รอยเตอร์


*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับลงในวันจันทร์ จากความวิตกที่ว่าธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา

คอร์ป อาจถอนตัวจากการซื้อคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ปซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้ที่

ประสบปัญหา ขณะที่ราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์เหนือ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล

เพิ่มความวิตก เกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดวานนี้ พุ่งขึ้น 3.65

ดอลลาร์ ปิดที่ 119.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ ขณะระหว่างวัน

ขึ้นแตะ 120.36 ดอลลาร์ จากปัจจัยดอลลาร์อ่อนค่าและความขัดแย้งเรื่องอิหร่าน

*หุ้นบมจ.เอสโซ่(ประเทศไทย) หรือ ESSO เข้าซื้อขายวันแรก ราคาจองหุ้นละ 10 บาท

มีบล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

*กระทรวงการคลัง เผยครึ่งแรกปีงบประมาณ 51 (ต.ค.50-มี.ค.51) มีเม็ดเงินจาก

ภาคการคลังถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งสิ้น 1.57 แสนลบ. คิดเป็น 1.7% ของ

จีดีพี โดยขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนจำนวน 7.56 หมื่นลบ.

*บีโอไอ อนุมัติส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตลูกสูบเครื่องยนต์ สำหรับรถยนต์นั่ง

และรถมอเตอร์ไซค์ แก่บริษัท ฮอนด้า เฟาดรี (เอเซียน)มูลค่า 348.2 ล้านบาท

รองรับโครงการอีโคคาร์

*ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นัดไต่สวนพยานผู้ร้องวันที่ 8 พ.ค.และพยานฝ่ายผู้คัดค้าน

ในวันที่ 12-14 และ 20 พ.ค.นี้ ในคดีที่กกต.เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนายยงยุทธ

ติยะไพรัช ซึ่งถูกกล่าวหาว่าอาจเกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายทรัพย์สินในการเลือกตั้ง

*คณะกก.ค่าจ้างกลาง มีมติขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 76 จว.ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 2-11 บาท/วัน

โดยจ.เชียงราย ปรับขึ้นสูงสุด 11 บาท เป็น 157 บาท ส่วนสุโขทัย-อุตรดิตถ์-ชัยภูมิ

ปรับขึ้นต่ำสุด 2 บาท,กรุงเทพฯ ปรับขึ้น 9 บาท เป็น 203 บาท มีผล 1 มิ.ย.51

*ผู้บริหารรฟม.เผยมีผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างซื้อซองประมูลงานก่อสร้างรถไฟฟ้า

สายสีม่วง จำนวน 27 ราย ในจำนวนนี้เป็นบจ.ในตลท.จำนวน 10 ราย

*หนังสือพิมพ์เผย ผู้ส่งออก-โรงสี หวั่นขาดทุนหนัก เร่งระบายข้าวในสต๊อก ฉุดราคา

ข้าวเปลือกร่วง หลังก่อนหน้านี้มีสต๊อกเต็มโกดัง

*หนังสือพิมพ์เผย ธปท.ส่งหนังสือให้แบงก์พาณิชย์จัดทำแผนรองรับกฎหมายคุ้มครองเงิน

ฝาก กำหนดให้เตรียมความพร้อมรับมือกรณีคนแห่ถอนเงิน หลังจากกฎหมายเริ่มลด

วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 100 ลบ. ตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 52

*หนังสือพิมพ์เผย ผู้จัดการตลาด mai ระบุช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการกลุ่ม

โทรคมนาคม ยื่นจดทะเบียนน้อยมาก เหตุรอความชัดเจนเกี่ยวกับกทช.-แผนแม่บท

*หนังสือพิมพ์เผย กฟผ.เผยความล่าช้าการสร้างสายส่งนาบง ในลาว อาจกระทบรับ

ซื้อไฟฟ้าจากลาว 3 โครงการ ทำให้ต้องเลื่อนรับไฟออกไปอย่างน้อย 1-2 ปี ส่งผล

กำลังผลิตหายไปกว่า 1 พันเมกะวัตต์ กระทบปริมาณสำรองเหลือ 16-17% ในอีก 5 ปี

*หนังสือพิมพ์เผย ผู้บริหารบลจ.เผยตลาดบอนด์เอเชีย อนาคตสดใสในระยะยาว เหตุ

ประเทศในภูมิภาคต้องออกพันธบัตร ระดมทุนมาใช้พัฒนาประเทศ ส่งผลให้อัตราผลตอบ

แทนขยับตัวสูงขึ้น ประกอบกับมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ

*หนังสือพิมพ์เผย สบน.เร่งออกพันธบัตรบ้านหลังแรก วงเงิน 1 หมื่นลบ.ภายในเดือนนี้

ระดมทุนดอกเบี้ยต่ำ 4.5-4.8% เพื่อให้ธอส.ปล่อยกู้ผู้มีรายได้น้อย

*หนังสือพิมพ์เผย สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณา มองแนวโน้มธุรกิจโฆษณา

ปีนี้ปรับตัวดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปีที่ผ่านมา แต่หลังรัฐบาลชุดใหม่เข้า

มาบริหารงาน ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนมีมากขึ้น

*หนังสือพิมพ์เผย กระทรวงการพัฒนาสังคมฯจะเสนอครม.วันนี้ พิจารณาเห็นชอบการ

ออกสลากการกุศลฉบับพิเศษ จำนวน 40 งวด รวมเป็นเงิน 1.28 หมื่นลบ. นำเงิน

ไปช่วยเหลือสังคม

*หนังสือพิมพ์เผย สศช.ระบุ ขณะนี้ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก มีความอ่อนไหวมากกว่า

ราคาน้ำมัน กรณีราคาข้าวที่เคลื่อนไหวผิดปกติมากถึง 50-60% ของราคาที่แท้จริง

ชาวนาต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพราะหากราคาข้าวลดลงจะส่งผลกระทบรุนแรง

--จบ--

:lol:

.--รอยเตอร์


*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งขึ้น โดยมองปัจจัยบวกจากการเก็งกำไร

ผลประกอบการไตรมาส 1/51 ของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน

เหล็ก และสินค้าเกษตรที่คาดออกมาดี อีกทั้งไม่มีปัจจัยลบใหม่ด้วย

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับลงในวันจันทร์ จากความวิตกที่ว่าธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา

คอร์ป อาจถอนตัวจากการซื้อคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ปซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้ที่

ประสบปัญหา ขณะที่ราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์เหนือ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล

เพิ่มความวิตก เกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดวานนี้ พุ่งขึ้น 3.65

ดอลลาร์ ปิดที่ 119.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ ขณะระหว่างวัน

ขึ้นแตะ 120.36 ดอลลาร์ จากปัจจัยดอลลาร์อ่อนค่าและความขัดแย้งเรื่องอิหร่าน

*หุ้นบมจ.เอสโซ่(ประเทศไทย) หรือ ESSO เข้าซื้อขายวันแรก ราคาจองหุ้นละ

10 บาท มีบล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาการเงิน

*วันศุกร์ต่างชาติขายสุทธิ 383.75 ลบ.จากวันพุธขายสุทธิ 1.11 พันลบ.

