.--รอยเตอร์


ดัชนีหุ้นไทยปิดต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากเมื่อ

วานมาสู่ระดับ 2 หมื่นล้านบาท โดยมีแรงขายนำอย่างโดดเด่นในหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่กลุ่ม

พลังงาน โดยเฉพาะหุ้นบมจ.ปตท.(PTT) และบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม

(PTTEP) ที่ร่วงแรงมากกว่า 3%

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า นักลงทุนขายหุ้นออกมา เพื่อลดความเสี่ยง โดยมองว่า

ขณะนี้นักลงทุนกังวลกับปัจจัยการเมืองในระเทศเป็นหลัก ประกอบกับมีแรงขายหุ้นมาร์เก็ต

แคปใหญ่กลุ่มน้ำมันด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าที่ระดับดัชนีประมาณ 830 น่าจะเริ่มมีแรงซื้อ

กลับจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งจะทำให้บรรยากาศหุ้นไทยพรุ่งนี้ปรับตัวดีขึ้น

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดลบ 22.61 จุด มาที่ 832.99 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวัน

และต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เมื่อเทียบจากระดับปิดที่ 832.45 จุด เมื่อวันที่ 30 เม.ย.51

ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 22,045.35 ล้านบาท

ขณะที่ SET 50 ปิดลบ 18.16 จุด หรือ 2.95% มาที่ 597.84 และ SET 100

ปิดลบ 39.31 จุด หรือ 2.95% มาที่ 1,292.08

ดัชนีกลุ่มพลังงาน ลบ 3.67% มูลค่าซื้อขายสูงสุดของตลาดที่ 36.77%, แบงก์

ลบ 2.81% มูลค่าซื้อขาย 14.11%, วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ลบ 4.58% มูลค่า

ซื้อขาย 9.87%, เทคโนโลยี ลบ 2.95%, อสังหาริมทรัพย์ ลบ 2.14% และวัสดุก่อสร้าง

ลบ 1.39%


"ตอนนี้ นักลงทุนเลือกที่จะขายหุ้นออกมาก่อน ความเสี่ยงเรื่องการเมืองมีมาก

ขึ้น ถ้าเทียบกับช่วงต้นปี" นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย

กล่าว

เขา มองว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และฝ่าย

ต่อต้านพันธมิตรเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมีเหตุปะทะกันเกิดขึ้นบ้างนั้น ถือเป็นพัฒนาการ

ของปัจจัยการเมืองในประเทศ และมีความยืดเยื้อมาต่อเนื่อง ทำให้ตลาดเริ่มมีความกังวล

ต่อปัจจจัยการเมืองมากขึ้น

"เมื่อก่อนเราให้น้ำหนักการเมือง ประมาณ 5-10% แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้น 30-40%

เพราะเป็นเรื่องที่มีพัฒนาการ และต้องติดตาม" เขา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับลงในวันนี้ คือ แรงขายหุ้น

กลุ่มน้ำมันบางตัว ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง

นายสุกิจ กล่าวว่า สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ เชื่อว่าที่ระดับดัชนีราว 830

จุด น่าจะเริ่มมีแรงซื้อกลับบ้าง โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากหุ้นไทยร่วงลงราว 40

จุดในช่วง 2-3 วันนี้ โดยมองแนวรับที่ 830 ส่วนแนวต้านที่ 840 และ 850


หลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด

PTTEP ลบ 9.00 บาท มาที่ 184.00 บาท

PTT ลบ 14.00 บาท มาที่ 340.00 บาท

GSTEEL ลบ 0.11 บาท มาที่ 1.58 บาท

BANPU ลบ 16.00 บาท มาที่ 464.00 บาท

NSM ลบ 0.06 บาท มาที่ 0.59 บาท--จบ--

:lol:

ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ หุ้น AS เข้าซื้อขาย-ราคาน้ำมันดีดขึ้น



*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันพุธ ขณะที่รายงานซึ่งบ่งชี้การใช้จ่ายในภาคธุรกิจ

ที่แข็งแกร่งขึ้น ได้หนุนหุ้นกลุ่มบริษัทคอมพิวเตอร์บลูชิพ และกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์

หนัก ซึ่งได้ช่วยบดบังสัญญาณล่าสุด เกี่ยวกับความปั่นป่วนในภาคการเงิน

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ปิดวานนี้ พุ่งขึ้น 2.18

ดอลลาร์ ปิดที่ 131.03 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากความกังวลเรื่องภัย

