May 18, 2024   5:37:44 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > แนวโน้มตลาดวันนี้
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 28/05/2008 @ 10:14:14
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

มุมมองตลาด: โอกาสการอ่อนตัวลงของหุ้นพลังงาน และ ความกังวลทางการเมืองอาจจะยัง
จำกัดดัชนีไว้ที่ระดับ 850-855 จุด แต่หุ้นในกลุ่มที่อยู่อาศัย ธนาคารและเศรษฐกิจในประเทศก็น่าจะยังหนุน
ตลาดได้ส่วนหนึ่ง
แนวคิดหลัก: หุ้นนอกกลุ่มพลังงานจะได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวลงและปัจจัยการเมืองใน
ส่วนของการชุมนุมประท้วงยืดเยื้อก็น่าจะมีผลน้อยลงหลังจากที่ตลาดหุ้นไทยได้ตกลงไปแล้ว 3.2% จากจุดสูง
สุดของปีที่ 884.19 เพียงช่วงสัปดาห์

ปัจจัยประการต่างๆ :

* ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์คหล่นลง 2.5% เหลือ US$128.85 ต่อบาร์เรลจากแนวโน้ม
เศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนตัวลง ประกอบกับการเข้าแทรกแซงค่าการกลั่นของภาครัฐจะส่งผลกระทบลบต่อหุ้นใน
กลุ่ม PTT ได้ต่อไป
* นักลงทุนต่างประเทศยังขายสุทธิ 1.13 พันล้านบาท เมื่อวานนี้ และเราก็ยังไม่คาดว่าจะมี
การซื้อกลับอย่างมีนัยยะในเร็วๆ นี้เนื่องจากมีปัจจัยลบอยู่หลายประการ เช่น การที่รัฐเข้าไปแทรกแซงค่า
การกลั่นน้ำมันดีเซล ความขัดแย้งทางการเมือง ค่าเงินบาทอ่อน และ ผลลบจากราคาน้ำมันลงต่อการเทรด
หุ้นกลุ่ม PTT เป็นต้น

แนวการเทรดหุ้น:
* ซื้อ หุ้นอสังหาริมทรัพย์และหุ้นที่มีพื้นฐานการเติบโตดีอย่าง LH, AP, LPN, QH, และ PS
จากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลงและเริ่มได้รับประโยชน์จากมาตรการลดภาษีของรัฐบาลตั้งแต่ไตรมาส
2/51 เราเองก็ชื่นชอบ TTW, CPN และ BEC ด้วย เนื่องจากความต้องการสินค้าของบริษัทยังสูง อีกทั้ง
บริษัทยังสามารถผลักภาระต้นทุน (ขึ้นราคาขายสินค้าและบริการ) ในภาวะเงินเฟ้อสูงได้ด้วยq ทยอยสะสม
KBANK, ADVANC และ BAY บนพื้นฐานการเติบโตที่แข็งแกร่ง
* ซื้อ PTTEP และ TTA หากราคาปรับตัวลงที่ระดับราคา 188-190 บาทต่อหุ้นและ 45 บาท
ต่อหุ้นตามลำดับ

กลยุทธ์หุ้น

* ซื้อ QH จากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
QH เป็นหุ้นได้รับความสนใจในการซื้อขายมาก เนื่องจากได้รับประโยชน์จากมาตรการลดหย่อน
ภาษีอย่างเต็มที่นับแต่ไตรมาส 2/51 ราคาน้ำมันและวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลงจะเป็นผลดีต่อกลุ่มพัฒนา
อสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นที่ราคาเป้าหมายที่ 3.26 บาทต่อหุ้น

* ซื้อเก็งกำไร BEC หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลงเมื่อเร็ว ๆ นี้
แรงขายจากนักลงทุนสถาบันส่งผลให้ราคาหุ้น BEC ปรับตัวลง 6% จากจุดสูงสุดล่าสุดที่ 30.75
บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อหุ้นอุปโภคบริโภคตัวนี้ เนื่องจากราคาอ่อนตัวลงมาแล้วและบริษัทยังได้
ประโยชน์จากค่าโฆษณาที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ด้วย

สัดส่วนการลงทุนเราปรับเพิ่มการถือหุ้นขึ้นเป็น 42% หลังตลาดปรับตัวลงและพัฒนาการต่อหุ้นเศรษฐกิจใน
ประเทศดีขึ้น สัดส่วน ก่อนหน้า หุ้นหลัก
เงินสด 58% 70%
หุ้นขนาดใหญ่ 12% 8% PTT, BBL และ KBANK
หุ้นไวต่อดัชนี 12% 8% TTA, BAY, BANPU, TCAP และ ASP
หุ้นมีประเด็น 13% 9% BLS, PHATRA, LPN, AOT, CPN และ TTW
หุ้นขนาดเล็ก 5% 5% UMS, KH และ LHK

หุ้นน่าจับตา
TTA หล่นลงไปแล้ว 14% จากจุดสูงสุดรอบก่อนเพราะดัชนี SET และ BDI อ่อนตัวลงในระยะ
หลังนี้ แต่เราเห็นว่าหากหุ้นลงไปอีกที่ระดับราคา 45 บาท นักลงทุนก็ควรเข้าไปหาซื้อเก็บไว้ จากข้อดี
เช่นหุ้นมีพีอีต่ำ มีกำไรปีนี้เติบโตในเกณฑ์ดี และมีความแกว่งไกวขาขึ้นต่อตลาดสูง ดัชนี BDI ตกลง 1.7%
เหลือ 11,269 เมื่อคืนนี้ก็จริงแต่จะเห็นว่าปรับตัวลงเพียง 4% จากจุดสูงสุดที่ 11,793 และยังอยู่ในระดับ
สูง

บทวิเคราะห์วันนี้

* NOBLE <3.90 บาท : ทยอยสะสม> ประสบความสำเร็จกับคอนโดมิเนียมอีกครั้ง
* CPN <27.75 บาท : ซื้อ> การทยอยเปิดโครงการใหม่ปลายปีนี้จะผลักดันการเติบโต
* DTAC <55 บาท : เปลี่ยนตัวเล่น> ราคาหุ้นดูจะแพงไปแล้วแม้เราปรับเพิ่มการคาดกำไรทั้งปีเป็น 8.7
พันล้านบาท

บล.กิมเอ็ง[/size:1311714d1c">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com