May 10, 2024   10:46:34 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องนั่งเล่น > บาทอ่อนเล่นหุ้นอิเลค
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 09/06/2008 @ 08:48:30
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ค่าบาทอ่อนทำสถิติ ได้เวลาสะสมหุ้นอิเลคทรอนิกส์ SIA เปิดตัวเลขยอดขายเซมิคอนดักเตอร์เดือนเมษายน โตเฉียด 6% ดีกว่าตลาดคาดการณ์ เพิ่มสูงกว่ายอดปี 2550 ที่ 3.40% โบรกจีดอันดับหุ้นเด่นในกลุ่มให้ CCET มาอันดับหนึ่ง อัพไซด์บาน 50% จากเป้าหมาย 8 บาท ด้านผู้บริหารมองแนว โน้มรายได้ปีนี้ทำได้ตามเป้า 3.4 พันล้านดอลล์ จากปีก่อน 2.5 พันล้านดอลล์ ได้แรงหนุนบาทอ่อนรับเงินสกุลดอลล์ทำกำไรส่วนต่างสบายใจ โล่งใจขึ้นจากต้นปีที่บาทแข็งค่าต่อเนื่อง

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยอดขายสินค้าเซมิคอนดักเตอร์โลกรายงานโดย SIA ออกมาดีเกินคาด โดยในเดือนเมษายนมียอดขายรวมเติบโต 5.90% จากปีก่อน ซึ่งดีกว่าอัตราการเติบโตทั้งปี 2550 ที่ 3.20% และดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่เคยมองว่าจะอ่อนตัวลงในไตรมาส 2/2551

ส่วนความกังวลเรื่อง Sub prime ต่อยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐมีแนวโน้มลดลง หลัง U.S. Census Bureau รายงานยอดค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ดีกว่าคาด โดยเติบโต 4.5% yoy และ 0.5% mom สอดคล้องกับผู้บริหาร Intel บริษัทผลิตชิปอันดับ 1 ของโลก ที่มองว่าอุตสาหกรรมยังคงแข็งแกร่งจากสินค้าโน้ตบุ๊ค และ อุปกรณ์มือถือ

สำหรับค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนตัวดังที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ ล่าสุดอยู่ที่ 32.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากการเริ่มฟื้นตัวของเงินเหรียญสหรัฐหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่แย่ดังตลาดคาด อีกทั้งเศรษฐกิจไทยเริ่มแสดงความอ่อนแอมากขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อสูง และการขาดดุลการค้า จึงเชื่อว่าสมมติฐานค่าเงินบาทที่ 32.50 บาทต่อเหรียญที่ให้ไว้นั้นมีความเป็นไปได้สูง

ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าปัจจัยข้างต้นจะทำให้ภาพอุตสาหกรรมในช่วง 9 เดือนที่เหลือเป็นไปตามประมาณการ จึงคงน้ำหนักการลงทุนระดับ ?NeutralŽ โดยเปลี่ยนมาเลือก ?ซื้อŽ CCET เป็นอันดับ 1 ราคาเหมาะสม 8.00 บาทต่อหุ้น จากการมีอัพไซด์สูงสุด 50% ผนวกกับสินค้า Consumer Electronic มีทิศทางที่ดีกว่าคาดไว้

รองลงมาเลือก ?ซื้อŽ DELTA เป็นอันดับ 2 จากตลาดลูกค้าโทรคมนาคมยังขยายตัวต่อเนื่อง และการมี GPM ที่สูงสุด ราคาเหมาะสม 27.89 บาทต่อหุ้น และเปลี่ยนน้ำหนัก HANA จาก ?ขายŽ เป็น ?ถือŽ หลังราคาหุ้นได้สะท้อนผลประกอบการดังที่ได้คาดไว้แล้ว

นางนฤริน ตันติสัจธรรม รองผู้อำนวยการสำนักงานกรุงเทพ บริษัท แคล-คอมพ์อีเล็กโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET เปิดเผยว่า ปี 2551 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนมีรายได้รวม 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากในปีนี้ บริษัทเร่งขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงการผลิตสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ที่หลากหลาย น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วย
ทำให้ผลประกอบการในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าที่คาดการณ์ไว้

ส่วนการอ่อนค่าของค่าเงินบาทในขณะนี้ มองว่าเป็นปัจจัยบวกกับบริษัท เพราะสัดส่วนรายได้ของบริษัทส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลดอลล่าร์ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็ได้รับผลกระทบบ้าง จากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่ยังมีสัดส่วนที่น้อยมากเมือเทียบกับรายได้รวมเกือบทั้งหมดเป็นสกุลเงินดออลาร์

ปัจจุบันบริษัทได้ขยายตลาดอุปกรณ์รับส่งสัญญาณดาวเทียมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น ยุโรป อเมริกา โดยมีลูกค้าใหม่สั่งออเดอร์เพิ่มสูงขึ้น จากเดิมที่มีลูกค้าสั่งออเดอร์เพียงรายเดียว ดังนั้นคาดว่าสัดส่วนรายได้จากสายงานผลิตอุปกรณ์รับส่งสัญญาณดาวเทียมปีนี้อยู่ที่ 20-23% จากรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้เพียง 18%

นางนฤริน กล่าวต่อว่า สัดส่วนการส่งออกของบริษัทในปีนี้ จะเน้นส่งออกไปในทวีปเอเชียประมาณ 50% ยุโรป 21% และอเมริกา 20% เนื่องจาก มองว่า สัดส่วนมาร์จิ้นที่มาจากการส่งออกเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งเชื่อว่า ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยทำให้ผลประกอบการในปีนี้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ราคาหุ้น CCET ล่าสุด (6มิ.ย.) ปิดตลาดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.99% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 15 ล้านบาท[/size:8c924cf043">

ทันหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com