*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 31.66/69 จากเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ 31.72/74

*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 835 และแนวต้านที่ 850


"วันนี้ตลาดต่างประเทศ เริ่มมีอิทธิพลบ้างแต่ก็ไม่มาก ปัจจัยในประเทศ ก็ยัง

ไม่มีอะไรน่าวิตก และก็ยังไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆเกิดขึ้น...ตลาดวันนี้น่าจะทรงตัว หรือปรับ

ขึ้นได้" นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย

พลัส กล่าว

เขา กล่าวว่า การประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/51 ของบริษัทจดทะ

เบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์(ตลท.) น่าจะเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้ตลาดปรับขึ้นได้

เนื่องจากมองภาพรวมกำไรบจ.น่าจะดีขึ้น

โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ที่จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/51 ในช่วง

สัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเหล็ก และสินค้าเกษตรที่คาดว่ากำไรจะดีขึ้น ซึ่งจะ

ทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายเก็งกำไรกัน


ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ

*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันศุกร์ ปิดบวก 10.70 จุด หรือ 1.29% มาที่

843.15 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18,790.17 ล้านบาท

*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ ปิดลบ 88.66 จุด หรือ 0.68% มา

ที่ 12,969.54 และดัชนีแนสแดค ปิดลบ 12.87 จุด หรือ 0.52% มาที่

2,464.12

*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้มีทั้งบวกและลบ โดยตลาดเกาหลีใต้ บวก 0.02%,

ไต้หวัน ลบ 0.3%, สิงคโปร์ ลบ 0.4% และฮ่องกง ลบ 0.3% ขณะที่

ตลาดหุ้นโตเกียวปิดวันนี้ เนื่องในวันหยุดประจำชาติ


จับตาหุ้น

*KTC คาดยอดบัตรเครดิตใหม่ปีนี้ ทะลุเป้า 2.5 แสนบัตร

*PTTCH Q1/51 กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 5.7 พันลบ.

*ADVANC คาดรายได้ Q1/51 ดีกว่า Q1/50 หลังฐานลูกค้าเพิ่ม

*TOP Q1/51 กำไรสุทธิ 3.87 พันลบ.,นักวิเคราะห์คาด 4.3 พันลบ.

*SCC จะออกหุ้นกู้ในต.ค.-พ.ย.ปีนี้ ลงทุนมากสุดเป็นประวัติการณ์, Q1/51

กำไรสุทธิลดลงเป็น 1.01 พันลบ.

*EMC คงเป้ารายได้ปีนี้ 3.3 พันลบ.เล็งประมูลงานใหม่ 1.3 หมื่นลบ.

*หุ้นรับเหมาก่อสร้าง หลังรฟม.ปิดขายซองประมูล,มีผู้ซื้อซองมากถึง 27 ราย--จบ-

บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส

Distributor - Bisnews AFE

ภาพวันวาน
ดัชนีไทยปิดบวก 10.70 จุด ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ จากแรงซื้อหนุนทั้งในกลุ่ม
พลังงาน และกลุ่ม ธ.พ. ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.87 หมื่นล้านบาท ต่างชาติกลับมา
ซื้อสุทธิ 383.75 ล้านบาท

ประเด็นร้อนวันนี้

* ราคาน้ำมันดีดตัวทำจุดสูงใหม่ ความกังวลต่ออุปทานจากตะวันออกกลาง
ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวขึ้นครั้งใหม่ โดยในระยะ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น 5.9% สร้าง
จุดสูงใหม่ที่ระดับ 112.62 เหรียญฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ เกิดจากความกังวลต่อปัญหาอุปทานในตะวันออกกลาง
ทั้งจากกรณีกลุ่มกบฎในไนจีเรีย และความขัดแย้งจากอิหร่านในปัญหาพลังงานนิวเคลียร์ ทั้งนี้จากประเด็น
ดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน โดยเมื่อพิจารณาจากราคาน้ำมัน
เฉลี่ยจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 94.22 เหรียญฯต่อบาร์เรล สูงกว่าสมมุติฐานของฝ่ายวิจัยที่กำหนด
ไว้ที่ระดับ 80 เหรียญฯต่อบาร์เรล แนะนำซื้อ PTT(FV@B421.81), PTTEP(FV@B201.69) ขณะที่การ
รายงานน้ำมันสำรองของสหรัฐในคืนพรุ่งนี้ (7 พ.ค. 2551) คาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ช่วยลด
แรงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวขึ้นได้ไม่มาก วันนี้ ESSO เข้าทำการซื้อขายวันแรกด้วยราคาจอง 10
บาท โดย ASP ให้มูลค่าพื้นฐานไว้ที่หุ้นละ 12.22 บาท แต่อย่างไรก็ตามหากเทียบกับ TOP(FV@B93.56)
แล้ว TOP น่าสนใจมากกว่า เพราะ ณ ราคาตลาด TOP จะมี Upside ประมาณ 28%

* ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า หลังแข็งค่ากว่าสัปดาห์ สะท้อนจบวงจรดอกเบี้ยขาลง
เงินดอลลาร์เริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งหลังจากที่ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ มีมติให้ลดดอกเบี้ย
นโยบายอีก 0.25% ลงมาเหลือ 2% เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อ
เนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ ขณะที่ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เริ่มมีเสถียรภาพในกรอบ
31.4-31.8 บาท ต่อเหรียญฯ (โดยก่อนหน้านี้เงินบาทอ่อนค่า 0.63% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา) คาด
ว่าแรงกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมาต่อภาคส่งออก เริ่มลดน้อยลง น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจการ
ท่องเที่ยว ได้แก่ MINT และภาคส่งออก เช่น DELTA, HANA, KCE เป็นต้น

* หุ้น ธ.พ. น่าจะเป็นจังหวะเก็บสะสม เชื่อว่าสินเชื่อยังขยายตัว
ราคาพืชผลเกษตรอ่อนตัวระยะสั้น สะท้อนจากการที่ราคาข้าวเปลือกนาปรังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง
มาอยู่ที่ระดับเพียง 1.1 หมื่นบาท/ตัน จาก 1.45 หมื่นบาท/ตัน เป็นผลจากการหยุดสต๊อกสินค้าคงคลังฯ
โดยเชื่อว่าปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในแหล่งผลิตสำคัญๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม และอินเดีย
และล่าสุดเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในพม่า ยังคงสนับสนุนให้ราคาพืชเกษตรทรงตัวในระดับสูง และยังคงเป็น
ธุรกิจหลักที่ยังมีความต้องการสินเชื่อเพื่อการขยายธุรกิจ ประกอบกับราคาพืชเกษตรอาหาร และราคาน้ำมัน
ที่สูง ยังคงกดดันอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ซึ่งจะกดดันให้ กนง. มีแนวโน้มจะคงดอกเบี้ยใน
การประชุมวันที่ 21 พ.ค.2551 ต่อไป จึงแนะนำซื้อหุ้นกลุ่ม ธ.พ.จาก NIM ที่ทรงตัว KBANK(FV@B110),
BBL(FV@B155.28), BAY(FV@B29.73)

INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้าน ใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด: 825 / 860 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวลบ แนวรับ 838 จุด แนวต้าน 850 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : แนะนำเลือกซื้อหุ้นรายตัวเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าสู่แนวTTA(46.5/48), CK(7.9/8.3),
MINT(16.2/17), PTT(336/348), PTTEP(167/175), BH(32.5/34)


:lol:

.--บล.ธนชาต


น้ำมันดีดตัวสู่ USD120/bbl จากดอลลาร์ที่พลิกเป็นอ่อนตัวหลังการจ้างงานสหรัฐแย่กว่าคาด และสถานการณ์ในอิหร่านตึงเครียด ส่วนดีล Bank of America-Countrywide ที่อาจล้มทำให้ตลาดหุ้นอ่อนตัว และเงินไหลกลับเข้า commodities futures ทั้งนี้ TNS ยังแนะนำกลยุทธ์ระยะสั้นในกลุ่มน้ำมันคือ "ขึ้นขาย-ลงซื้อ" โดยกำไร 1Q08 ของ TOP ที่ลด 35% y-y อาจเป็นจังหวะให้เก็งกำไรระยะสั้น

Dow Jones อ่อนตัวจากตลาดที่ sensitive ต่อข่าวลบ
* Dow Jones อ่อนตัวลง 0.68% โดยดึงลงมาจากหุ้น GM และ Yahoo รวมทั้งจากข่าวว่า Bank of America อาจถอนตัวจากการซื้อหุ้น Country Financial Corp
* หุ้นกลุ่มค้าปลีก และอุปโภคบริโภคก็ปรับลดลงจากราคาน้ำมันที่ใกล้ USD120/bbl
* ราคาหุ้น Yahoo ปรับลดลงแรงหลังจากที่ Microsoft ยกเลิกการเข้า take over
* Warren Buffet เชื่อว่าไม่มีความจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐลงอีก
* The Institute for Supply Management non-manufacturing (ซึ่งชี้กิจกรรมในภาคบริการ) ในเดือน เม.ย.08 ปรับตัวดีขึ้นเป็น 52.0 จุด แต่รายงานการว่างงานไม่ดีนัก
* รายงานเศรษฐกิจคืนนี้ - ABC Consumer Confidence สัปดาห์ที่ผ่านมา (consensus คาด ติดลบ 40 เท่ากับสัปดาห์ก่อนหน้า)

NYMEX ดีดตัวใกล้ USD120/bbl
* NYMEX ปิดบวก 3.14% เป็น USD119.97/bbl โดยนักลงทุนกลับมาเก็งกำไรน้ำมันหลังจากที่ดอลลาร์อ่อนตัวตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจ และสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่าน
* 6 ชาติมหาอำนาจมีข้อจูงใจเพื่อเสนอให้อิหร่านระงับโครงการเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียม แต่อิหร่านปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว
* ราคาสินค้า commodities ปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน
* TNS ยังแนะนำกลยุทธ์ระยะสั้นในการลงทุนหุ้นน้ำมัน คือ "ขึ้นขาย-ลงซื้อ"

MAJOR (BUY; TP THB22.0) ธุรกิจแข็งแกร่งในระยะยาว (อ่าน Company Note)
* TNS ปรับคำแนะนำจาก Hold เป็น "BUY"
* ปรับประมาณการกำไรในระยะยาวขึ้น และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 22 บาทอิงวิธี
sum-of-the-parts valuation
* จะเปิด 2 โครงการใหม่คือ Major Avenue (กลางปีนี้) และ รัตนาธิเบศร์ Ceneplex
* จะใช้ Property funds ในการเร่งกำไรให้เติบโต
* ผู้บริหารมี track record ที่ดี เป็นธุรกิจที่ defensive และให้ div.yield สูงราว 5%

TOP (HOLD; TP THB80.0) กำไร 1Q08 ลดลง 35% y-y
* TOP รายงานกำไรใน 1Q08 ที่ลดลง 35% y-y แย่กว่าที่คาดเล็กน้อย
* ผลประกอบการน่าจะดีมากใน 2Q08 และเป็น momentum ให้สะสมช่วงราคาอ่อนตัวรับข่าว
ผลประกอบการ 1Q08 เพื่อการเก็งกำไร

3.3 พันล้านบาท +
EMC: ย้ำชัดเป้ารายได้ทั้งปีเติบโต 3.3 พันลบ. ขณะที่ 1Q08 รายได้ยังวิ่งชนเป้า 600 ลบ. พร้อมโชว์แบ็กล็อกล่าสุดพุ่ง 4.5 พันลบ. ด้านผู้บริหารโชว์แผนเด็ดหันรับงานระยะสั้นเพิ่มสภาพคล่องรายได้ ส่วน EMC-W2 คาดเทรดได้ปีนี้แน่นอน หลังยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.เมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา (ทันหุ้น)

2 พันล้านบาท +
KASET: เผยปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มจาก 1,800 ลบ. เป็นทะลุเกิน 2 พันลบ. หลังภาวะราคา
ข้าวพุ่งต่อเนื่อง ตามภาวะตลาดโลกเล็งเพิ่มกำลังผลิตข้าว 2Q08 และออกสินค้ากลุ่มวุ้นเส้นครึ่งปีหลัง เพื่อเพิ่มรายได้ทุกช่องทาง ขณะที่ราคาหุ้นแผ่วลงหลังขึ้นไปยืนเทรดเหนือ 7 บาทได้ (ผู้จัดการ)

180 แห่ง +
Buy TP 105 บาท
KBANK: เดินหน้าบริการวางแผนการเงินส่วนบุคคลกสิกรไทย (K-We Plan) เผยเปิดบริการ
ตั้งแต่เดือน พ.ย. มีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 1,000 ราย เป็นลูกค้าแบงก์ 70% เตรียมแผนขยายสาขาให้บริการ K-We Plan ในสิ้นปีเป็น 180 สาขา (ผู้จัดการ)

+15% รายได้ปี 08 +
MACO: เผยฐานลูกค้ารายเก่าและใหม่ยังเหนียวแน่น เพราะมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อมัดใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีลูกค้ารวม 150-200 ราย คาดรายได้ปีนี้โต 15% จากปีก่อนมีรายได้ 498.88 ล้านบาท กำไร 28.18 ล้านบาท (ทันหุ้น)

150 ล้านบาท +
Buy TP 22 บาท
MAJOR: เผย 1Q08 ไปได้สวย บันทึกรายได้พิเศษเกือบ 150 ล้านบาท ยืนยันไม่ขอลุยทำทีวีดาวเทียมแน่ หลัง TRAF อาสารับหน้าที่แทน (ข่าวหุ้น)

+20% กำไรปี 08 +
Buy TP 21.1 บาท
MINT: ผู้บริหารเผยรายได้ 1Q08 ดีเกินคาดจาก 1Q07 ที่มีรายได้ 3,673 ลบ. กำไร 450
ลบ. การเติบโตเพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจอาหาร 18% และธุรกิจโรงแรม 20-22% เปิดเกมมีแข่งขันครึ่งปีหลังลุยเปิดสาขาอาหารให้ครบ 120 สาขา ส่วนโรงแรมเตรียมเข้าบริหารที่บาหลี ดูไบ และอาบูดาบี ย้ำปีนี้มีรายได้โตชัวร์ 15% กำไรโต 20-25% (ทันหุ้น)

3.3 พันล้านบาท+
MJD: เผยผลประกอบการ 1Q08 ออกมาดี เหตุมีรายได้โอนเพิ่มขึ้นจาก 4 โครงการ "วอ
เตอร์มาร์ค เจ้าพระยา-แมนฮัตตัน ชิดลม-ฟูเลอตัน สุขุมวิท-วินด์ สุขุมวิท 23" ส่วนเดือน มิ.ย.นี้ เล็ง
เปิดตัวโครงการรีเฟล็กชั่น หาดจอมเทียน จ. พัทยา มูลค่า 3.3 พันล้านบาท (ข่าวหุ้น)

120 ล้านบาท +
PREM: จ่อคว้างานโครงสร้างหลังคาเหล็กอีก 120 ล้านบาท สรุปเดือนหน้า รับรู้รายได้ทันที 3Q08 พร้อมขยายโรงงานรับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์พุ่ง เผยสัดส่วนเพิ่มเป็น40% จากปีก่อนอยู่ที่
25% ลั่นผลประกอบการปี 08 แตะ 2,100 ล้านบาท เติบโต 10% เหตุราคาเหล็กสูง (ข่าวหุ้น)

3.1 พันล้านบาท 0
Buy TP 380 บาท
PTT: เร่งอัยการสูงสุด ส่งสัญญาเช่าท่อก๊าซให้ทันลงนามเดือนนี้ ยันไม่กระทบผลประกอบการบริษัทมากนัก งวดแรกจ่ายย้อนหลังตั้งแต่ 1 ต.ค. 2001 - 31 ธ.ค. 2007 รวม 2,825 ล้านบาท และปีนี้อีกเป็น 300 ล้านบาท (ข่าวหุ้น)

+11% รายได้ปี 08 +
Buy TP 18 บาท
SAT: ผู้บริหารยืนยันรายได้ 1Q08 โตกว่า 10% เทียบจากปีก่อนที่ทำได้ 1.2 พันลบ. ยืนกรานเป้ารายได้ทั้งปีโตได้แน่ 11% หลังมีออเดอร์ในมือจ่อรับรู้รายได้ 3 ปีข้างหน้าถึง 4 พันล้านบาท (ทันหุ้น)

2 หมื่นลบ. 0
Buy
TP 100 บาท
SCB: ธนาคารจะออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ชนิดไม่มีหลักประกัน จำหน่ายในเดือน พ.ค.นี้ จำนวน 2
หมื่นล้านบาท กำหนดไถ่ถอนในปี 2561 อัตราดอกเบี้ยจ่ายเป็นขั้นอายุ เริ่มตั้งแต่ 3 ปีแรก จ่ายดอกเบี้ย
5% และดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา (โพสต์ทูเดย์)

IPO 0
New list
IPO-ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย: ขายหุ้น 35.10 ล้านหุ้น ระดมทุนชำระเงินกู้เข้าจดทะเบียนตลาด mai (ผู้จัดการ)

IPO 0
New list
IPO-สยามโกลบอล เฮ้าส์: เตรียมขายหุ้น IPO จำนวน 260 ล้านหุ้น หวังนำเงินขยายสาขา
เพิ่ม เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ (ผู้จัดการ)


:lol:

บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป

แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวน แต่ยังอิงทางบวกจากหุ้นพลังงาน
ปัจจัยภายนอกดูค่อนไปทางเชิงลบจากการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก น่าจะเป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ที่จะเป็นวันทำการซื้อขายวันแรกของหุ้น ESSO ณ ราคา IPO ที่ 10 บาท ซึ่งไม่แพง น่าจะได้เห็นการเข้าเก็งกำไรทำให้กลุ่มพลังงานนำตลาดรวมอิง ทางบวกต่อได้ สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นเปลี่ยนเป็นขาขึ้นหลังดัชนี
สามารถยืน เหนือ 840 จุดได้สำเร็จ เรายังคงคำแนะนำเดิมในการ Trading buy โดยเน้นหุ้นที่มีผล ประกอบการดีเป็นหลัก ท่ามกลางฤดูการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 รวมถึง หุ้นกลุ่มพลังงานที่น่าจะเป็นบวกกับสถานการณ์น้ำมันในระยะสั้นและ Selective หุ้น กลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากงาน Money Expo ระหว่างวันที่ 8-11 พ.ค. นี้

แนวต้าน : 850-854 แนวรับ : 839-836

ปัจจัยเด่นวันนี้
- ดาวโจนส์ปิดร่วง 88.66 จุด ในวันจันทร์ จากความวิตกที่ว่าธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา
คอร์ป อาจจะถอนตัวจากการซื้อคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ปซึ่งเป็นบริษัท ปล่อยกู้ที่ประสบปัญหา ขณะที่ราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์เหนือ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค
- ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ปิดพุ่งขึ้น 3.65 ดอลลาร์ มาที่ 119.97 ดอลลาร์ต่อ
บาร์เรล จากความอ่อนแอของดอลลาร์ และความขัดแย้งเรื่องอิหร่าน และปัญหา ขัดข้องด้านการผลิตในไนจีเรีย
+ หุ้น ESSO เข้าทำการซื้อขายเป็นวันแรกในวันนี้
0 ธปท.จับตาดูเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ก่อนการปรับอัตราดอกเบี้ย หลังดัชนีราคาผู้บริโภค ทั่วไป (CPI) เดือนเมษายน พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 6.2%
0 กกต. คาดคดีทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช จะทราบผลจากศาลฎีกา ประมาณวันที่ 20 พ.ค. หรือประมาณสิ้นเดือนพ.ค.นี้

หมายเหตุ
*** (+) คือ มีผลบวกต่อ SET (-) คือ มีผลลบต่อ SET (0) คือ อาจมีหรือไม่มีผลต่อ SET***

:lol:

บล.ฟาร์อีสท์

Distributor - Bisnews AFE

Factors to Watch
* วันนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการต่อเนื่องในวัน Greenery Day
* ส่วนคืนนี้ ติดตามรายงานข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสัปดาห์ที่แล้ว