คุกคามที่มีต่อการผลิตน้ำมันในไนจีเรีย

*วันนี้หุ้นบมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น(AS) ผู้นำในธุรกิจเกมออนไลน์ เข้าซื้อขาย

เป็นวันแรก โดยขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 12 บาท ซึ่งหุ้นจะเข้า

ซื้อขายในหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์

*สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลท.เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบจ.ในไตรมาส

2/51 จำนวน 118 บริษัท ชี้ชัดว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัท ยังขยายตัวที่ดี แต่มอง

ยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น การเมือง และกำลังซื้อในประเทศลดลง

*ผู้บริหารสมาคมบลจ.คาดมูลค่าทรัพย์สินกองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบปีนี้ เพิ่ม 14% เป็น

ราว 2 แสนล้านบาท จาก 1.75 แสนล้านบาทในปีก่อน หลังนักลงทุนสถาบันเริ่มหันมา

ลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น

*พรรคพลังประชาชน ยืนยันยังไม่มี ส.ส.ของพรรค ขอถอนชื่อจากการยื่นญัตติแก้ไข

รัฐธรรมนูญปี 50 พร้อมตั้งวอรูมติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชน

เพื่อประชาธิปไตย เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์เสนอต่อนายกรัฐมนตรี

*ผบ.สส.เตือนสติผู้ชุมนุมทางการเมืองขณะนี้ ควรแก้ปัญหาด้วยสันติ การใช้ความ

รุนแรงแก้ปัญหาไม่ได้ผล ขณะที่ทหารคงไม่ออกมาในเรื่องเหล่านี้ หากให้ทหารเข้า

มาจะถือเป็นการใช้ยาขั้นสุดท้าย เพราะเป็นยาแรงและหลายครั้งไม่ได้ผล

*หนังสือพิมพ์เผย วันนี้เชลล์ ขึ้นราคาขายปลีกดีเซลอีก 70 สต./ลิตรทำให้ราคาทะลุ

40.44 บาท/ลิตร สูงกว่าน้ำมันเบนซิน ขณะที่รถร่วมขสมก.-มินิบัส-สองแถวหยุดเดินรถ

ที่ใช้น้ำมันดีเซลในวันนี้ หลังศาลปกครองสั่งคุ้มครองฉุกเฉินการขึ้นค่าโดยสาร

*หนังสือพิมพ์เผย รมว.พลังงานระบุ วันศุกร์นี้มีข่าวดี หลังขอความร่วมมือโรงกลั่น

ลดส่วนต่างดีเซล เพื่อช่วยเหลือประชาชนบรรเทาผลกระทบน้ำมัน ขณะที่โรงกลั่นข้อง

ใจการนำเงินช่วยเหลือดังกล่าวไปตั้งกองทุนใหม่ อาจนำไปใช้ไม่โปร่งใส

*หนังสือพิมพ์เผย ม.หอการค้า หวั่นการเมืองกระทบเศรษฐกิจ ชี้หากสถานการณ์เลวร้าย

สุดจะฉุดเศรษฐกิจไทยโตไม่ถึง 4.5% ขณะที่ราคาน้ำมันยังบั่นทอนความเชื่อมั่นการบริโภค

*หนังสือพิมพ์เผย พาณิชย์ระบุยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่เดือนเม.ย.มีกว่า 3 พันราย

เพิ่มขึ้น 6.9% ขณะที่ยอดการแจ้งเลิกกิจการลดลง 120 ราย หรือ 12.6% ด้านธุรกิจ

ขายส่ง ขายปลีก และซ่อมจักรยานยนต์ แห่เพิ่มทุนขยายธุรกิจ

*หนังสือพิมพ์เผย กรมการค้าภายใน ยอมรับหนักใจการดูแลราคาสินค้าและห่วงปัญหาอัตรา

เงินเฟ้อ เผยขณะนี้สัดส่วนค่าใช้จ่ายน้ำมันต่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเป็น 12% แล้ว

*หนังสือพิมพ์เผย ผู้บริหารบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มองตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีนี้โต 5-7%

จากมูลค่าตลาดรวม 1 หมื่นลบ. หลังค่าครองชีพของผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น

*หนังสือพิมพ์เผย สศค.เผยเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ยังขยายตัวได้ดี แต่ดัชนีความเชื่อมั่น

ของผู้บริโภคเริ่มปรับลดลง ห่วงปัจจัยน้ำมัน-เงินเฟ้อ-การเมือง ฉุดเศรษฐกิจ คาด

เดือนหน้าหลังสรุปทิศทางราคาน้ำมันโลกเสร็จ จะปรับเป้าจีดีพีอีกครั้ง

--จบ--

:lol: