May 18, 2024   6:41:26 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สถานะการณืหุ้นวันนี้
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 29/05/2008 @ 09:36:41
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

.--บล.สินเอเชีย



ระยะสั้น : ยังอยู่ข้างขาย หรือเน้นด้านขายจนกว่าจะยืนแถวๆ 868 จุด
สัญญาณขายระยะสั้นๆที่เกิดขึ้นเมื่อ 26 พ.ค. (เพราะตลาดปิดต่ำกว่า 872.05 จุด) จะยังคงมี
ผลต่อไปจนกว่าตลาดวันนี้จะรีบกลับมาปิดแถวๆ 868 จุด วันนี้โดยรวมๆจึงอยู่ข้างขาย หรือเน้นขาย หรือ
เล่นสั้นๆไปก่อน แล้วค่อยเน้นซื้อหลังจากตลาดกลับมาปิดแถวๆ 868 จุด เป็นอย่างต่ำ
คาดการณ์กรอบการเคลื่อนตัววันนี้ : แนวต้าน 838-840 แนวรับ 826-818 จุด

ระยะกลาง : ขึ้น/ซื้อ วางจุดถอยที่ 859
แนวโน้มระยะกลางๆเริ่มออกอาการอ่อน และจะกลับเป็นขาลงอีกครั้งถ้าปิดศุกร์นี้ต่ำกว่า 859
จุด พอร์ตระยะกลางๆจึงควรถอย แล้วค่อยเน้นซื้อหลังจากสัปดาห์นี้ตลาดปิดไม่ต่ำกว่า 859 จุด แนวต้าน
สัปดาห์นี้ 888-892 จุด แนวรับ 825-818 (28 พ.ค.)

ระยะยาว : ดี ตราบเท่าที่เดือนนี้ยืน 850
ณ วันที่ 28 พ.ค. ตลาดปิดที่ 832.99 จุด แนวโน้มระยะยาวออกอาการอ่อนเล็กน้อย แต่จะมี
ลุ้นขึ้นต่อได้ถ้าปิดเดือนนี้ไม่ต่ำกว่า 850 จุด พอร์ตระยะยาวจึงอยู่ข้างซื้อ โดยวางจุดถอยไว้ที่ 850 จุด
คาดการณ์เดือนนี้ แนวต้านที่ 890 หรือ 910 แนวรับ 825-818 (ปรับล่าสุด 28 พ.ค.)

ปัจจัยที่มีผลกระทบในระยะสั้นๆ
(+/-) NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2.18 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ 131.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
( + ) ดาวโจนส์ปิดบวก 45.68 จุด ปิดตลาดที่ 12,594.03


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 29/05/2008 @ 09:42:03 :
บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส

Distributor - Bisnews AFE

กังวลการเมือง... ดัชนีสร้างฐาน
ภาพวันวาน
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง นำโดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงสูงสุดในภูมิภาค 2.4% รองลงมาคือ นิเคอิปรับลง 1.3% โดยมีแรงขายทั้งกระดาน นำโดยกลุ่มพลังงาน มูลค่าการซื้อขายมีสัดส่วนสูงสุดคิดเป็น 35.91% ของมูลค่าการซื้อขายรวม รองลงมาคือ ธ.พ. 14.62% มูลค่าการซื้อขายของตลาดรวม 2.2 หมื่นล้านบาท

ประเด็นร้อนวันนี้

* เงินบาทอ่อนค่า จากปัญหาขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น
เป็นที่คาดหมายว่าต้นทุนอาหารและน้ำมันที่สูงในปัจจุบัน กดดันให้เงินเฟ้อเดือน พ.ค. พุ่งสู่ระดับ 6.5% เพิ่มขึ้นจาก 6.2% ใน เม.ย. บวกกับเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าเมือเทียบกับเงินดอลลาร์ และถือว่าอ่อนค่าสุดในภูมิภาค (ล่าสุดอยู่ที่ 32.38 บาทต่อเหรียญฯ อ่อนค่า 1.66% ในช่วง 1 สัปดาห์ ตามมา
ด้วยเยน อ่อนค่า 1.57% และเปโซ อ่อนค่า 0.95%) อันเป็นผลจากปัญหาขาดดุลการค้าที่เริ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนเม.ย. 2551 และมีแนวโน้มจะขาดดุลสูงขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตราบเท่าที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และอาหารยังมีทิศทางสูงขึ้นต่อเนื่อง ในสถานการณ์ที่เงินบาทอ่อนค่าหลังจากที่แข็งค่ามานานถึง 3 ปี ถือว่าเป็นผลดีต่อภาคส่งออก โดยเฉพาะผู้ส่งออกที่มีโครงสร้างรายได้ในรูปดอลลาร์ สัดส่วนที่สูงกว่าต้นทุนดอลลาร์ บวกกับปลายไตรมาส 2 เข้าสู่ไตรมาส 3 จะเป็นฤดูกาลส่งออก ในสถานการณ์ปัจจุบันน่าจะเริ่มสะสมหุ้นชิ้นส่วน : DELTA(FV@B25.6), SVI(FV@B2.16), CCET(FV@B6.87) และ HANA
(FV@B20.28) รวมถึงหุ้น KCE (FV@B3.77) ล่าสุดฝ่ายวิจัยเพิ่งปรับคำแนะนำจากเดิมขายมาเป็นถือ เพราะคาดว่าผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวเป็นครั้งแรก และกลุ่มท่องเที่ยวที่ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ห้องพักโรงแรม จนถึงอาหาร แนะนำซื้อ MINT (FV@46.28), ERAWAN(FV@46.28) และCENTEL(FV@46.28)

* Dow Jones ฟื้นตัว กดดันตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มฟื้นตัวช่วงสั้น ไม่ว่าจะเทียบกับเงินยูโร หรือเงินเยน (แต่ทรงตัวเมื่อ
เทียบกับเงินหยวน) เป็นการสะท้อนว่าจบแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐ และล่าสุดพบว่าตัวเลขเศรษฐกิจ
ที่สำคัญๆ เริ่มดีขึ้น เช่นยอดขายใหม่ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว เดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 3.3% จากเดือนก่อนหน้า
และจากการสำรวจของรอยเตอร์ ต่อแนวโน้ม GDP Growth ในงวด 1Q51 พบว่าจะเฉลี่ยที่ 0.9%qoq เพิ่มขึ้นจาก 0.6% ในงวด 4Q50 ช่วยหนุนดัชนี DJIA ให้สามารถกลับมายืนเหนือระดับ 12,500 จุดได้ ทั้งนี้คาดว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนให้กระแสการลงทุนโยกย้ายการลงทุนจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งน้ำมัน ทองคำ สู่ตลาดทุนอีกครั้ง จะกดดันให้ราคาปรับตัวลง โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ
124.77 เหรียญฯต่อบาร์เรล ปรับลง 3.45% ในระยะ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลง 3.43% บวกกับคาดการณ์รายงานปริมาณน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ของสหรัฐ (ในคืนนี้ 29 พ.ค.) คาดว่าน้ำมันดิบจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยกดันให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีโอกาสอ่อนตัวลงในระยะสั้น

* การเมือง อาจพลิกเป็นบวกได้ หากกลุ่มเตรียมขับไล่รัฐบาล ยอมถอย
สถานการณ์การเมืองที่ดูเหมือนจะตึงเครียดกลับมีความหวังน่าจะผ่อนลงได้ จากการที่ ส.ส.
กลุ่มหนึ่งจากจำนวน 133 คน ได้ลงชื่อเพื่อขอถอนตัวจากการลงมติยื่นเรื่องขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้จำนวนเสียงไม่ครบ 1 ใน 5 ของสมาชิกสภาฯ จากจำนวน 620 คนตามข้อกำหนดรัฐธรรมนูญ และคาดว่าอาจจะมี ส.ส. เพิ่มเติมจากพรรคพลังประชาชน จำนวน 8 คน เตรียมถอนชื่อออกภายในวันศุกร์นี้ (30 พ.ค.) ทำให้ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องตกไป ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ท่าทีของกลุ่มพันธมิตรฯ กลับดูเหมือนจะไม่ยังยอมเลิกลา โดยให้พรุ่งนี้เตรียมประชุมใหญ่เพื่อขอมติจากที่กลุ่มชุมนุม โดยอาจจะเปลี่ยนเป้าหมายจากเดิมต้องการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาเป็นการขับไล่รัฐบาลแทน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ปัจจัยการเมืองถือว่ามีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ

INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้านใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด : 840/900 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวด้านข้างเชิงบวก แนวรับ 830 จุด แนวต้าน 845 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : แนะนำเลือกซื้อหุ้นรายตัวเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าสู่แนวรับ KBANK(85/89), SCB(90/95),
ADVANC(92/98)


:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 29/05/2008 @ 09:46:22 :
บล.กิมเอ็ง

แนวโน้มตลาดวันนี้
มุมมองตลาด: ดัชนีหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัว แม้อาจฟื้นตัวเล็กน้อยจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นเมื่อคืนนี้- เรามองกรอบการซื้อขายที่ระดับ 825-835 จุด
ประเด็นสำคัญ: แรงขายของนักลงทุนต่างชาติซึ่งมีสาเหตุจากความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการแทรกแซงส่วนต่างค่าการกลั่นของรัฐบาล จะยังกดดันภาวะ การลงทุนต่อไป

