The Stock Exchange of Thailandปิด 843.15 จุด ณ 2 พ.ค. 51

เมื่อสัปดาห์ก่อนดัชนีได้ปรับลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ บริเวณ 830 จุด จากนั้นสามารถดีดกลับได้อย่างมั่นคง โดยปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ ณ 843 จุด ซึ่งเป็นการทดสอบ Neckline ของ Head & Shoulders Bottom ครั้งที่สอง อีกทั้งยังปรากฏว่าสามารถทรงตัวเหนือแนวต้านนี้ได้ ดังนั้นจึงมีนัยเชิงบวกต่อทิศทางระยะกลางของดัชนีอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากดัชนีสามารถประคองตัวบริเวณนี้สัก 1-2 สัปดาห์แล้วนั้น จะยิ่งแสดงถึงโอกาสการฟื้นตัวของโครงสร้างระยะกลาง โดยมี Dead Cross ช่วง 880-890 จุด เป็นเป้าหมายหลักของการทดสอบ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงทิศทางระยะสั้น จะพบ Tweezers Top บริเวณ 850 จุด ซึ่งอาจทำให้เกิดการชะลอตัวลงบ้าง แต่จะไม่ส่งผลลบต่อโครงสร้างหลักแต่อย่างใด การปรับฐานใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น จะมีเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์

ที่ขณะนี้เคลื่อนตัวผ่าน 830 จุด ทำหน้าที่แนวรับหลัก และยังเป็นโอกาสของการเข้าลงทุนเพิ่มเติม

สำหรับทิศทางดัชนี สัปดาห์นี้คาดว่าจะมีกรอบการแกว่งตัวในช่วง 835-850 จุด คือระหว่าง gap ที่เปิดไว้เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา และ Tweezers Top กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้าง มีความโดดเด่นยิ่ง แม้สัปดาห์ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาบ้างแล้วอย่างมากก็ตาม ทว่าน่าจะปรับขึ้นได้อีกมาก เหมาะทั้งการเก็งกำไรช่วงสั้นและการลงทุนระยะกลาง ส่วนธนาคารพาณิชย์ พลังงาน และวัสดุอุตสหกรรมมีแนวโน้มทรงตัว ทั้งนี้กลุ่มที่นักลงทุนอาจให้น้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิมคือ สื่อบันเทิง ชิ้นส่วนยานยนต์ และเงินทุนหลักทรัพย์ เพราะเพิ่งดีดตัวจากฐานการเปลี่ยนแนวโน้ม โดยหุ้นที่น่าสนใจมีดังนี้ TPIPL, TYM, EWC, SAM, GEN, ITD, STEC, PS, QH, AP, EMC, TKT, SAT, LIVE, MAJOR, PHATRA และ ML

แนวรับ: 830-835 จุดแนวต้าน: 850-855 จุด

:lol:

หุ้นเด่นทักษิโน

KTB

หากสังเกตโครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์จะเห็นว่าราคาหุ้นเริ่มปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่แท่งเทียนรายวันสามารถขึ้นปิดที่ระดับ 10.50 บาท อย่างมั่นคง จึงคาดว่าโอกาสที่ราคาหุ้นจะเคลื่อนตัวขึ้นได้อีก เนื่องจากเส้นสัญญาณทางเทคนิคที่ยังบ่งบอกแรงซื้อต่อ น่าจะทำให้หุ้นรายนี้ปรับตัวขึ้นอีกสักระยะคำแนะนำ ซื้อเล่นสั้น

SAMART

เมื่อสังเกตโครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์ จะเห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้รายวันจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 7.80 บาท แต่คาดว่าราคาหุ้นไม่น่าจะหลุดแนวรับที่ระดับนี้ไปได้ เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคยังอยู่ในเขตซื้อ ดังนั้นมีโอกาสที่หุ้นรายนี้จะปรับตัวขึ้นอีกคำแนะนำ ซื้อลงทุน

IRPC

ถ้าสังเกตโครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์จะเห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหม่ แม้ว่ารายวันจะอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 5.80 บาท หากแต่ระดับแนวต้านดังกล่าวถือว่ายังแข็งแกร่งประกอบกับแรงซื้อสนับสนุนค่อนข้างหนาแน่น น่าจะหนุนให้หุ้นรายนี้มีทิศทางเป็นบวกต่อคำแนะนำ ซื้อลงทุน

KK

โครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์และรายวัน สะท้อนทิศทางขาลงอย่างชัดเจน ขณะที่รายวันราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 29.25 บาท อีกทั้งเส้นสัญญาณ Bollinger Bands บ่งบอกขาลงเป็นหลัก บวกกับวอลุ่มขายที่เข้ามาอย่างหนาแน่น น่าจะทำให้หุ้นรายนี้ปรับตัวลงอีกคำแนะนำ หาจังหวะขาย

LALIN

แม้โครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์จะเห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากแต่รายวันราคาหุ้นเริ่มอ่อนตัวลงสะท้อนทิศทางขาลงอย่างชัดเจนที่ระดับ 3.84 บาท เนื่องจากแรงซื้อที่เข้ามามากเกินไปในช่วงก่อน ประกอบกับเส้นสัญญาณ Bollinger Bands บ่งบอกขาลงเป็นหลัก จึงคาดว่าหุ้นรายนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงแน่นอนคำแนะนำ หาจังหวะขาย

NEP

แท่งเทียนรายสัปดาห์สะท้อนขาลงของหุ้นรายนี้อย่างชัดเจน ขณะที่รายวันร่วงลงมาปิดที่ระดับ

0.94 บาท ซึ่งมีโอกาสสูงที่หุ้นรายนี้จะปรับตัวลงอีก เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคที่เข้าเขตขายเป็นหลัก บวกกับวอลุ่มที่สนับสนุนแรงขายอย่างหนาแน่น ดังนั้นนักลงทุนควรหาจังหวะขายหุ้นออกมาก่อนที่ราคาจะร่วงหนักกว่านี้คำแนะนำ หาจังหวะขาย

:lol: