May 21, 2024   4:51:17 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดาน
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 18/06/2008 @ 13:56:14
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*"โมนิก้า" รู้สึกเบื่อหน่ายมากเหลือเกินที่นักลงทุนยังโทรมาสอบถามเรื่องหุ้นปั่นแก๊งโน้น แก๊งนี้ ทั้งที่สาระสำคัญของเนื้อหาทั้งหมดไม่ได้มีอะไรไปมากกว่า "หลอกนักลงทุนไปเชือด" เดี๊ยนจึงขอพูดถึงเรื่องดังกล่าวสั้นๆ เพื่อเป็นวิทยาธานให้แก่แฟนคลับ "ข่าวหุ้น" ก็แล้วกัน

*เนื่องจากพูดถึงหุ้นซอมบี้มากๆ ไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้นเลย แถมยังต้องมานั่งฟังคำตอแหล..อุ้ย..คำแก้ตัวพวกหน้าไหว้หลังหลอก มันน่าเบื่อเกินจะพรรณา เพราะแค่เห็นรายชื่อคนเหล่านั้นในแบล็กลิสต์ ก็เห็นไส้เห็นพุงว่ามีกี่ขดกี่ขด...แล้วจะพูดถึงหุ้นเหล่านั้นหาอะไรมิทราบ??

*โดยเฉพาะ "หุ้นจะขึ้นไหม" ถือเป็นคำถามยอดฮิตของพวกมือใหม่เดย์เทรดที่พบเจอบ่อยเหลือเกิน แถมคนพวกนี้มักตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์โดยไม่รู้ตัวเป็นประจำ เพราะชอบซื้อก่อนถามทีหลัง ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงเละกันถ้วนหน้า...เดี๊ยนก็เลยไม่อยากจะซ้ำเติมคนที่ผิดพลาด เพราะอยากชี้แนะนักลงทุนให้ท่องคำว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง" ให้ขึ้นใจก็เท่านั้นเอง

*ยิ่งวานนี้เห็นดัชนีรูดลงไปพรวดพราดถึง 10.42 จุด ก่อนจะมาปิดที่ 777.17 จุด ท่ามกลางแรงเทขายอื้อซ่า สะท้อนถึงนักลงทุนต่างชาติไม่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจริงๆถึงเทขายหุ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน จนหุ้นบลูชิพร่วงระเนระนาดชนิดหาทางกลับบ้านไม่เจอเลยนะเนี่ย!!

*แย่ไปกว่านั้นก็คือ หุ้นที่คิดว่าลงมาถึงก้นเหวแล้ว ก็ยังลงไปหาก้นเหวใหม่อีก "โมนิก้า" ถึงต้องการให้นักลงทุนอยู่นิ่งๆ ชั่วคราว เพราะดัชนีคงเสียศูนย์เช่นนี้อีกพักใหญ่ๆ...ส่วนคนที่คิดว่า ไม่เดือดร้อนเงินทองจะเข้าซื้อหุ้นดีๆ เก็บไว้เพื่อรอรับเงินปันผลระหว่างกาล ก็เป็นอีกทางเลือหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามนะค่ะ

*ขนาดหุ้นพี่เทพ PTTEP มีข่าวดีรอรับเต็มประตูหน้าต่างยังเป๋ไม่เป็นขบวน แถมสัญญาณทางเทคนิคก็ฟ้องว่า หุ้นเข้าเขตขายมากเกินไป แต่ราคาหุ้นก็ยังรูดลงมาอีก 5 บาท ปิดที่ 173 บาท ท่ามกลางแรงเทขายที่แน่นขนัดแบบนี้...คงไม่มีอะไรดีไปกว่า "หัดทำใจสถานเดียว" พะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับ PTT หนึ่งในหุ้นขวัญใจยอดนิยมต่างชาติ ก่อนหน้านี้มีแต่แรงซื้อเข้ามาไม่หยุดหย่อน ครั้นสถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นใจ ราคาหุ้นก็ร่วงพล่อยอย่างไม่มีลิมิต ยิ่งมาโดนอิทธิพลทางการเมืองมาแทรกแซงด้วยแล้ว "โมนิก้า" ถึงสงสัยเฮียประเสริฐยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนได้อย่างไรกัน??...ในเมื่อทรัพย์สมบัติของชาติกำลังถูกพวกเหลือบไรทางการเมืองปล้นเอากลางวันแสกๆ เจ้าค่ะ

*ในรายของ ESSO ร่วงลงไปกว่า 14% หรือลบไป 1.45 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 8.65 บาท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอิทธิพลทางการเมือง หรือภาวะการลงทุนไม่เป็นใจเหมือนกับหุ้นตัวอื่นๆ แต่เป็นเพราะวานนี้มีการขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นละ 1 บาท ราคาหุ้นก็เลยตอบสนองในลักษณะ sale on fact ก็เท่านั้นเอง

*หากถามว่าราคาหุ้นแถว 8 บาทกว่าๆ สามารถซื้อได้ไหม??... "โมนิก้า" ขอตอบแบบเต็มปากเต็มคำว่า ส.บ.ม.ย.ห. อันเป็นผลมาจากมูลค่าทางบัญชีของหุ้นสูงถึง 7.50

บาท เหตุไฉนจะไม่รีบคว้าของถูกเก็บไว้พอร์ตเยอะๆ ยิ่งหุ้นลงมามากเท่าไหร่ ยิ่งต้องซื้อเก็บไว้มากเท่านั้นนะจะบอกให้

*ส่วนหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ทำท่าจะลาโรงก่อนกำหนด "โมนิก้า" เข้าใจดีว่าเกิดจากอิทธิพลของนักลงทุนต่างชาติล้วนๆ จึงไม่อยากนำเรื่องดังกล่าวมาพูดให้ปวดหัว เพราะรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า BBL SCB และ KBANK มีกลุ่มฝรั่งหัวทองเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก เมื่อฝรั่งหัวทองเตรียมหอบเงินสดแทนใบหุ้นกลับบ้าน ราคาหุ้นถึงร่วงหล่นชนิดไม่ต้องมาดูดำดูดีกันอีกเลย

*ส่วนข่าวที่ ครม. อนุัมัติเพิ่มวงเงินช่วยเหลือผู้รับเหมาก่อสร้างนั้น ใครๆ ก็มองว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้รับดเหมารายใหญ่อย่าง CK STEC และ ITD รวมทั้ง NWR ซึ่งเป็นบริษัทที่รับงานภาครัฐเข้ามาเป็นจำนวนมากนั้น...เอาเข้าจริงๆ ข่าวดังกล่าวจะช่วยให้หุ้นขึ้นได้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้!!

*เนื่องจากภาวะการลงทุนไม่เอื้อให้นักลงทุนเข้ามาเก็บหุ้นนั่นเอง ขณะที่หุ้นตัวหลังสุดก็มีข่าวเรื่องทิ้งงานกลางคันเป็นประจำ "โมนิก้า" ถึงต้องการให้นักลงทุนตรึกตรองเรื่องดังกล่าวให้มากเป็นพิเศษ เพราะในโลกนี้ล้วนแต่มีสิ่งที่ไม่เที่ยงเจ้าค่ะ

*ตรงกันข้ามกับหุ้น SECC ของ เสี่ยสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ พอ ครม.ยังไม่พิจารณาแผนปรับโครงสร้าง ขสมก. พร้อมกับส่งเรื่องให้กระทรงคมนาคมนำแผนดังกล่าวกลับไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ก็เลยทำให้ฝันของ เสี่ยสมพงษ์ ที่จะโกยรายได้จากการโครงการดังกล่าว "เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด" นะจ๊ะ

*ตบท้ายกันที่หนึ่งในบริวารก๊วนนายหัวดวงอาทิตย์ METRO เป็นการส่งท้ายเสียหน่อย เพราะเป็นหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่ปรับตัวขึ้นสวนกระแสขาลงอย่างหวือหวา พร้อมกันนั้นก็มีแรงซื้อเข้ามากว่า 90 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวการที่ดันราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 2.82 บาท บวกไป

0.30 บาท หรือขึ้นไปเกือบ 12% เหมือนเป็นการส่งสัญาณเป็นนัยๆ ว่า ก๊วนนี้กำลังจะปั่นราคาอีกรอบนะจ๊ะ


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com