May 18, 2024   5:20:26 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นไทยปิดบวก 0.4% แรงซื้อหุ้นพลังงาน-ปิโตรฯคึกคักหนุนดัชนี
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 21/05/2008 @ 08:15:21
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

.--รอยเตอร์


ดัชนีหุ้นไทยปิดบวก 0.4% โดยดัชนีอ่อนตัวลงบ้างในภาคบ่าย แต่แรงซื้อที่ยังคงมีเข้ามา

ต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนให้คึกคัก แม้ว่ายังมี

แรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ออกมา ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันพรุ่งนี้

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เห็นว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ในวันนี้ แม้ว่าจะมีแรงขาย

ทำกำไรระยะสั้นออกมา โดยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นช่วยหนุนให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาอย่างหนาแน่น

ขณะที่คาดว่าแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ ดัชนีอาจจะปรับลดลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่ม

พลังงาน แม้อาจมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์กลับเข้ามาบ้างก็ตาม

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดบวก 3.49 จุด มาที่ 873.82 จุด ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นไปสูงสุด

ที่ 879.69 และต่ำสุดที่ 870.82 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นที่ 26,079.33 ล้านบาท

ขณะที่ SET50 ปิดบวก 2.83 จุด หรือ 0.45% มาที่ 633.19 และ SET100 ปิดบวก

5.58 จุด หรือ 0.41% มาที่ 1,364.05 จุด

ดัชนีกลุ่มพลังงาน บวก 1.98% ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงสุดที่ 30.41% นำโดยหุ้นปตท.(PTT)

บวก 2.73%,กลุ่มขนส่ง บวก 0.07%,กลุ่มปิโตรเคมี บวก 5.49% นำโดยหุ้นปตท.เคมิคอล

(PTTCH) บวก 7.34%

แต่ดัชนีกลุ่มแบงก์ ลบ 1.68% นำโดยหุ้นธ.กสิกรไทย (KBANK) ลบ 1.13%,กลุ่มอสังหา

ริมทรัพย์ ลบ 1.62% โดยหุ้นแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ลบ 3.24%


"ตลาดแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาค่อนข้างมาก แต่

ต่างชาติน่าจะยังซื้อต่อเนื่องไม่เช่นนั้นตลาดน่าจะติดลบ...แรงซื้อหุ้นพลังงานน่าจะมาจากผลของ

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าที่จะยังแกว่งตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ที่เป็นช่วงฤดูพายุ"นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์

ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) กล่าว

เขา เห็นว่าแรงขายหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่มีออกมามากในวันนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากแรงขาย

ทำกำไร ขณะที่มีบางหน่วยงานออกมาคาดการณ์ ถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง

ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่มีสูงขึ้น

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ เขา คาดว่าดัชนีมีโอกาสที่จะติดลบเล็กน้อย จากแรงขาย

ทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังมองว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกน่าจะแกว่งตัวแคบๆ ขณะที่ที่ประชุมกนง.

ในวันพรุ่งนี้ หากมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ อาจทำให้มีแรงซื้อกลับหุ้นในกลุ่มแบงก์

เข้ามาบ้าง โดยมองแนวรับบริเวณ 867-869 และแนวต้านที่ 878-880

ขณะที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์ต่อความเห็นนักวิเคราะห์พบว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ย

ในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 1 วัน ที่ระดับ 3.25% ในการประชุมวันพรุ่งนี้


หลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด

PTT บวก 10.00 บาท มาที่ 376.00 บาท

TTA บวก 0.50 บาท มาที่ 55.00 บาท

PTTCH บวก 8.00 บาท มาที่ 117.00 บาท

PTTEP บวก 6.00 บาท มาที่ 198.00 บาท

KBANK ลบ 1.00 บาท มาที่ 87.50 บาท --จบ--

:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 21/05/2008 @ 08:30:25 :
.--บล. โกลเบล็ก

SET 873.82 +3.49 +0.40%
H / L : Day 879.69 / 870.82
H / L : Week 879.69 / 870.82
H / L : Year 879.69 / 728.58

มีโอกาสพักตัวลดความร้อนแรงระยะสั้นจากสัญญาณลบแท่งเทียน

ระยะสั้น ดัชนีเปิด GAP ลอยเหนือเส้น BB TOP ก่อนสร้างแท่งเทียน SHOOTING STAR เป็นสัญญาณพักตัวขาขึ้น แนวโน้มปรับลดภาวะซื้อมากที่เกิดขึ้น
ระยะสั้น ดัชนีเปิด GAP ลอยเหนือเส้น BB TOP และห่างเส้น SMA 5 วันมากขึ้น ก่อน
สร้างแท่งเทียน SHOOTING STAR ตามมา เป็นสัญญาณสอดคล้องกันในเชิงลบ ขณะที่การเรียงตัวแท่งเทียนเริ่มทิ้งช่วงห่างเส้น SMA 5 วันมากขึ้นด้วยการต่อยอดการขึ้นที่ชัน และค่าสัญญาณ RSI ขึ้นมาที่ระดับภาวะ
ซื้อมากเกินไป ดังนั้นจากภาพที่เกิดขึ้นทำให้ดัชนีมีแนวโน้มที่จะปรับตัวทางเทคนิคเพื่อลดความร้อนแรงระยะ
สั้นจากค่าสัญญาณที่เกิดขึ้น แต่การปรับตัวจะเป็นลักษณะการลงมาปิดช่วงห่างเส้น SMA 5 วัน มากกว่าที่
จะลงต่อเนื่อง เพราะว่าดัชนียังอยู่ในแนวขึ้นช่วงไหล่ขวาของรูปแบบหัวและไหล่หงายและการเรียงตัวของ
SMA ที่เป็นขาขึ้นยังเป็นแนวรับเสริมรูปแบบทำให้มีความแข็งแกร่งพอที่จะรองรับดัชนีและกลับตัวขึ้นรอบใหม่
กลยุทธ์ ซื้อระยะสั้นรอช่วงปรับตัวแนวรับ / มีโอกาสพักตัวช่วงสั้นๆจากสัญญาณลบแท่งเทียน
ระยะกลาง ดัชนียังคงแนวการแกว่งตัวรูปแบบสามเหลี่ยมขาขึ้นได้ แต่มีความเสี่ยงระยะสั้นจาก
ภาวะขึ้นแรงมากเกินไป และค่าสัญญาณ RSI มีภาวะซื้อมากเป็นความเสี่ยงการพักตัว กลยุทธ์ ถือหรือ
ขายเพื่อซื้อคืน
แนวรับ : 867 / 860
แนวต้าน : 875 / 880

FIN 964.08 แท่งเทียน

ความเห็น : ดัชนีมีแนวโน้มพักตัวระยะสั้น แต่การเรียงตัวของแท่งเทียนยังเป็นขาขึ้นถึงแม้ว่า
จะเกิดแท่งเทียนสีดำ และยังคงยืนแนวรับเส้น SMA 5,10 วัน ซึ่งมีแนวโน้มตัดกันขึ้นมาเป็นแนวรับขาขึ้น
ทำให้มีแนวโน้มพักตัวเพื่อขึ้นต่อ กลยุทธ์ ปรับตัวรอซื้อเก็งกำไร
แนวรับ 959 / 945
แนวต้าน 994 / 1002

ICT 89.35 แท่งเทียน

ความเห็น: ดัชนีแนวโน้มพักตัวระยะสั้นหลังจากขึ้นมาจบรูปแบบขึ้นแท่งเทียน THREE WHITES
และเกิดเป็นแท่งเทียนสีดำที่ขึ้นมาเหนือเส้น BB TOP แต่การพักตัวที่อยู่ระหว่างทางการเปลี่ยนแนวโน้ม
เป็นขึ้นและมีแนวรับ SMA รองรับอยู่ ทำให้มีแนวโน้มพักตัวช่วงสั้นก่อนขึ้นต่อ กลยุทธ์ ปรับตัวรอซื้อแนวรับ
แนวรับ 87.00 / 85.00
แนวต้าน 91.00 / 94.00


:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 21/05/2008 @ 08:54:43 :
รอยเตอร์


*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดดิ่งลงในวันอังคาร หลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 129 ดอลลาร์

ต่อบาร์เรล และตัวเลขเงินเฟ้อสำคัญพุ่งขึ้นสูงเกินคาด โดยปัจจัยดังกล่าว ทำให้

นักลงทุนกังวลว่า ชาวสหรัฐจะจับจ่ายใช้สอยน้อยลง

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดวานนี้ พุ่งขึ้น 2.02

ดอลลาร์ ปิดที่ 129.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดใหม่ โดยได้แรง

หนุนจากค่าดอลลาร์อ่อน และคาดการณ์ที่ว่าราคาน้ำมันจะทะยานขึ้น และจากความ

กังวลที่ว่าอุปสงค์ทั่วโลก จะกดดันอุปทานน้ำมันกลั่นให้ลดลงไปอีก

*วันนี้ กนง.ประชุมพิจารณาเรื่องดอกเบี้ย จากโพลล์รอยเตอร์ต่อความเห็นนักวิเคราะห์

พบว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อตืนพันธบัตร ระยะ 1 วันที่ระดับ 3.25%

*ผู้ค้าน้ำมันอย่างเชลล์และเอสโซ่ ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอีกครั้งในวันนี้

โดยเป็นการปรับขึ้นน้ำมันเบนซิน 50 สตางค์/ลิตร และดีเซล 70 สตางค์/ลิตร ขณะที่

บมจ.ปตท.ปรับขึ้นเพียงน้ำมันเบนซินเท่านั้น

*กระทรวงการคลัง เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ เพื่อรักษาจีดีพีของ

ไทยให้โตเฉลี่ยไตรมาสละไม่ต่ำกว่า 6% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังราคาน้ำมันปรับ

สูงขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

*ตลท.เผยในไตรมาส 1/51 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิเพิ่ม 33% จากช่วงเดียวกันของ

ปีก่อน มาที่ 1.52 แสนล้านบาท ตามยอดขายที่เติบโต และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

โดยบมจ.ปตท.สามารถทำกำไรสุทธิได้สูงที่สุด

*รมว.พลังงาน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะตรึงราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ

แม้ราคาตลาดโลกในขณะนี้ได้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ขณะที่มองภาวะ

การเก็งกำไรในตลาดน้ำมันน่าจะใกล้อิ่มตัวแล้ว

*ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นัดฟังคำสั่งในวันที่ 8 ก.ค.นี้ ในคดีที่กกต.เพิกถอนสิทธิ์

เลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ถูกกล่าวหาว่าอาจเกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายทรัพย์สิน

ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธ.ค.50

*ผู้จัดการกองทุน แนะใช้กลยุทธ์ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนหุ้นเป็นรายเดือน เพื่อเฉลี่ย

ต้นทุนให้ถูกลง และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น พร้อมทั้งลดความเสี่ยงในการเข้า

ลงทุนผิดจังหวะที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการทุ่มลงทุนเป็นจำนวนมากในครั้งเดียว

*ธปท.เผยสินเชื่ออุปโภคบริโภคในไตรมาส 1/51 มีอัตราการขยายตัว 13.5% ชะลอ

ลงจากไตรมาส 4/50 ที่ขยายตัว 16% เนื่องจากราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น

ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

*ครม.มีมติเห็นชอบให้โยกย้ายนายไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและ

แผนการขนส่งและจราจร ขณะที่รมว.คมนาคม ระบุว่าการโยกย้ายดังกล่าว จะไม่กระทบ

ต่อการทำโครงการรถไฟฟ้า และคนใหม่ที่มาแทนจะเร่งรัดงานได้ดีขึ้น

*ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 52 ที่ 1.835 ล้านลบ. เพิ่มขึ้น 10.5%

หรือ 1.75 แสนลบ.จากปีงบประมาณ 51 โดยเป็นงบประมาณขาดดุล 2.495 แสนลบ.

*กระทรวงการคลัง เผยยังเน้นนโยบายให้เศรษฐกิจเติบโตต่อไป แม้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง

ขณะที่คาดว่าจะออกมาตรการประหยัดพลังงานได้ในปลายเดือนพ.ค.นี้

*หนังสือพิมพ์เผย นายกสมาคมสบู่ฯระบุ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ร่วมลดราคาสินค้า

ตามโครงการสินค้าราคาพิเศษของพาณิชย์ ที่จะนำออกมาจำหน่ายให้ประชาชนแบบลดราคา

เพราะจะขาดทุนหนัก และขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นมาก

*หนังสือพิมพ์เผย ธปท.ระบุไตรมาสแรกสินเชื่อธุรกิจขยายตัว 5.5% จากปีก่อน สอดคล้อง

กับการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ ส่งผลให้สินเชื่อรวมขยายตัว 7.3% ขณะที่สินเชื่อ

อุปโภคบริโภคชะลอตัว ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันแพงและค่าครองชีพสูงฉุดกำลังซื้อลดลง

สำหรับสัดส่วน NPL ทรงตัว

*หนังสือพิมพ์เผย พาณิชย์ตกลงให้ออเดอร์ข้าว GTG กับผู้ส่งออก 5 ราย เพื่อแลกซื้อข้าว

เหนียวในราคาประกันเกวียนละ 9 พันบาท เป็นวิธีพิเศษ หวังช่วยเกษตรกรให้ทันเวลา

*หนังสือพิมพ์เผย ครม.เห็นชอบให้สนข.ทำเอ็มโอยูกับดูไบ เวิลด์ ซึ่งจะให้ความช่วย

เหลือไทยแบบให้เปล่า เพื่อร่วมศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมอันดามันกับอ่าวไทย

*หนังสือพิมพ์เผย ส.อ.ท.จี้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปรับปรุงโลจิสติกส์ในองค์กร

ด้านนักวิชาการชี้ต้นทุนโลจิสติกส์แฝงอยู่ในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะปุ๋ย ปูนซีเมนต์

มีต้นทุนดังกล่าวสูงสุด

*หนังสือพิมพ์เผย พาณิชย์ประกาศทบทวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดแผ่นเหล็กรีดร้อน

14 ประเทศ ด้านผู้ประกอบการแนะรัฐเลิกเอดีเหล็ก หลังราคาพุ่ง

*หนังสือพิมพ์เผย คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถร่วม

ขสมก. 1-1.50 บาท ขณะที่รถโดยสารประจำทางของบขส.ปรับเพิ่มกิโลเมตรละ

3 สตางค์ มีผลวันที่ 25 พ.ค.นี้

*หนังสือพิมพ์เผย พาณิชย์ยังไม่อนุมัติให้มีการขึ้นราคาขายเหล็ก หลังต้องรอให้คณะ

อนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำเหล็ก หารือก่อน ซึ่งคาดว่าจะเป็นปลายสัปดาห์นี้

หรือต้นสัปดาห์หน้า

*หนังสือพิมพ์เผย ส.อ.ท.ห่วงธุรกิจเอสเอ็มอี ส่อแววต้องปิดกิจการอีกหลายรายใน

ปลายปีนี้ จากปัจจัยราคาน้ำมันแพงส่งผลให้ต้นทุนการผลิต และค่าขนส่งเพิ่มขึ้น

--จบ--

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 21/05/2008 @ 08:57:31 :
.--รอยเตอร์


*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลง ตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงลง จากความ

กังวลต่อปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐ แต่การปรับลงของตลาดหุ้นไทยเชื่อว่าจะไม่มากนัก

หลังการเข้าซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่มีเข้ามาต่อเนื่อง น่าจะช่วยพยุงตลาดได้

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดดิ่งลงในวันอังคาร หลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 129 ดอลลาร์

ต่อบาร์เรล และตัวเลขเงินเฟ้อสำคัญพุ่งขึ้นสูงเกินคาด โดยปัจจัยดังกล่าว ทำให้

นักลงทุนกังวลว่า ชาวสหรัฐจะจับจ่ายใช้สอยน้อยลง

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดวานนี้ พุ่งขึ้น 2.02

ดอลลาร์ ปิดที่ 129.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดใหม่ โดยได้แรง

หนุนจากค่าดอลลาร์อ่อน และคาดการณ์ที่ว่าราคาน้ำมันจะทะยานขึ้น และจากความ

กังวลที่ว่าอุปสงค์ทั่วโลก จะกดดันอุปทานน้ำมันกลั่นให้ลดลงไปอีก

*วันอังคารต่างชาติซื้อสุทธิ 3.41 พันลบ.จากวันศุกร์ซื้อสุทธิ 3.24 พันลบ.

*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 31.87/91 จากเมื่อวันอังคาร อยู่ที่ 32.00/05

*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 865 และแนวต้านที่ 875,880


"วันนี้(ตลาดหุ้นไทย)คงย่อลงบ้าง ปัจจัยภายนอกที่ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับลดลงซึ่งอาจ

เป็นระยะสั้นจากความกังวลเงินเฟ้อในสหรัฐ...เราคงไม่ย่อมาก เพราะเงินเฟ้อในสหรัฐเป็นเรื่อง

เฉพาะตัว" นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย กล่าว

เขา เห็นว่าการที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิค่อนข้างมากในช่วง 2 วันที่ผ่านมารวม

กว่า 6 พันล้านบาท และยังมีแนวโน้มจะเข้ามาอีก น่าจะเป็นแรงหนุนที่ช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยไม่ให้ปรับ

ลดลงมากในวันนี้ด้วย

สำหรับการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นต่างๆขณะนี้ มองว่าเป็นการปรับพอร์ต

การลงทุน หลังจากช่วงที่ผ่านมาที่ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์ม จนทำให้นักลงทุน

ลดพอร์ตการลงทุนในหุ้น และหันมาถือครองเงินสดมากขึ้น

และเมื่อเหตุการณ์ต่างๆเริ่มมีความชัดเจน ทำให้นักลงทุนเริ่มมองเห็นว่าเศรษฐกิจใน

เอเซีย ยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทยที่บริษัทจดทะเบียนยังมีผลประกอบการที่ดีด้วย

ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มปรับพอร์ตการลงทุนครั้งใหม่

เขา ยังเห็นว่าภาพใหญ่ของตลาดหุ้นไทยโดยรวมยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ ขณะที่ยังต้องรอดู

ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในรอบต่อไปด้วย

ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ในวันนี้ ที่ประชุมน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 1 วัน ที่ระดับ 3.25%

ซึ่งไม่น่ามีผลกระทบต่อตลาดมากนัก


ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ

*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันอังคาร ปิดบวก 3.49 จุด หรือ 0.4% มาที่

873.82 ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 26,079.33 ล้านบาท

*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อวันอังคาร ปิดลบ 199.48 จุด หรือ

1.53% มาที่ 12,828.68 และดัชนีแนสแดค ปิดลบ 23.83 จุด หรือ

0.95% มาที่ 2,492.26

*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ลบ โดยญี่ปุ่น ลบ 1.88% ,ไต้หวัน

ลบ 1.0% ,เกาหลีใต้ ลบ 1.27%, สิงคโปร์ ลบ 1.26%


จับตาหุ้น

*EGCO คาดปี 52 มีกำลังผลิตไฟฟ้าจากตปท.เป็น 30% จาก 17-18% ขณะนี้

*IRP คาดปี 51 กำไรสุทธิดีกว่าปีก่อน, แต่ลดเป้ารายได้หลังบาทแข็ง

*AI คาดกำไร-รายได้ Q2/51 ไม่น้อยกว่า Q1, กำไรสุทธิทั้งปีโตมาก

*PYLON คาดรายได้ Q2/51 ดีกว่า Q1,เล็งได้งานใหม่อย่างน้อย 100 ลบ.

*TTA คาดค่าระวางเรือ Q3/51 ใกล้ Q2, ทั้งปีรายได้-กำไรดีขึ้น

*TK คาดปี 51 รายได้โต 10% มองกำลังซื้อดี,เล็งเปิด 3-4 สาขาใหม่

*SPPT คาดรายได้ Q2/51 ลดลงจาก Q1 เหตุเป็นช่วงโลว์ซีซัน

*YNP หนังสือพิมพ์เผย ที่ประชุมบอร์ดวานนี้ อนุมัติแตกพาร์เหลือหุ้นละ 1 บาท

*CPF หนังสือพิมพ์เผยรายได้ใน Q2/51 ดีกว่า Q1 เหตุเป็นไฮซีซั่นธุรกิจสัตว์น้ำ

--จบ--

:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com