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน (เมื่อเทียบกับที่
เติบโตเพียง 17% งวด 4Q50) และซิตี้กรุ๊ป แม้ต้องเผชิญกับการตั้งสำรองฯ และขาดทุนต่อเนื่อง แต่พบ
ว่าขาดทุนลดลงจาก 1 หมื่นล้านบาท ในงวด 4Q50 เหลือ 5.1 พันล้านเหรียญฯ ในงวด 1Q51 เป็นต้น
อย่างไรก็ตามดัชนี DJIA อาจจะเผชิญกับแนวต้านระยะสั้นที่ 12,800-13,000 จุด ประกอบกับปลายเดือน
นี้ จะมีการประชุมของ Fed เป็นที่คาดหมายว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ซึ่งอาจ
กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกได้ ในระยะสั้นผลักดันให้หุ้นไทยเดินหน้าต่อในทิศทางเดียวกัน โดยมีแนว
ต้าน 850 จุด

* หุ้น ธ.พ. อาจมีแรงขายรับงบฯ รอซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว
สัปดาห์นี้คาดว่าหุ้น ธ.พ. อาจเผชิญแรงขายทำกำไรเพื่อตอบรับการประกาศผลประกอบการงวด
1Q51 (sell on fact) หลังราคาปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงกว่า 3.4% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็
ตามเมื่อพิจารณาผลกำไรในงวด 1Q51 ที่รายงานออกมาสะท้อนการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ดี เช่นกรณี KBANK
(FV@B110) สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นถึง 4.7% จากปลายปี 2550 เทียบกับอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะ
เติบโตเฉลี่ย 1.9% ขณะที่ KTB(FV@B13.54) แม้ผลประกอบการที่ทรงตัวจากงวด 4Q50 แต่แนวโน้มดี
ขึ้นจากที่เป็นธนาคารภาครัฐ มีโอกาสขยายตัวตามการลงทุนทางด้านสาธารณูปโภค ซึ่งคาดหมายว่าจะทำให้
สินเชื่อเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2H51 นี้ ระยะสั้นแนะนำทยอยซื้อสะสม เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง

* กลุ่มก่อสร้าง และพัฒนาที่อยู่อาศัย กลับมาคึกคักใหม่ หลังปรับฐานสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัปดาห์นี้ระหว่าง 21 เม.ย. - 2 พ.ค. 2551 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
(รฟม.) จะเปิดขายซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ระยะทาง 23 ก.ม. เส้นทางบางใหญ่
-บางซื่อ มีมูลค่าโครงการรวม 5.59 หมื่นล้านบาท เป็นงานโยธา 3.12 หมื่นล้านบาท) คาดว่าจะทราบ
ผลผู้ชนะการประมูลได้ในราวงวด 3Q51 เป็นประเด็นที่จะสร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่ม
รับเหมาฯ และกลุ่มอสังหาฯ ในผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย หลังจากราคาปรับฐานลงในระยะ 1 สัปดาห์ที่ผ่าน
มา เป็นจังหวะการซื้อรอบใหม่ แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นรับเหมาฯ ITD, STEC, SYNTEC อย่างไรก็ตามหุ้น
รับเหมาก่อสร้างอาจจะต้องเผชิญกับต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นจากปัจจัยราคาน้ำมัน ซึ่งจะมีผลต่อ
ประสิทธิภาพในการทำกำไร (Gross margin) ให้อ่อนตัวในงวด 1H51 รวมถึงผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่
อาศัยที่ได้ประโยชน์ตามแนวรถไฟฟ้า และมาตรการลดหย่อนภาษี แนะนำซื้อหุ้นที่ยังมี upside เหลือเช่น
LPN(FV@10.59), PF(FV@B6.41), SPALI(FV@B4.82)

INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้าน ใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด: 820 / 860 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวบวก แนวรับ 835 จุด แนวต้าน 850 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : แนะนำเลือกซื้อหุ้นรายตัวเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าสู่แนวรับ LH(9.3/9.6), PTT(332/344),
BANPU(432/450), SCIB(17.8/18.5)


:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#5 วันที่: 21/04/2008 @ 09:06:47 :
บล.ธนชาต


ความหวังว่าวิกฤติสินเชื่อใกล้จบ & กำไรที่ดีของบริษัทข้ามชาติ ทำให้ Dow Jones ปิดบวกกว่า 4% ในสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดไทยสัปดาห์นี้ เราคาดว่าบริษัทที่จะมีกำไรที่ดีคือ PTT, PTTEP, DTAC, CPF,
TTA, KH, MINT, SE-ED ส่วน KTB และ BBL กำไรดีตามคาดแต่ BBL น่าจะมี upside จำกัดในระยะสั้นเพราะราคาปรับขึ้นมามาก ในขณะที่ BDI ที่บวกวันนี้จะเป็น sentiment ที่ดีต่อกลุ่มเดินเรือ

หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินช่วย Dow Jones ปิดบวก
* Dow Jones ปิดบวกถึง 1.81% เมื่อวันศุกร์โดยนักลงทุนคาดวิกฤติสินเชื่อใกล้สิ้นสุด ประกอบ
กับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติที่ออกมาเข็มแข็ง
* ราคาหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินโดยเฉพาะ Citigroup, AIG และ JPMorgan ปรับสูงขึ้น
กว่า 10% สัปดาห์ที่แล้ว
* ผลประกอบการของบริษัทสัปดาห์นี้จะเป็นตัววัดว่าเศรษฐกิจสหรัฐถึงจุดต่ำสุดหรือยัง นักลงทุน
คาดว่าเศรษฐกิจเอเชียที่แข็งแกร่งจะช่วยลดผลกระทบเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว

น้ำมันยังคงทำ new high
* ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ขาดแคลน ในขณะอุปสงค์ยังคงสูงขึ้น ส่งผลให้ NYMEX ยังคงปรับ
สูงขึ้นอีก USD2.11/bbl ปิดวันศุกร์ที่ USD116.97/bbl ทำ new high อีกครั้ง
* กลุ่มผู้ประท้วงในไนจีเรียประกาศจะทำลายท่อส่งน้ำมันและสถานีจ่ายน้ำมันของ Shell
* การประท้วงที่ท่าเรือส่งออกน้ำมัน Fos-Lavera ในฝรั่งเศสส่งผลให้เรือ 23 ลำต้องจอดคอย
ในขณะที่สหภาพในอังกฤษจะเริ่มประท้วงที่โรงกลั่นน้ำมันใน Ineos Grangemouth
* OPEC คาดการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันจะไม่ช่วยให้ราคาน้ำมันลดลงถ้ายังมีการเก็งกำไรอยู่

เริ่มมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง
* กลุ่มพันธมิตรฯ เตรียมรวมตัววันที่ 25 เม.ย.นี้แต่ยังไม่เป็นการชุมนุมใหญ่
* นายกฯ ยืนยันเดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากถูกยุบพรรค จะยุบสภาฯ

KTB (BUY; TP THB14.0 ) กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10 เท่าจาก 4Q07 ตามคาด
* รายงานกำไรสุทธิสูงขึ้นกว่า 10 เท่า q-q แต่ลดลง 6% y-y ช่วยยืนยันการคาดการณ์ของ
เราที่ว่า KTB จะเริ่มฟื้นตัวในปีนี้
* เงินกู้เติบโต 4.5% q-q NIM สูงขึ้น 3.8% q-q และ 3.5% y-y
* ยังเป็นหุ้น Top pick ของ TNS จากราคาหุ้นที่ยังถูกที่สุดในกลุ่ม

BBL (BUY TP THB150.0) กำไร 1Q08 เติบโต 21% y-y และ 38% q-q
* ผลประกอบการ 1Q08 ใกล้กับที่คาด มีกำไร 5.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% y-y และ
38% q-q
* ในระยะสั้น เราคาดว่า upside อาจจำกัดจากการที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมา 19% YTD (vs
KBANK, SCB และ KTB ที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาเพียง 7-9% YTD)
* ที่ราคาปัจจุบันมี P/BV ที่ 1.6 เท่า

NEWS BY THE NUMBER

+40% กำลังการผลิต
+ AMC: เผยรายได้และกำไร 1Q08 แนวโน้มดีกว่าปีที่แล้ว เหตุราคาเหล็กปรับตัวสูง กำลัง
การผลิตเพิ่มอีก 40% ปลาย 3Q08 นี้ จากปัจจุบันกำลังการผลิต 1.8 แสนตันต่อปี ลั่นรับรู้รายได้เข้ามา
4Q08 ส่วนงบปีนี้เติบโต 10-20% เนื่องจากมีสต็อกสินค้า 30-40 วัน (ข่าวหุ้น)

+15% ยอดขาย08
Buy TP 5.20 บาท
+ CPF: ปรับเป้ายอดขายปีนี้โต 15% มั่นใจปีนี้กำไรแน่นอน จากราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามต้นทุน
การส่งออกที่มากขึ้น รวมถึงการเข้าลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง (ข่าวหุ้น)

ย้ายหมวด ไปพลังงาน
+ DE: เตรียมย้ายเข้าหมวดพลังงาน หลังปีนี้ลุยธุรกิจพลังงานเกี่ยวกับการผลิตไอน้ำด้วย
เทคโนโลยีถ่านหิน พร้อมอัดงบลงทุน 1,500 ล้านบาท ทยอยลงทุน คาดเดินเครื่องผลิต 3Q08 นี้ และมี
กำไรจากส่วนนี้ 100 ล้านบาท เม.ย. แต่งตั้งที่ปรึกษาการเงิน (ผู้จัดการ)

+10% รายได้ปี08
+ LOXLEY: ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% แววดีมีลุ้นกำไรเพิ่ม รับผลดีปรับราคาขาย คุมต้นทุน
ค่าขนส่งได้ดีฟันกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แย้มตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนกวาดยอดขายแล้วกว่า 1 พันล้านบาท
ส่วนธุรกิจต่างแดนในเวียดนามยังไปได้สวยตั้งแต่ต้นปีโกยยอดขายกว่า 200 ล้านบาท (ทันหุ้น)

8.5 พันล้านบาท
+ MALEE: แตกไลน์ธุรกิจใหม่สร้างอาณาจักรคลุมตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รุกซื้อแบรนด์ฟาร์ม
โชคชัย พร้อมปั้นนมใหม่นำร่อง "นูติแม็กซ์" ระเบิดศึกตลาดนมพร้อมดื่ม เจาะกลุ่มรักสุขภาพ ปีแรกโกยแชร์
5% จากมูลค่า 8,500 ล้านบาท (ผู้จัดการ)

600 ล้านบาท
+ NVL: เดินหน้าจับธุรกิจจำนำเต็มตัวหลังปั้นธุรกิจจำนำทะเบียนรถกว่า 6 เดือน ลด NPLs
กว่า 7% เหลือ 2.75% เร่งศึกษาธุรกิจจำนำทอง-เพชรปั๊มรายได้เพิ่ม คาดได้ข้อสรุปไตรมาส 2-3 ระบุ
รายได้ปีนี้แตะ 600 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่ม 2 เท่า (กรุงเทพธุรกิจ)

25 ล้านบาท
+ PR124: โชว์ฟอร์ม 1Q08 ดี ดึงงานเข้ากว่า 10 ราย ส่งผลให้งานในมือเพิ่มเป็น 25 ล้าน
บาท มั่นใจดันรายได้ 2Q08 ขยายตัวเมื่อเทียบกับ 2Q07 ที่มีรายได้ 23.30 ล้านบาท ด้านผู้บริหารเตรียม
ลุ้นรับงานของหน่วยงานราชการเพิ่มภายในเดือนนี้ (ทันหุ้น)

300 ไร่
+ ROJANA: ตุนยอดขายที่ดินในมือแล้วกว่า 300 ไร่ มูลค่ารวม 900 ล้านบาท หลังลูกค้าเก่า
และใหม่อุดหนุนไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนไตรมาส 3/2551 เตรียมบันทึกรายได้จากคอนโดประเทศจีนที่มียอด
ขายแล้ว 30% ดันเป้ารายได้ทั้งปีโตได้แน่ 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 6.5 พันล้านบาท (ทันหุ้น)

240 ล้านบาท
+ TNDT: ลั่นรายได้ 1Q08 ดีเหตุรับรู้งานต่อจากปลายปี07 ปัจจุบันแบ็กล็อกแตะ 240 ล้านบาท
มากกว่างบปีที่แล้วทั้งปีตอกย้ำผลประกอบการปีนี้เติบโต 30-40% หลังปริมาณงานด้านตรวจสอบวิศวกรรม
ขยายตัวมากขึ้น (ข่าวหุ้น)

300 ล้านบาท
+ TRC: รับงานใหม่จาก PTT เข้าพอร์ตเพิ่มอีกกว่า 300 ลบ. และงานซ่อมท่อก๊าซที่พม่า
อีกกว่า 10 ลบ. หนุนมูลค่างานในมือ 2,100 ลบ. ด้านผู้บริหารเข้าเซ็น MOU โครงการ SPP ร่วมกับ
EGCO และ PTT แล้ว เตรียมลงมือก่อสร้างปีนี้ พร้อมส่งซิกเร็วๆ นี้จะมีข่าวดี สร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัท
กรณีการลงทุนในต่างประเทศ ส่วนไตรมาส 2-3 มั่นใจจะมีงานใหม่ทยอยเข้ามาเสริมอีก เตรียมจบดีล
การซื้อขายหุ้นให้ต่างชาติเดือน มิ.ย. (ทันหุ้น)

500 ล้านบาท
0 TICON: เตรียมออกหุ้นกู้มูลค่า 500 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4% อายุ ประมาณ พ.ค.นี้ หวัง
ระดมทุนใช้ก่อสร้างโรงงาน-คลังสินค้าปีนี้ ชี้ต้นทุนถูกกว่ากู้แบงก์ ขณะที่งบ 1Q08 "วีระพันธ์" คาดน้อยกว่า
ปีก่อน เหตุไม่มีรายได้ขายโรงงานเข้า TFUND ส่วนทั้งปีมั่นใจรายได้ตามเป้า 3,700 ล้านบาท (ข่าวหุ้น)

+10% รายได้ปี08
+ UOBKH: ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-20%y-y หลังวอลุ่มซื้อขายดีขึ้น โดยตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้ 3% จากปีก่อน 2.12% หลังเพิ่มสัดส่วนลูกค้าสถาบันในและนอกประเทศ เตรียมให้บริการอินเทอร์เน็ตเทรดดิ้งระหว่างประเทศกลางปีนี้ เจาะตลาดสิงคโปร์-ฮ่องกง (กรุงเทพธุรกิจ)


:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#6 วันที่: 21/04/2008 @ 09:39:30 :
บล.กิมเอ็ง

Distributor - Bisnews AFE

กลุ่มเหล็ก : ผู้ส่งออกเศษเหล็กของสหรัฐประกาศ เตรียมปรับราคาขึ้น 150-155 เหรียญ/ตัน

เป็นบวก/เป็นลบ

ดัชนีกลุ่ม 95.70
SET Index 845.40

* เกิดภาวะขาดแคลนเศษเหล็ก ดันราคาพุ่งขึ้นในสัปดาห์ก่อน
โรงงานผู้ผลิตเหล็กที่ใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบได้มีการกักตุนเศษเหล็กมากขึ้น โดยเฉพาะโรงงาน
ในแถบเอเชีย และ ประเทศแถบตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เกิดภาวะขาดแคลน เช่น
ไต้หวันมีปริมาณการสั่งซื้อเศษเหล็กพุ่งขึ้นถึง 135% จากปีก่อนในเดือน มี.ค. ตุรกีสั่งซื้อพุ่งขึ้น 68.8% ทำ
ให้ซัพพลายเออร์ในสหรัฐฯเตรียมประกาศปรับราคาขายเศษเหล็กขึ้น 150-155 เหรียญ/ตัน ซึ่งในสัปดาห์
ก่อน ราคาเศษเหล็ก นำเข้าของประเทศแถบเอเชีย (C&F) ได้พุ่งขึ้นเป็น 650-680 เหรียญ/ตัน เทียบ
กับในเดือน มี.ค. อยู่ที่ 550-600 เหรียญ/ตัน ทั้งนี้ในปี 2550 ไทยมีการนำเข้าเศษเหล็กจากต่าง
ประเทศประมาณ 1.7 ล้านตัน โดยเป็นเศษเหล็กนำเข้าจากสหรัฐฯประมาณ 41% การเกิดภาวะขาด
แคลนเศษเหล็ก คาดว่าจะเป็นการเพิ่มภาระต่อต้นทุนของโรงงานเหล็กที่ใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบหลัก คือ
GSTEEL, NSM และ TSTH

* รัฐบาลอินเดียได้ประกาศขอให้งดส่งออก Pig Iron
ในสัปดาห์ก่อนรัฐบาลอินเดียได้ประกาศขอให้งดส่งออก Pig Iron เพื่อสนับสนุนความต้องการ
ในประเทศ โดยประเทศที่ส่งออก Pig Iron รายสำคัญของโลก 3 อันดับแรก คือ บราซิล รัสเซีย และ
อินเดีย การที่อินเดีย ได้ออกจากตลาดส่งออกคาดจะส่งผลทำให้ราคา Pig Iron ปรับสูงขึ้นเป็น 750
เหรียญ/ตัน จากระดับในสัปดาห์ก่อนที่ประเทศในแถบเอเชีย อย่าง อาเซียน ไต้หวัน และ ญี่ปุ่น มีการสั่ง
ซื้อ Pig Iron ที่ราคาประมาณ 680-720 เหรียญ/ตัน (C&F) โดย GSTEEL ใช้ สัดส่วน เศษเหล็ก
ต่อ Pig Iron เท่ากับ 65% ต่อ 35% เป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล็ก จากผลดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มภาระ
ต้นทุนต่อ GSTEEL

* คาดกระทรวงพาณิชย์จะอนุมัติให้ปรับราคาแนะนำขึ้น
จากสถานการณ์ต้นทุนเศษเหล็ก, Pig Iron, Billet และ Slab ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากใน
ปัจจุบัน จนทำให้ต้นทุนการผลิตเหล็ก (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ) ได้วิ่งขึ้นมาใกล้ หรือ
มากกว่าราคาแนะนำ (ดูตารางการประเมินต้นทุนการผลิตเหล็กในตารางหน้าถัดไป) ซึ่งขึ้นกับชนิดการใช้
วัตถุดิบ เราคาดหมายว่ากระทรวงพาณิชย์จะอนุมัติให้ปรับราคาแนะนำขึ้น ซึ่งปัจจุบัน ราคาแนะนำเหล็ก
เส้น ขนาดมาตรฐาน 16 มม. อยู่ที่ 28,250 บาท/ตัน โดยราคาขายหน้าโรงงานได้ขึ้นมาชนเพดานแล้ว
ส่วนราคาเหล็กรีดร้อนยังขายที่ราคาต่ำกว่าราคาแนะนำที่ 30,500 บาท/ตัน ทั้งนี้การวิ่งขึ้นอย่างมากของ
ราคา เศษเหล็ก และ Pig Iron ทำให้ผู้ผลิตที่ใช้เศษเหล็ก ที่เคยได้เปรียบผู้ผลิตที่ใช้ Billet และ
Slab อย่างมาก ได้เริ่มแคบลง

* มีมุมมองกลุ่มเหล็กเป็นบวกระยะสั้น แต่เป็นลบในระยะยาว
ผลประกอบการในงวดครึ่งปีแรกของหุ้นในกลุ่มเหล็กเราประเมินว่าจะมีกำไรที่โดดเด่นอย่างมาก
จากที่มีสต็อกเท่ากับยอดขายประมาณหนึ่งไตรมาส ในขณะที่ราคาขายได้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาเหล็กในตลาดโลก แต่ผลประกอบการในครึ่งปีหลังเรามองว่าจะได้รับผลลบจากต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างมาก รวมถึงความเสี่ยงที่ราคาเหล็กจะปรับลดลงในครึ่งปีหลัง เนื่องจากราคาปัจจุบันได้รวมผลของการเก็งกำไรเข้าไปมากเกินไป ดังนั้น รวมแล้วเราจึงมีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มเหล็กในระยะสั้น แต่มีมุมมองเป็นลบในระยะยาว สำหรับคำแนะนำในหุ้นกลุ่มเหล็กคือ BSBM (ถือ : ราคาเหมาะสม 1.40 บาท), GSTEEL (ถือ : ราคาเหมาะสม 1.10 บาท), SSI (ซื้อเก็งกำไร : ราคาเหมาะสม 1.2 บาท) และ TSTH (ซื้อเก็งกำไร : ราคาเหมาะสม 2.4 บาท)


:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#7 วันที่: 21/04/2008 @ 09:45:32 :
บล.กิมเอ็ง
แนวโน้มตลาดวันนี้

มุมมองตลาด: จิตวิทยาการลงทุนที่ดีขึ้นจะทำให้หุ้นไทยสามารถทดสอบระดับสูงสุดของปีนี้ที่ราว
850-855 ได้ในวันนี้
ประเด็นสำคัญ: หุ้นสหรัฐฯทะยานขึ้นได้อีกเมื่อคืนวันศุกร์ หลังงบธนาคารออกมาในเกณฑ์ดี และ
ราคาพลังงานปรับตัวขึ้นต่อเป็นผลบวกโดยรวมต่อตลาดไทยในวันนี้ พัฒนาการสำคัญต่อตลาด:
* หุ้นสหรัฐฯ ทะยานขึ้นต่อ จากการประกาศงบของกูเกิลออกมาดี
* งบธนาคารไตรมาส 1/51 ทยอยออกมาดีกว่าตลาดคาด โดย BBL มีกำไรโต 38% yoy
และ22% qoq สูงกว่าคาดการณ์ของเรา13% จึงเป็นเกราะป้องกันการทำกำไรระยะสั้นหลังงบออก หรือ
ผลลบของราคาน้ำมันสูงไปได้ แม้จะมีแรงขายหุ้นธนาคารเราก็เห็นว่าจะจำกัดในระยะสั้น
* ราคาน้ำมันดิบ ปิดสูงถึง US$116.69 ต่อบาร์เรลหลังจากกลุ่มโอเปคมีเจตจำนงว่าจะไม่ปรับ
เพิ่มการผลิตน้ำมัน หุ้นกลุ่ม PTT มีแนวโน้มปรับตัวได้ดีในวันนี้ แนวการเทรดหุ้น
* เราคาดว่า PTT และ TOP จะวิ่งนำดัชนี จากพื้นฐานหุ้นที่แข็งแกร่งและราคาน้ำมันที่ลอยตัว
ในระดับสูง
* ผลกำไรของ BBL และราคาเป้าหมายได้รับการปรับเป็น 151 บาทต่อหุ้น (ณ ระดับ P/BV
ที่ 1.6 เท่า)
* เราแนะนำให้ขาย LH ออกไปในช่วงสั้นๆนี้ (จากราคาที่สูงกว่าพื้นฐานมาก รวมถึงต้น
ทุนพลังงานในระดับสูงจะบั่นทอนผลกำไรของบริษัท) และซื้อกลับ BEC หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำ
กว่าราคาเป้าหมายและมีส่วนต่างจากราคาเป้าหมายมาก
* หุ้นบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ (PHATRA, ASP และ BLS), TTA และ BANPU เป็นหุ้นที่เรา
ชื่นชอบที่สุดในบรรดาหุ้นที่มีค่าความไวต่อดัชนีสูง
* สำหรับหุ้นขนาดเล็ก เราชอบ TVO, TPC และ SSI.

กลยุทธ์หุ้น
* ซื้อหุ้น TTA เพราะ BDI ฟื้นตัวแรงอีกครั้ง ดัชนี BDI ปรับขึ้น 2% เป็น 8,203 ก็จะผลักดัน
หุ้น TTA ได้ดี บวกกับแนวโน้มดัชนีเชิงบวกก็จะเข้ามาช่วยหนุนหุ้นด้วย
* เทรด BEC หลังจากหุ้นปรับตัวลง BEC ตกลงมา 7% จากจุดสูงสุดปีนี้ที่ 30 บาททำให้ส่วน
ต่างจากราคาเป้าหมายที่ 31 สูงขึ้นในตอนนี้ พัฒนาการกำไรของช่อง 3 ในระยะใกล้ได้แก่การปรับขึ้นค่า
โฆษณา 7.5% ในเดือนพฤษภาคมนี้
* เทรดหุ้น TVO จากการปรับราคาเหมาะสมขึ้น เราได้ทำการปรับราคาเหมาะสม TVO ขึ้นอีก
30% เป็น 28 บาท บนฐานการเติบโตก้าวกระโดดในไตรมาส 1/51 เราคาดว่าจะมีแรงขายประมาณ 22
บาท (เพราะหุ้นก็ขึ้นมาแรงพอควร) แต่หุ้นจะได้รับความนิยมเทรดในเดือนนี้เนื่องจากศักยภาพกำไรดี
สัดส่วนการลงทุนเราเพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินสดเป็นระดับ40% ในจังหวะที่ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
สัดส่วนใหม่ สัดส่วนเดิม หุ้นหลัก
เงินสด 40% 35%
หุ้นขนาดใหญ่ 22% 25% PTT, BBL, PTTEP, และ KBANK
หุ้นไวต่อดัชนี 17% 19% TTA, BAY, BANPU, และ TCAP
หุ้นมีประเด็น 16% 16% CPF, BLS, PHATRA, HMPRO: ตัด BECL และ
MCOT ออก แต่เพิ่ม BEC
หุ้นขนาดเล็ก 5% 5% UMS, KH, MJD, และ SPALI: ตัด ROJANA
แต่เพิ่ม SSI

หุ้นน่าจับตา
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะผจญแรงขายในระยะสั้นท่ามกลางราคาน้ำมันที่ลอยตัวในระดับสูงและต้น
ทุนวัตถุดิบที่มีราคาแพงขึ้น เราแนะนำ ขายทำกำไรในระยะสั้น สำหรับหุ้นอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อย่าง LH
PS และ QH แม้ว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการลดภาษี ซึ่งมูลค่าหุ้น ณ PER ที่ 14-21 เท่า ถือว่าไม่ถูก
แล้ว โดยเราแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นที่เน้นคอนโดมิเนียมอย่าง LPN และ MJD แทน ซึ่งมีราคาถูกว่า ณ
PER ที่ 6-10 เท่า และคาดหมายว่าผลกำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง (40%-107%) ในปีนี้

บทวิเคราะห์วันนี้
* กลุ่มเหล็ก : ผู้ส่งออกเศษเหล็กของสหรัฐประกาศ เตรียมปรับราคาขึ้น 150-155 เหรียญ
/ตัน
* BBL <141.00 บาท : ซื้อ> อีกไตรมาสที่ประสบความสำเร็จของ BBL
* KTB <11.00 บาท : เต็มมูลค่า> กำไรจากเงินลงทุนหนุนกำไรสุทธิสูงเกินคาด
* TCAP <16.20 บาท : ซื้อ> กำไรสุทธิไตรมาส 1/51 เติบโตโดดเด่น 76%yoy และ
30%qoq
* TMB <1.43 บาท : เต็มมูลค่า> กลับมาแสดงกำไรอีกครั้งหนึ่ง
* MAJOR <17.10 บาท : ซื้อ> กำไรจากบริษัทร่วมจะผลักดันงบไตรมาส 1/51
* TVO <21.20 บาท : ซื้อ> ยังคงเป็นปีทองของ TVO
* SPALI <3.80 บาท :ทยอยสะสม> ยอดขายไตรมาส 1/51 ทำได้ตามเป้า แต่ผลประกอบ
การคาดว่าจะลดลงจากปีก่อน

สรุปข่าว
ธปท.เล็งตีกรอบสินเชื่อ SME หวั่นแข่งเดือดกระทบคุณภาพสินเชื่อ (ผู้จัดการรายวัน 21/4/51):
ธปท.พอใจผลประกอบการแบงก์พาณิชย์ไตรมาสแรกปีนี้ดีเกินคาด หลังมีการกันสำรองตามมาตรฐาน IAS39
ครบ หันจับตาแบงก์แข่งดุปล่อยกู้เอสเอ็มอี หวั่นอาจทำให้ละเลยการบริหารความเสี่ยงและตรวจสอบคุณภาพ
สินเชื่อ เผยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีที่ดี

แบงก์รัฐเพิ่มทุน 2 หมื่นล.กระตุ้นศก. รับโครงการพักหนี้-กองทุนหมู่บ้าน-เอสเอ็มแอล
(กรุงเทพธุรกิจ 21/4/51): แบงก์รัฐตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 1.04 ล้านล้านบาท พร้อมขอเพิ่มทุน 20,900
ล้านบาท รองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ "กรุงไทย-ออมสิน" เดินหน้าผันงบลงหมู่บ้าน เตรียมงบ 4
หมื่นล้านให้รัฐบาลกู้ "ธ.ก.ส." ปล่อยกู้ต่อยอดเอสเอ็มแอล 5.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ "คลัง" ชงครม.
อังคารนี้ เพิ่มลดหย่อนค่าโอน-จดจำนอง บ้าน-ที่ดิน นอกจัดสรรด้วย ย้ำเพื่อช่วยประชาชน

TMB ออกหุ้นกู้6หมื่นล. Q1กำไรกำไรพุ่ง600% ING ฮุบกองทุน-ประกัน งบแบงก์สวยทั้งระบบ
(ข่าวหุ้น 21/4/51): ทหารไทยขอมติผู้ถือหุ้นวันที่ 25 เม.ย.นี้ ออกหุ้นกู้ 6 หมื่นล้านบาท ระดมเงินขยาย
งาน-ปล่อยสินเชื่อใหม่ Q1 กำไรพุ่ง 1.59 พันล้าน หรือ 600% ไอเอ็นจีวางแผนรุกธุรกิจกองทุนรวมและ
ประกันชีวิต เขี่ยเอ็มเอฟซี-วรรณทิ้ง เร่งสรรหาเอ็มดีใหม่

ESSO วันนี้เกลี้ยง ยอดจองซื้อทะลัก ผลตอบแทนจูงใจ (ข่าวหุ้น 21/4/51): หุ้น ESSO ยอด
จองทะลัก จนต้องเพิ่มใบจองไอพีโอ มั่นใจขายเกลี้ยงภายในวันนี้ หลังโหมโรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศ
"แมนพงษ์"แย้มกระแสตอบรับจากกองทุน-นักลงทุนรายย่อยดีมาก หลังจากผลตอบแทนน่าจูงใจ

น้ำประปาไทยจูงใจปันผลทันที เปิดขายไอพีโอพ.ค.นี้-BECL ลุ้นขึ้นค่าทางด่วนอีกรอบ (ข่าวหุ้น
21/4/51): TTW ขายหุ้นไอพีโอพ.ค.นี้ พร้อมจ่ายปันผลทันที เผยสูงกว่าเคยประมาณการ เหตุมูลค่าทาง
บัญชีเพิ่มจากการซื้อกิจการน้ำประปาปทุมธานี "พเยาว์" หวัง กทพ. ให้ปรับค่าผ่านทางใหม่ เพราะต้องหา
เงินชำระหนี้และดอกเบี้ย หากไม่ให้ปรับราคาขู่ฟ้องศาลแน่ สัญญาสัมปทานระบุสามารถปรับราคาได้ทุก 5 ปี
ลดเป้าปริมาณการใช้รถลงเหลือ 9 แสนคันต่อวัน จาก 9.27 แสนคันต่อวัน จากผลกระทบเปิดใช้ฟรีวง
แหวนใต้

TICONเล็งออกหุ้นกู้500ล้าน พ.ค.นี้ (ข่าวหุ้น 21/4/51): TICON เตรียมออกหุ้นกู้ มูลค่า
500 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4% อายุ ประมาณ พ.ค.นี้ หวังระดมทุนใช้ก่อสร้างโรงงาน-คลังสินค้าปีนี้ ชี้ต้นทุน
ถูกกว่ากู้แบงก์ ขณะที่งบ Q1 ปีนี้ "วีระพันธ์" คาดน้อยกว่าปีก่อน เหตุไม่มีรายได้ขายโรงงานเข้า TFUND
ส่วนทั้งปีมั่นใจรายได้ตามเป้า 3,700 ล้านบาท

คลังจ่อขึ้นเงินเดือนราชการ ทุ่มงบ 6 หมื่นล้าน ไม่กลัวเงินเฟ้อพุ่ง(ข่าวหุ้น 21/4/51): คลัง
แจกข่าวดีเตรียมขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั่วประเทศ ทุ่มงบ 6 หมื่นล้านบาทปูพรม ไม่หวั่นปัญหาเงินเฟ้อ
หวังใช้กระตุ้นการบริโภคฟื้นเศรษฐกิจ ส่วนสัปดาห์นี้จ่ายโบนัสก่อน 6.7 พันล้านบาท

TCAP ฟุ้งกำไรQ1เพิ่มพันล้าน (ผู้จัดการรายวัน 21/4/51): กลุ่มธุรกิจทางการเงินธนชาต
ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 51 ก้าวกระโดดกำไรสุทธิพุ่งสูงถึง 1,016 ล้านบาท เทียบกับ
ไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยมีเพิ่มขึ้น 76.1% ชี้ผลจากการบริหารส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจากเงินให้สิน
เชื่อด้อยคุณภาพ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น มั่นใจปลายปีสามารถเดินหน้าไปเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้

ก.ล.ต.ไฟเขียวซินเน็ค ไอพีโอ180ล้านหุ้น-เทรดQ2 (ทันหุ้น 21/4/51): ก.ล.ต.อนุมัติไฟ
ลิ่งซินเน็คเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ "สุพันธุ์ มงคลสุธี" คาดเริ่มกระจายหุ้น ไอพีโอ 180 ล้านหุ้น
ภายในเดือนพฤษภาคมนี้

TRC ส่งซิกQ3เฮรับข่าวดี ผลงานขยายลงทุนต่างประเทศ (ทันหุ้น 21/4/51): TRC รับงาน
ใหม่จาก PTT เข้าพอร์ตเพิ่มอีกกว่า 300 ล้านบาท และงานซ่อมท่อก๊าซที่พม่าอีกกว่า 10 ล้านบาทหนุน
มูลค่างานในมือ 2,100 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "สมัย ลี้สกุล" ดอดเซ็น MOU โครงการ SPP ร่วมกับ
EGCO และ PTT แล้ว เตรียมลงมือก่อสร้างปีนี้


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com