May 12, 2024   4:18:14 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องนั่งเล่น > หุ้นเกษตร-อาหารยิ้มรับส่งออก
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 25/04/2008 @ 09:26:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นส่งออกลิงโลดรับยอดส่งออกมี.ค.พุ่ง 14.41% โดยเฉพาะกลุ่มเกษตร และอาหาร สดใสแซงกลุ่มอื่น ได้ทีราคาสินค้าขยับขึ้นตามราคาข้าว ส่วนยานยนต์รับอานิสงส์ค่ายรถยักษ์ใหญ่สั่งออร์เดอร์เพิ่ม ขณะที่กลุ่มอิเลคทรอนิกส์ยังโดนพิษบาทแข็ง รอลุ้นออร์เดอร์เพิ่มหนุนราคาหุ้น ชูCPF-TVO-TIPCO-TUF รับประโยชน์สูงสุด ตามด้วยSTANLEY และSAT

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์โกลเบ็ก จำกัด กล่าวว่า ยอดส่งออกที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคม2551ขยายตัวขึ้น 14.41% หรือคิดเป็นมูลค่า 14,764 ล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเกษตร และอาหาร ซึ่งราคาสินค้ามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามราคาข้าว ซึ่งหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดี ได้แก่ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) CPF จากราคากุ้งแช่แข็งมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และ บริษัทไทยยูเนียน โปรเซ่นส์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) TUF เนื่องจากราคาปลาทูน่าที่เพิ่มสูงขึ้น

? ยอดส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มการเกษตร และกลุ่มอาหารที่มีราคาที่เพิ่มขึ้นตามราคาข้าว? นายวรุตม์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มยานยนต์ได้รับผลดีจากราคาหุ้นที่จะปรับเพิ่มขึ้น คือ บริษัท ไทยสแตนเลย์-การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) STANLY และบริษัท สมบูรณ์ แอ็ดวานซ์ จำกัด (มหาชน) SAT เนื่องจากบริษัทฮอนด้า และบริษัทโตโยต้า ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ และสั่งซื้อสินค้าจาก STANLY และ SATเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อาจส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้ส่งออกอิงกับเงินดอลลาร์มีต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้นแต่ผลกำไรกลับลดลง ขณะเดียวกันในเดือนมี.ค.2551 ไทยยังมีดุลการค้าเกินดุล และเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ส่วนการที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพราะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นถ้าเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้นคาดว่ายอดส่งออกในไตรมาส 2/2551อาจชะลอตัวลง

? ไทยยังเป็นคู่ค้ากับสหรัฐถึง 11% ขณะเดียวกันถ้าภาคส่งออกของไทยไม่มีการหาตลาดใหม่เข้ามาทดแทนสหรัฐ และเชื่อว่าในไตรมาส 2/2551 ภาคส่งออกจะชะลอตัว? นายวรุตม์ กล่าว
นายสิทธิพร เจนในเมือง ผู้อำนวยการฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มหลักที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการส่งออกคือ กลุ่มเกษตรเป็นหลัก โดยหุ้นที่น่าสนใจและแนะนำ?ซื้อ? ได้แก่ CPF ให้ราคาเหมาะสม 6.00-7.00 บาท เพราะคาดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าหากวิกฤติราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์เพราะเป็นบริษัทที่ผลิตอาหารแบบครบวงจร และจะเป็นบริษัทที่ส่งออกมากที่สุด

ส่วนบริษัทน้ำมันพืชไทย จำกัด(มหาชน)TVO แนะนำ?ซื้อ? ให้ราคาเหมาะสม 22.00 บาทเพราะจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาน้ำมันพืชด้วยขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ราคาน้ำมันพืชปรับราคาเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนบริษัท สับปะรดไทย จำกัด (มหาชน) TIPCO แนะนำ?ซื้อ? ให้ราคาเหมาะสม 6.50-7.00 บาท และTUF ให้ราคาเหมาะสม 22.00-23.00 บาท เพราะราคาที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องและมองว่าในอนาคตยอดส่งออกจะเติบโตดีต่อเนื่องเช่นกัน

ขณะที่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ มองว่ายังได้รับแรงกดดันของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และยอดสั่งซื้อของต่างประเทศอาจลดน้อยลง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าเงินอ่อนค่า เช่น อินเดียอาจจะมีออร์เดอร์สั่งซื้อสูงกว่าประเทศไทย

ด้านน.ส.จิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ฟาร์อีสท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอาจทำให้การลงทุนในกลุ่มส่งออกเบาบางลง โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีรายได้อิงกับดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก แต่หากมีบริษัทใดบริษัทหนึ่งมียอดสั่งซื้อเข้ามามากขึ้นจะเห็นราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้นได้ สำหรับหุ้นที่ฝ่ายวิจัยแนะนำยังเป็นหุ้นขนาดใหญ่ เช่น CCET และ SVI ส่วนส่งออกประเภทอาหารแช่แข็ง คือ CPF จะได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกั้นภาษีของสหภาพยุโรป (EU) ทำให้ยอดส่งออกอาจลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากส่งออกที่ขยายตัวมากที่สุด คือ สินค้าเกษตรเนื่องจากราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้แม้ว่าภาคส่งออกไทยจะขยายตัว แต่ปัญหาสหรัฐไม่คลี่คลาย ทำให้ยอดส่งออกของกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ และCPF อาจได้รับผลกระทบ ซึ่งหุ้นที่ฝ่ายวิจัยแนะนำ?ซื้อ?คือ TVO ให้ราคาเหมาะสม 26.50 บาท ซึ่งเชื่อว่าจะเติบโตดีสุดในกลุ่ม
TVO(24 เม.ย.)ปิดที่ 22.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 76.67 ล้านบาท

ทันหุ้น[/size:abf54af7e7">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com