บทวิเคราะห์หุ้นเด่น...วันนี้
SCC : ผลประกอบการ 1Q51 ที่โดดเด่นเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น แม้แนวโน้มผลประกอบการใน 2Q51 น่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่เราประเมินว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลในช่วง 1H51 น่าจะเป็นปัจจัยที่กำหนดทิศทางราคาหุ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงอยู่จึง ปรับลดคำแนะนำจาก ซื้อลงทุน เป็น "ถือ"


แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
เรามองว่า SET ในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนไม่มากนัก ด้วยมุมมองอย่างอนุรักษ์นิยมเราไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่ารูปแบบ Sideway แม้ว่า Sentiment ในช่วงสั้น
ตลาดหุ้นสหรัฐจะได้ผลบวกจากทั้ง GDP 1Q08 (เติบโต 0.6% นักวิเคราะห์คาด 0.2-0.5%) และตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตรกรรม (ลดลง 20,000 ตำแหน่ง นักวิเคราะห์คาดลดลง 80,000 ตำแหน่ง) ประจวบเหมาะกับข้อมูลเศรษฐกิจของไทยเดือน มี.ค. ที่ออกมาค่อนข้างดีเช่นกัน ซึ่งทำให้ดัชนี DJIA และ SET ปรับตัวเข้าใกล้จุดสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี พร้อมกับแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ และสถาบันที่
เข้ามาค่อนข้างชัดเจนในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งเราก็เชื่อว่า Sentiment บวกดังกล่าวจะยังผลมาในสัปดาห์นี้ แต่ด้วยน้ำหนักของ Momentum ที่อ่อนแอลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น ตามด้วยผลประกอบการ 1Q51 ของ บจ.ใน ตลท. ที่จะทยอยออกมาต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ประกอบกับดัชนี DJIA ที่อาจจะไม่แข็ง
แรงเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังตอบสนองปัจจัยบวกไปพอสมควรแล้วและอาจขาดปัจจัยสนับสนุนในระยะสั้น ขณะที่มุมมองในระยะกลางขึ้นไปสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐถือว่ายังมีความเสี่ยง โดยกูรูด้านการลงทุนอย่าง
Warren Buffet มีความเห็นว่าขณะนี้สหรัฐเข้าสู่ช่วงถดถอยเรียบร้อยแล้ว และบรรดาสถาบันการเงิน
สหรัฐอาจจะได้รับผลพวงจากปัญหาสินเชื่อภาคอสังหาฯ ซึ่งจะเป็นเป็นตัวถ่วงผลประกอบการของกลุ่มสถาบันการเงินไปอีก 2 ปี ขณะที่ประธานเฟดได้กล่าวถึงความกังวลในสภาวะตลาดอสังหาฯ เมื่อคืนว่ายังอยู่ในช่วงขาลง โดยเป็นส่วนผสมของสินเชื่อที่มีปัญหาและราคาอสังหาฯ ที่ลดต่ำลง ประจวบเหมาะกับที่ล่าสุด UBS
ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของ Switzerland มีแผนจะลดลงพนักงานลง 10% หรือประมาณ 8,000 ตำแหน่ง ขณะที่ผลประกอบการ 1Q08 ขาดทุนราว 11.4 พันล้านเหรียญ ด้านภาพใหญ่ระดับเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญหน้ากับภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก จากต้นทุนทางด้านพลังงานและอาหารที่สูงขึ้น โดยดัชนีราคาผู้บริโภค เม.ย
.51 ของไทย พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 6.2% ซึ่งทำให้สมมุติฐานที่ว่า กนง. จะตัดสินใจไม่ลด
ดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 21 พ.ค. นี้มีน้ำหนักมากขึ้น สัปดาห์นี้ SET จะมีสีสันจากการเข้าซื้อขายวันแรกของ ESSO ในวันนี้ ซึ่งเราคาดว่าจะสามารถยืนเหนือราคาจอง 10 บาทได้ เนื่องจากราคาจองซื้อไม่สูงนักประกอบกับมี Dividend yield ที่สูงถึง 10% รองรับ สำหรับประเด็นทางด้านการเมืองในสัปดาห์นี้ คงต้องให้ความสำคัญกับการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่
น่าจะได้ข้อยุติในวันพุธที่ 7 เม.ย. นี้ ว่าจะสามารถตอบคำถามสาธารณชนได้ในระดับใด และจะเป็นชนวนไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่
SET Index และกลยุทธ์: เราประเมินว่า SET Index ในสัปดาห์นี้จะแกว่งตัวแบบ Sideway
หลังได้ sentiment เชิงบวกต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนบ้าง แต่คาดว่าอาจจะถูกกดดันจากแรงขายทำกำไร
Sell on Fact หลังบจ. นอกกลุ่มแบงก์ทยอยรายงานผลประกอบการ 1Q51 ในสัปดาห์นี้ เราประเมิน
กรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในสัปดาห์นี้ที่ 827-857 จุด กลยุทธ์การลงทุนเน้น "ขายทำกำไร" แล้วรอซื้อกลับ สำหรับหุ้นที่มีพื้นฐานดีในกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ บันเทิง และพลังงานแนะนำ SCB, KBANK,
BAY, PS, QH, LH, AP, LPN, AMATA, ROJANA, PTTEP, BEC ส่วนหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเน้นเก็งกำไรสั้นๆ ITD, CK (มีประเด็นบวกเรื่องการเข้าซื้อขายของ TTW), STEC ส่วนกลุ่มเหล็ก แนะนำ
GSTEEL, TMT, TSTH ด้านกลุ่มหลักทรัพย์ทยอยเก็บได้หลังจากผลประกอบการ 1Q51 เบิกฤกษ์ปี 51 ได้ดี
หลังผลประกอบการออกมาดีเป็นส่วนใหญ่ แนะนำ PHATRA, BLS, KEST โดยวันนี้เราประเมินกรอบการ
เคลื่อนไหวของ SET ในวันนี้ 834-852 จุด

ตลาดหุ้นต่างประเทศ
Down day on Wall Street วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการปรับตัวลดลง โดยเป็นผลจากการพุ่งขึ้นทำ new high ของราคาน้ำมันดิบ และข่าวการล้มดีลการซื้อกิจการ Yahoo ของ Microsoft และ
ดีลที่ Bank of America จะเข้าซื้อกิจการของ Countrywide Financial ซึ่งมีผลทำให้ราคาหุ้นของ Yahoo ร่วงลง 15% และหุ้น Countrywide Financial ลดลงกว่า 10% ทั้งนี้นักลงทุนกังวลว่าผลการ
ดำเนินงานของบริษัทในวอลล์สตรีทจะไม่พลิกฟื้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังชะลอตัวอยู่ นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันกลับมาดีดตัวขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก เป็นการเคลื่อนไหวที่สวนทิศทางกับสัปดาห์ก่อน สำหรับคืนนี้ ติดตามรายงานผลประกอบการ 1Q08 ของ Cisco System
ราคาน้ำมันและทองคำ: ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ล่วงหน้าเดือน มิ.ย. พุ้งขึ้น 3.65 ดอลลาร์
ปิดที่ 119.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากระหว่างวันทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 120.36 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ล่วงหน้าเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 3.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.99 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับอิทธิพลจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความขัดแย้งทีเกิดขึ้หลังอิหร่านประกาศจะไม่พิจารณามาตรการจูงใจใดๆจากชาติมหาอำนาจในการจำกัดสิทธิของอิหร่านที่มีต่อเทคโนโลยี
ด้านนิวเคลียร์ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจจะกระทบต่อราคาสินค้าและบริการใน
สหรัฐ ส่วนราคาทองคำล่วงหน้า COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 16.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 874.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับปัจจัยบวกจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกันสกุลเงินหลักๆ จากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล

News Update

ธปท.สั่งแบงก์ ทำแผนรองรับ "ก.ม.เงินฝาก"
แบงก์ชาติส่งหนังสือให้แบงก์พาณิชย์จัดทำแผนรองรับกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก กำหนดให้เตรียม
ความพร้อม รับมือกรณีคนแห่ถอนเงินหลังจากกฎหมายเริ่มลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือเหลือ 100 ล้าน
บาท ตั้งแต่เดือนส.ค. ปี 2552 (กรุงเทพธุรกิจ-อังคาร)

ธปท.สศช. ไม่หวั่นเงินเฟ้อมั่นใจทั้งปีตามเป้า 4-5.5%
แบงก์ชาติ-สภาพัฒน์ มั่นใจเงินเฟ้อทั้งปีเป็นไปตามประมาณการ 4-5.5% แจงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย.พุ่งเกินคาดการณ์ สาเหตุหลักมาจากราคามันเฉลี่ยทะยาน เชื่อแนวโน้มราคาอ่อนตัว ด้านค่าเงินบาททรงตัวหลังเฟดลดดอกเบี้ย สศช.แนะผู้ประกอบการลดต้นทุน-เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รับมือเงิน
เฟ้อเพิ่มขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ-เสาร์)

กองทุนเม.ย.โต 2.6 หมื่นล้าน อานิสงส์กระแสพันธบัตรเกาหลีฟีเวอร์
สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกองทุนรวมทั้งระบบเดือนเม.ย.เพิ่มกว่า 26,177.38 ล้าน
บาท ดัน AUM รวมแตะ 1.41 ล้านล้านบาท จากปลายเดือนมี.ค.ที่มีมูลค่า 1.39 ล้านล้านบาท ด้าน
"บลจ.กสิกรไทย" ครองแชมป์ AUM พุ่งรับอานิสงส์กองทุนมันนีมาร์เกต-พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้โต
(ผู้จัดการ-จันทร์)

บจ.ฟรีโฟลตต่ำกว่าเกณฑ์ได้เฮ ตลท.กลับใจเลิกเก็บค่าฟีขั้นต่ำ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 5 แสน บจ.ที่มีฟรีโฟลตต่ำเกณฑ์-ผ่อนผันเรียกเก็บค่าธรรมเนียนส่วนเพิ่มเฉพาะปีแรกหากบอร์ดบริษัทมีแผนการแก้ไขชัดเจน หวังลดภาระให้แก่บริษัทหลังประกาศใช้เกณฑ์ดังกล่าวไม่ถึงปี (ผู้จัดการ-อังคาร)

เบรกหุ้นต่ำบาท ขึ้นลงไม่เกิน 30%
บอร์ดตลาดแตะเบรกหุ้นต่ำกว่า 1 บาท คุมเพดานขึ้นลงได้แค่ 30% ส่วนหุ้นที่ต่ำกว่า 0.10 บาท สามารถขึ้นลงได้ 100% เหมือนเดิมพร้อมเห็นชอบปรับช่วงราคาหุ้น จากเดิม 10 ช่วงราคาเหลือเพียง 8 ช่วง โดยจะลดช่วงราคาสำหรับหุ้นที่มีราคาตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไปหวังลดต้นทุนซื้อขายและเพิ่มสภาพคล่อง
รอเฮียร์ริ่ง บริษัทสมาชิกก่อนใช้ (กรุงเทพธุรกิจ-เสาร์)

PTT ราคาปิด 340.00 บาท(02/05/51)
PTT เร่งสรุปแผนลงทุน LNG ในอินโดนีเซียภายในปีนี้ จ่อคิวสำรวจที่ออสเตรเลีย ลุ้นผลปีหน้า "จิตรพงษ์" ไม่หวั่นอิหร่านมีปัญหา เดินสายหารือซัพพลายเออร์หลายราย มั่นใจยอดนำเข้าปี 54 เพียงพอตามแผนเดิม 1-2 ล้านตัน (ข่าวหุ้น)

RICH ราคาปิด 9.00 บาท(02/05/51)
RICH เล็งสร้างโรงถลุงเหล็กงบลงทุนแตะ 6,000 ล้านบาท ลั่นศึกษาอีก 6 เดือนเสนอบอร์ด
อนุมัติจ่อส่งออกต่างประเทศตั้งเป้าสัดส่วนปีนี้ 5-10% เห็นชัวร์ไตรมาส 3 เบื้องต้นลุยแถบเพื่อนบ้านก่อน วังส่งออกทั่วเอเชียในอนาคต ย้ำเป้ารายได้ปี 51 อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากกำลังผลิตเพิ่มและราคาเหล็กพุ่งต่อเนื่องยัน "โกมล" ลงทุนเท่านั้นไม่บริหาร (ข่าวหุ้น)

SPPT ราคาปิด 4.36 บาท(02/05/51)
SPPT รุกคืบเครื่องแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ สินเค้ากลุ่ม Non Hard Disk เหตุมาร์จิ้นสูง เพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้ ล่าสุด NIKON ขนเครื่องจักรมาติดตั้งพร้อมอบรมบุคลากรให้ถึงที่และถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น คาดส่งผลให้รายได้จากลุ่มสินค้า Non Hard Disk Drive เติบโตดี (ผู้จัดการ-อังคาร)

PSL ราคาปิด 24.90 บาท(02/05/51)
พรีเชียสไตรมาส 1/51 กำไรวูบกว่า 50% เหลือ 1 พันล้านบาทเหตุไม่มีรายการพิเศษจากการขายเรือ ขณะที่รายได้จากการเดินเรือยังเพิ่มขึ้นผลจากค่าระวางปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งค่าเสื่อมลดลงจากจำนวนเรือที่น้อยลง (กรุงเทพธุรกิจ-เสาร์)

:lol:

บล.ฟาร์อีสท์

Distributor - Bisnews AFE

Factors to Watch
* วันนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการต่อเนื่องในวัน Greenery Day
* ส่วนคืนนี้ ติดตามรายงานข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสัปดาห์ที่แล้ว

บทวิเคราะห์หุ้นเด่น...วันนี้
SCC : ผลประกอบการ 1Q51 ที่โดดเด่นเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น แม้แนวโน้มผลประกอบการใน 2Q51 น่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่เราประเมินว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลในช่วง 1H51 น่าจะเป็นปัจจัยที่กำหนดทิศทางราคาหุ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงอยู่จึง ปรับลดคำแนะนำจาก ซื้อลงทุน เป็น "ถือ"


แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
เรามองว่า SET ในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนไม่มากนัก ด้วยมุมมองอย่างอนุรักษ์นิยมเราไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่ารูปแบบ Sideway แม้ว่า Sentiment ในช่วงสั้น
ตลาดหุ้นสหรัฐจะได้ผลบวกจากทั้ง GDP 1Q08 (เติบโต 0.6% นักวิเคราะห์คาด 0.2-0.5%) และตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตรกรรม (ลดลง 20,000 ตำแหน่ง นักวิเคราะห์คาดลดลง 80,000 ตำแหน่ง) ประจวบเหมาะกับข้อมูลเศรษฐกิจของไทยเดือน มี.ค. ที่ออกมาค่อนข้างดีเช่นกัน ซึ่งทำให้ดัชนี DJIA และ SET ปรับตัวเข้าใกล้จุดสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี พร้อมกับแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ และสถาบันที่
เข้ามาค่อนข้างชัดเจนในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งเราก็เชื่อว่า Sentiment บวกดังกล่าวจะยังผลมาในสัปดาห์นี้ แต่ด้วยน้ำหนักของ Momentum ที่อ่อนแอลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น ตามด้วยผลประกอบการ 1Q51 ของ บจ.ใน ตลท. ที่จะทยอยออกมาต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ประกอบกับดัชนี DJIA ที่อาจจะไม่แข็ง
แรงเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังตอบสนองปัจจัยบวกไปพอสมควรแล้วและอาจขาดปัจจัยสนับสนุนในระยะสั้น ขณะที่มุมมองในระยะกลางขึ้นไปสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐถือว่ายังมีความเสี่ยง โดยกูรูด้านการลงทุนอย่าง
Warren Buffet มีความเห็นว่าขณะนี้สหรัฐเข้าสู่ช่วงถดถอยเรียบร้อยแล้ว และบรรดาสถาบันการเงิน
สหรัฐอาจจะได้รับผลพวงจากปัญหาสินเชื่อภาคอสังหาฯ ซึ่งจะเป็นเป็นตัวถ่วงผลประกอบการของกลุ่มสถาบันการเงินไปอีก 2 ปี ขณะที่ประธานเฟดได้กล่าวถึงความกังวลในสภาวะตลาดอสังหาฯ เมื่อคืนว่ายังอยู่ในช่วงขาลง โดยเป็นส่วนผสมของสินเชื่อที่มีปัญหาและราคาอสังหาฯ ที่ลดต่ำลง ประจวบเหมาะกับที่ล่าสุด UBS
ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของ Switzerland มีแผนจะลดลงพนักงานลง 10% หรือประมาณ 8,000 ตำแหน่ง ขณะที่ผลประกอบการ 1Q08 ขาดทุนราว 11.4 พันล้านเหรียญ ด้านภาพใหญ่ระดับเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญหน้ากับภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก จากต้นทุนทางด้านพลังงานและอาหารที่สูงขึ้น โดยดัชนีราคาผู้บริโภค เม.ย
.51 ของไทย พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 6.2% ซึ่งทำให้สมมุติฐานที่ว่า กนง. จะตัดสินใจไม่ลด
ดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 21 พ.ค. นี้มีน้ำหนักมากขึ้น สัปดาห์นี้ SET จะมีสีสันจากการเข้าซื้อขายวันแรกของ ESSO ในวันนี้ ซึ่งเราคาดว่าจะสามารถยืนเหนือราคาจอง 10 บาทได้ เนื่องจากราคาจองซื้อไม่สูงนักประกอบกับมี Dividend yield ที่สูงถึง 10% รองรับ สำหรับประเด็นทางด้านการเมืองในสัปดาห์นี้ คงต้องให้ความสำคัญกับการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่
น่าจะได้ข้อยุติในวันพุธที่ 7 เม.ย. นี้ ว่าจะสามารถตอบคำถามสาธารณชนได้ในระดับใด และจะเป็นชนวนไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่
SET Index และกลยุทธ์: เราประเมินว่า SET Index ในสัปดาห์นี้จะแกว่งตัวแบบ Sideway
หลังได้ sentiment เชิงบวกต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนบ้าง แต่คาดว่าอาจจะถูกกดดันจากแรงขายทำกำไร
Sell on Fact หลังบจ. นอกกลุ่มแบงก์ทยอยรายงานผลประกอบการ 1Q51 ในสัปดาห์นี้ เราประเมิน
กรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในสัปดาห์นี้ที่ 827-857 จุด กลยุทธ์การลงทุนเน้น "ขายทำกำไร" แล้วรอซื้อกลับ สำหรับหุ้นที่มีพื้นฐานดีในกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ บันเทิง และพลังงานแนะนำ SCB, KBANK,
BAY, PS, QH, LH, AP, LPN, AMATA, ROJANA, PTTEP, BEC ส่วนหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเน้นเก็งกำไรสั้นๆ ITD, CK (มีประเด็นบวกเรื่องการเข้าซื้อขายของ TTW), STEC ส่วนกลุ่มเหล็ก แนะนำ
GSTEEL, TMT, TSTH ด้านกลุ่มหลักทรัพย์ทยอยเก็บได้หลังจากผลประกอบการ 1Q51 เบิกฤกษ์ปี 51 ได้ดี
หลังผลประกอบการออกมาดีเป็นส่วนใหญ่ แนะนำ PHATRA, BLS, KEST โดยวันนี้เราประเมินกรอบการ
เคลื่อนไหวของ SET ในวันนี้ 834-852 จุด

ตลาดหุ้นต่างประเทศ
Down day on Wall Street วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการปรับตัวลดลง โดยเป็นผลจากการพุ่งขึ้นทำ new high ของราคาน้ำมันดิบ และข่าวการล้มดีลการซื้อกิจการ Yahoo ของ Microsoft และ
ดีลที่ Bank of America จะเข้าซื้อกิจการของ Countrywide Financial ซึ่งมีผลทำให้ราคาหุ้นของ Yahoo ร่วงลง 15% และหุ้น Countrywide Financial ลดลงกว่า 10% ทั้งนี้นักลงทุนกังวลว่าผลการ
ดำเนินงานของบริษัทในวอลล์สตรีทจะไม่พลิกฟื้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังชะลอตัวอยู่ นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันกลับมาดีดตัวขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก เป็นการเคลื่อนไหวที่สวนทิศทางกับสัปดาห์ก่อน สำหรับคืนนี้ ติดตามรายงานผลประกอบการ 1Q08 ของ Cisco System
ราคาน้ำมันและทองคำ: ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ล่วงหน้าเดือน มิ.ย. พุ้งขึ้น 3.65 ดอลลาร์
ปิดที่ 119.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากระหว่างวันทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 120.36 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ล่วงหน้าเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 3.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.99 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับอิทธิพลจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความขัดแย้งทีเกิดขึ้หลังอิหร่านประกาศจะไม่พิจารณามาตรการจูงใจใดๆจากชาติมหาอำนาจในการจำกัดสิทธิของอิหร่านที่มีต่อเทคโนโลยี
ด้านนิวเคลียร์ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจจะกระทบต่อราคาสินค้าและบริการใน
สหรัฐ ส่วนราคาทองคำล่วงหน้า COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 16.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 874.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับปัจจัยบวกจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกันสกุลเงินหลักๆ จากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล

News Update

ธปท.สั่งแบงก์ ทำแผนรองรับ "ก.ม.เงินฝาก"
แบงก์ชาติส่งหนังสือให้แบงก์พาณิชย์จัดทำแผนรองรับกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก กำหนดให้เตรียม
ความพร้อม รับมือกรณีคนแห่ถอนเงินหลังจากกฎหมายเริ่มลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือเหลือ 100 ล้าน
บาท ตั้งแต่เดือนส.ค. ปี 2552 (กรุงเทพธุรกิจ-อังคาร)

ธปท.สศช. ไม่หวั่นเงินเฟ้อมั่นใจทั้งปีตามเป้า 4-5.5%
แบงก์ชาติ-สภาพัฒน์ มั่นใจเงินเฟ้อทั้งปีเป็นไปตามประมาณการ 4-5.5% แจงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย.พุ่งเกินคาดการณ์ สาเหตุหลักมาจากราคามันเฉลี่ยทะยาน เชื่อแนวโน้มราคาอ่อนตัว ด้านค่าเงินบาททรงตัวหลังเฟดลดดอกเบี้ย สศช.แนะผู้ประกอบการลดต้นทุน-เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รับมือเงิน
เฟ้อเพิ่มขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ-เสาร์)

กองทุนเม.ย.โต 2.6 หมื่นล้าน อานิสงส์กระแสพันธบัตรเกาหลีฟีเวอร์
สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกองทุนรวมทั้งระบบเดือนเม.ย.เพิ่มกว่า 26,177.38 ล้าน
บาท ดัน AUM รวมแตะ 1.41 ล้านล้านบาท จากปลายเดือนมี.ค.ที่มีมูลค่า 1.39 ล้านล้านบาท ด้าน
"บลจ.กสิกรไทย" ครองแชมป์ AUM พุ่งรับอานิสงส์กองทุนมันนีมาร์เกต-พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้โต
(ผู้จัดการ-จันทร์)

บจ.ฟรีโฟลตต่ำกว่าเกณฑ์ได้เฮ ตลท.กลับใจเลิกเก็บค่าฟีขั้นต่ำ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 5 แสน บจ.ที่มีฟรีโฟลตต่ำเกณฑ์-ผ่อนผันเรียกเก็บค่าธรรมเนียนส่วนเพิ่มเฉพาะปีแรกหากบอร์ดบริษัทมีแผนการแก้ไขชัดเจน หวังลดภาระให้แก่บริษัทหลังประกาศใช้เกณฑ์ดังกล่าวไม่ถึงปี (ผู้จัดการ-อังคาร)

เบรกหุ้นต่ำบาท ขึ้นลงไม่เกิน 30%
บอร์ดตลาดแตะเบรกหุ้นต่ำกว่า 1 บาท คุมเพดานขึ้นลงได้แค่ 30% ส่วนหุ้นที่ต่ำกว่า 0.10 บาท สามารถขึ้นลงได้ 100% เหมือนเดิมพร้อมเห็นชอบปรับช่วงราคาหุ้น จากเดิม 10 ช่วงราคาเหลือเพียง 8 ช่วง โดยจะลดช่วงราคาสำหรับหุ้นที่มีราคาตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไปหวังลดต้นทุนซื้อขายและเพิ่มสภาพคล่อง
รอเฮียร์ริ่ง บริษัทสมาชิกก่อนใช้ (กรุงเทพธุรกิจ-เสาร์)

PTT ราคาปิด 340.00 บาท(02/05/51)
PTT เร่งสรุปแผนลงทุน LNG ในอินโดนีเซียภายในปีนี้ จ่อคิวสำรวจที่ออสเตรเลีย ลุ้นผลปีหน้า "จิตรพงษ์" ไม่หวั่นอิหร่านมีปัญหา เดินสายหารือซัพพลายเออร์หลายราย มั่นใจยอดนำเข้าปี 54 เพียงพอตามแผนเดิม 1-2 ล้านตัน (ข่าวหุ้น)

RICH ราคาปิด 9.00 บาท(02/05/51)
RICH เล็งสร้างโรงถลุงเหล็กงบลงทุนแตะ 6,000 ล้านบาท ลั่นศึกษาอีก 6 เดือนเสนอบอร์ด
อนุมัติจ่อส่งออกต่างประเทศตั้งเป้าสัดส่วนปีนี้ 5-10% เห็นชัวร์ไตรมาส 3 เบื้องต้นลุยแถบเพื่อนบ้านก่อน วังส่งออกทั่วเอเชียในอนาคต ย้ำเป้ารายได้ปี 51 อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากกำลังผลิตเพิ่มและราคาเหล็กพุ่งต่อเนื่องยัน "โกมล" ลงทุนเท่านั้นไม่บริหาร (ข่าวหุ้น)

SPPT ราคาปิด 4.36 บาท(02/05/51)
SPPT รุกคืบเครื่องแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ สินเค้ากลุ่ม Non Hard Disk เหตุมาร์จิ้นสูง เพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้ ล่าสุด NIKON ขนเครื่องจักรมาติดตั้งพร้อมอบรมบุคลากรให้ถึงที่และถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น คาดส่งผลให้รายได้จากลุ่มสินค้า Non Hard Disk Drive เติบโตดี (ผู้จัดการ-อังคาร)

PSL ราคาปิด 24.90 บาท(02/05/51)
พรีเชียสไตรมาส 1/51 กำไรวูบกว่า 50% เหลือ 1 พันล้านบาทเหตุไม่มีรายการพิเศษจากการขายเรือ ขณะที่รายได้จากการเดินเรือยังเพิ่มขึ้นผลจากค่าระวางปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งค่าเสื่อมลดลงจากจำนวนเรือที่น้อยลง (กรุงเทพธุรกิจ-เสาร์)

:lol: