May 4, 2024   6:05:57 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 100 อันดับ หุ้นดีที่ถูกเมิน
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 06/05/2008 @ 12:08:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผลพวงจากปัจจัยลบทางด้านการเมือง ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศพากันเทขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้หุ้นหลายตัวมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวโน้มว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะมีราคาถูกลงอีกเรื่อยๆ หลังตลาดยังขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และยังขาดปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หุ้นพื้นฐานดีราคาถูกหลายตัวถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย และจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้"ข่าวหุ้นธุรกิจ" รวบรวมข้อมูลหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าพื้นฐานมาเสนอเป็นทางเลือกแก่นักลงทุน โดยคำนวณจากค่า P/BV Ratio ของหุ้นตัวที่มีค่าต่ำสุดที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นแรงในอนาคต ขณะเดียวกันก็มีโอกาสได้รับเงินปันผลเป็นของแถมอีกด้วย

โดยการรวบรวมข้อมูลราคาหุ้นที่มีราคาซื้อขายปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี (P/BV)

หรือต่ำกว่าพื้นฐานของบริษัท ในครั้งนี้ใช้ข้อมูลราคาหุ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 เรียงตามค่า P/BV จากน้อยไปหามาก และได้คัดเลือกเอาเฉพาะหุ้นที่มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่

200 ล้านหุ้นขึ้นไป และมีกำไรต่อหุ้นไตรมาสแรก 2551 มาจัดอันดับเพียง 100 ตัว จากจำนวนหุ้นที่มีกำไรต่อหุ้นจำนวน 169 ตัว

สำหรับหุ้นที่มีการซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากที่สุดอันดับ 1 TPIPL หรือ บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) มีค่า P/BV อยู่ที่ 0.25 เท่า ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 7.25 บาท (2 พฤษภาคม) โดยเป็นราคาหุ้นที่ต่ำจากมูลค่าหุ้นตามบัญชีจริงที่ระดับ 28.74 บาท

อย่างไรก็ตามแม้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง แต่เมื่อเทียบในด้านการบริหารธุรกิจถือว่าหุ้นรายนี้มีศักยภาพในการทำกำไรได้ค่อนแข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้ชัดจากกำไรสุทธิไตรมาสแรกมีกำไรเพิ่มขึ้น 955 ล้านบาท (หรือกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.48 บาท) คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.26 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 769 ล้านบาท (หรือกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.38 บาท) ในงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา

อันดับ 2 SCAN หรือ บริษัท สแกนดิเนเวียลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน)มีค่า P/BV อยู่ที่

0.32 เท่า ขณะที่มูลค่าหุ้นทางบัญชีที่แท้จริงอยู่ที่ระดับ 15.17 บาท ขณะที่ราคาหุ้นลดลงมาถึงระดับ 4.98 บาท ซึ่งการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของหุ้นรายนี้ น่าจะมาจากการประกอบธุรกิจที่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าใดนัก อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของหุ้นรายนี้

ถือว่าไม่มีนัยสำคัญต่อนักลงทุนตลาดเท่าใดนัก เนื่องจากเป็นหุ้นที่ขาดสภาพคล่อง ซึ่งการซื้อขายไม่เป็นไปตามภาวะตลาด จึงทำให้หุ้นรายนี้เป็นหุ้นที่นักลงทุนหมางเมินไป

อันดับ 3 TTTM หรือ บริษัท ไทยโทเรเท็กซ์ไทล์มิลลส์ จำกัด (มหาชน) มีค่า P/BV

อยู่ที่ 0.33 เท่า ซึ่งเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่ราคาถูกและพื้นฐานดี โดยราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีจริงที่ระดับ 58.50 บาท จากมูลค่าหุ้นที่แท้จริงที่ระดับ 177.61 บาท

สาเหตุที่ราคาหุ้นรายนี้ต่ำกว่า P/BV เป็นที่ทราบกันดีเป็นหุ้นที่ไม่มีนัยสำคัญต่อภาวะตลาดเท่าใดนัก เนื่องจากจำนวนหุ้นที่กระจายอยู่ในตลาดมีค่อนข้างน้อย จึงทำให้นักลงทุน และนักเคราะห์ไม่ค่อยใส่ใจในข่าวคราวของหุ้นรายนี้เท่าใด

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ยอมรับว่าบริษัทแห่งนี้สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสปรากฏผลกำไรสุทธิ 34.1 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ผลกำไรเพิ่มขึ้น 33

ล้านบาท แม้ว่ายอดขายลดลง 120.2 ล้านบาท คิดเป็น 7 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

เนื่องจากปริมาณขายในประเทศลดลง 11% เป็นจำนวนเงิน 102.1 ล้านบาท ปริมาณขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5 % แต่จำนวนเงินขายต่างประเทศกลับลดลง 18.1 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาตลาดชะลอตัวและผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท

ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐถัวเฉลี่ยปี 2550 เท่ากับ 34.27 บาท/ดอลลาร์ ในขณะที่ ปี2549 เท่ากับ 37.68 บาท/ดอลลาร์

อันดับ 4 TPP หรือ บริษัท ไทยบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ จำกัด (มหาชน) มีค่า

P/BV อยู่ที่ 0.35เท่า ซึ่งเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่ราคาถูกและพื้นฐานดี โดยราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีจริงที่ระดับ 6.20 บาท จากมูลค่าหุ้นที่แท้จริงที่ระดับ 18.21 บาท

แม้ว่าราคาหุ้นรายนี้จะปรับตัวลงแรง แต่เมื่อเทียบในด้านการบริหารธุรกิจถือว่าหุ้นรายนี้มีศักยภาพในการทำกำไรได้ค่อนแข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้จากธุรกิจหลักที่สามารถทำรายได้จากการขายในปี 2550 เป็นจำนวนเงิน 323.48 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2549 จำนวนเงิน 241.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 81.94 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของหุ้รายนี้ไม่ได้นัยสำคัญต่อนักลงทุนเท่าใดนัก และถือเป็นหุ้นอีกรายที่ถูกนักลงทุนหมางเมินมาตลอด เนื่องจากจำนวนหุ้นที่กระจายในตลาดมีค่อนข้างน้อย อีกทั้งไม่ค่อยมีข่าวคราวที่น่าสนใจ พอที่จะดึงดูดความสนใจจากนักวิเคราะห์ได้

อันดับ 5 THIP หรือ บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) มีค่า P/BV อยู่ที่ 0.37 เท่า ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีจริงที่ระดับ 25.00 บาท จากมูลค่าหุ้นที่แท้จริงที่ระดับ 68.21 บาท

สาเหตุการปรับตัวลดลงของหุ้นรายนี้ น่าจะมาจากการเป็นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่นักลงทุนจะหาซื้อขายหุ้นได้ง่าย ดังนั้นที่ผ่านมาจึงทำให้ความน่าสนใจของหุ้นรายนี้ลดลง ประกอบกับไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวและความน่าสนใจพอที่จะทำให้นักวิเคราะห์หันมาสนใจได้

หากแต่ในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำกำไรของบริษัทแห่งนี้ ถือว่ามีโดดเด่นไม่น้อย โดยเฉพาะกำไรสุทธิไตรมาสแรกเท่ากับ 36.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27.16

ล้านบาท เป็นเงิน 9.08 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 33.44 %

เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 68.96 ล้านบาท หรือ 8.38 % และบริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและควบคุมต้นทุนขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 51.20 ล้านบาทหรือ 7.73 %

ทั้งนี้หุ้นกลุ่มดังกล่าวที่ต่ำกว่า P/BV 1 เท่า น่าจะเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีหุ้นในกลุ่มนี้หลายราย ที่เหมาะแก่การเข้าลงทุนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในภาวะที่ค่อนข้างผันผวนในปัจจุบัน

ที่สำคัญการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้น่าจะช่วยให้นักลงทุนลดความเสี่ยงไปได้ หลายเท่าอย่างแน่นอน

:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com