พัฒนาการตลาด:
* ราคาน้ำมันดิบที่ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.7% เป็น 131.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่นัก
วิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบที่ Brent North Sea น่าจะวิ่งไปที่ระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ "อย่างสบาย" ซึ่งข่าวดังกล่าวจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่ม PTT แม้ส่วนต่างจากราคาเป้าหมายของหุ้นโรงกลั่นจะถูกจำกัดจากการที่รัฐบาลร้องขอให้ช่วยลดค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลลงมา
* นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3.2 พันล้านบาท เมื่อวานนี้ และน่าจะยังคงขายต่อเนื่อง เพราะ
ความเสี่ยงเงินเฟ้อและการเมืองเพิ่มมากขึ้น
* ความตึงเครียดทางการเมืองยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ
ประชาธิปไตยยังคงปักหลักชุมนุมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล

แนวการเทรดหุ้น:
* หุ้น Defensive ที่มีพื้นฐานการเติบโตดี จะเอาชนะตลาดได้ อย่างเช่น หุ้นโรงพยาบาล,
TTW และ AOT ที่วิ่งสวนตลาดเมื่อวานนี้ เรายังคงแนะนำหุ้น TTW และ CPN ซึ่งถือครองสินทรัพย์คุณภาพ
ชั้นเยี่ยม, มีศักยภาพและกำไรเติบโตดี และยังทนต่อภาวะเงินเฟ้อด้วย
* หุ้นขนาดใหญ่จะยังคงเผชิญกับความผันผวน แม้ดัชนีจะปรับตัวลงมาแล้วกว่า 6% กลยุทธ์หุ้นn ซื้อ
TTW ซึ่งเป็นหุ้นสาธารณูปโภคแนว Defensive ราคาหุ้น TTW ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกจากปัจจัยบวกดัง
ต่อไปนี้ 1) ธุรกิจได้รับผลลบจากภาวะเงินเฟ้อด้านต้นทุนไม่มากนัก 2) การเติบโตของกำไรต่อหุ้นระหว่างปี 2551-2552 จะยังสูงถึง 22% และ 3) หุ้นในตลาดมีสภาพคล่องการซื้อขายพอเหมาะ คือมีจำนวน 1 พันล้านหุ้นหรือ 25% ของทั้งหมด 4.29 พันล้านหุ้น (มูลค่าตลาดราว 1.86 หมื่นล้านบาท)

สัดส่วนการลงทุนการปรับตัวลงของดัชนีเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะทยอยสะสมหุ้นซึ่งมีพื้นฐานกำไรเติบโตดี เรายังคงแนะนำสัดส่วนการถือครองหุ้นที่ระดับ 42%
สัดส่วน หุ้นหลัก
เงินสด 58%
หุ้นขนาดใหญ่ 12% PTT, BBL, และ KBANK
หุ้นไวต่อดัชนี 12% TTA, BAY, BANPU, TCAP และ ASP
หุ้นมีประเด็น 13% BLS, PHATRA, LPN, AOT, CPN และ TTW
หุ้นขนาดเล็ก 5% UMS, KH, และ LHK

หุ้นน่าจับตา
AOT ซึ่งเป็นหุ้นที่น่าจะพลิกฟื้นเป็นกำไรได้ในปีนี้และจะสามารถเอาชนะหุ้นตัวอื่น ๆ ในภาวะที่ตลาดปรับตัวลง การรับรู้รายได้จากคิงเพาเวอร์ จำนวนเที่ยวบินและรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น จะช่วยผลักดันผลกำไรของบริษัทให้เติบโตมากกว่า 5 เท่าในปี 2551 โดยเราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร สำหรับหุ้น AOT โดยมีราคาเป้าหมาย 70 บาทต่อหุ้น

บทวิเคราะห์วันนี้
* TPIPL <6.90 บาท : ถือ> อัยการมีความเห็นยังไม่ต้องจ่ายเงินค่าปรับ 6,900 ล้านบาท
ทันที ทำให้มีโอกาสที่ศาลอุทธรณ์จะผัดผ่อนการชำระค่าปรับ
* ASP <3.26 บาท : ซื้อเมื่ออ่อนตัว> ยังคงมุ่งเน้นการกระจายฐานรายได้ไปยังการลงทุน
เป็นหลัก
* KCE <3.46 บาท : เปลี่ยนตัวเล่น> แนวโน้มกำไรยังคงอ่อนแอในไตรมาส 2/51

สรุปข่าว

โรงกลั่นฯ ปูด "พลังงาน" ขอบริจาคล็อตแรก 3 พันล. (กรุงเทพธุรกิจ 29/5/51): พลังงาน
บีบโรงกลั่น ยื่นข้อสรุปส่งเงินบริจาคลดดีเซลภายในศุกร์นี้ "พูนภิรมย์" ระบุฟันกำไรจากค่าการกลั่นปีละ
4,000-5,000 ล้านบาท ด้านโรงกลั่นข้องใจขอเงินบริจาคตั้ง "กองทุนใหม่" หวั่นนำไปใช้ไม่โปร่งใส ชี้หากช่วยผู้เดือดร้อนควรออกประกาศลดค่าการกลั่น เชื่อประชาชนจะได้น้ำมันราคาถูกทั่วถึง เผยใบสั่งล็อตแรกขอ 3,000 ล้านบาท ล็อตสองอีก 4,000 ล้านบาท

AMATAเซ็นขายที่100ไร่ปีนี้เข้าเป้ารายได้5พันล้าน (ข่าวหุ้น 29/5/51): AMATA ม้ามืดย่องเซ็นสัญญาขายที่ดินจำนวน 100 ไร่ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ให้กับกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ พร้อมอ้าแขนรับรายได้ทันที 100 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "วิบูลย์ กรมดิษฐ์" แก้มปริแผนเป็นไปตามเป้าหนุนยอดขายทั้งปีผ่านฉลุย 1,700 ไร่ ขณะที่รายได้ทั้งปีโตชัวร์ 5 พันล้านบาท เทียบปีก่อนที่มีรายได้ 4.3 พันล้านบาท

KBANKสินเชื่อQ2เบิกบาน น้ำมันแพงจับตาNPLก่อตัว (ข่าวหุ้น 29/5/51): KBANK แย้มสินเชื่อไตรมาส 2 ยังเติบโตดี หวังเศรษฐกิจดันสินเชื่อสิ้นปีโตตามเป้า 10-15% เชื่อแม้ไม่แข่งขันราคายังรักษาส่วนต่างดอกเบี้ยได้ 4% พร้อมเฝ้าระวัง NPL ก่อตัวเพิ่ม ชี้ปัจจัยเสี่ยงน้ำมันแพงต้นทุนผลิตภาคธุรกิจสูงขึ้น พ่วงเงินเฟ้อพุ่งแรงเชื่อเป็นแรงกดดันให้แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ย ล่าสุดจับมือ ส.อ.ท.ปล่อยเงินกู้ซื้อเครื่องจักร ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 5 พันล้านบาท

AIS ฮุบไทยโมบาย ลงทุนสร้างโครงข่าย (ทันหุ้น 29/5/51): เอไอเอสกินรวบไทยโมบาย
รับเงื่อนไขได้ทุกอย่างไม่ว่าจะให้เช่าโครงข่ายทีโอทีหรือลงทุนสร้างโครงข่ายเอง ตั้งเงื่อนไขที่เป็นไปได้ยาก หากให้เอไอเอสเช่าโครงข่าย ทีโอทีต้องขยายโครงข่ายให้ทันการใช้งานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วได้

"เอเชียกรีน" จ่อเทรดไตรมาส 3 โชว์กำไรโตไม่หยุดนักลงทุนชอบ (ข่าวหุ้น 29/5/51): เอ
เชียกรีน พร้อมเทรดไตรมาส 3 "พนม"มั่นใจอัตราการเติบโตของผลประกอบการต่อเนื่องและธุรกิจเป็นที่สนใจของนักลงทุน เล็งปรับราคาขายถ่านหินอีก 10-15% จากราคาปัจจุบัน 3,000 บาทต่อตัน ด้านลูกค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นปลายปีแตะ 400 ราย วันนี้เดินสายโรดโชว์เป็นวันแรก ก่อนลุย 7 จังหวัดทั่วประเทศ

ลือมาเลย์เปิดเสรีค่าเงิน "ริงกิต"แข็งค่าทันตาเห็น (ทันหุ้น 29/5/51): ค่าเงินริงกิตของ
มาเลเซียกลับมาแข็งค่าเมื่อวานนี้หลังจากที่อ่อนตัวมานาน 3วัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีข่าวลือในตลาดว่าธนาคารกลางมาเลเซียอาจประกาศมาตรการใหม่เพื่อปล่อยเสรีในการซื้อขายเงินริงกิตซึ่งขณะนี้มีการควบคุมอย่างเข้มงวด


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com