Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 24/06/2008 @ 09:18:26 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีหลุดต่ำกว่า 800 จุด บลจ.หลายค่ายฉวยจังหวะดอดตุนหุ้นถูกเข้าพอร์ต ทั้งแบงก์ ,สื่อสารและพลังงาน ชี้ที่ผ่านมาหุ้นปรับฐานลงรุนแรง ส่งผลเม็ดเงินหลั่งไหลเข้ากองLTF และRMF แทน โดยเฉพาะกองที่เน้นลงทุนในหุ้น เชื่อช่วยลดความเสี่ยงดีกว่าเข้าซื้อหุ้นโดยตรง คาดเม็ดเงินยังไหลเข้าต่อเนื่องเพราะตลาดหุ้นยังผันผวน
นายพนุกร จันทรประภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงรุนแรง ส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่ โดยบลจ.หลายแห่งถือเงินสดมากขึ้นเพื่อจะทยอยเข้าซื้อหุ้นในช่วงจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทได้ทยอยซื้อหุ้นบางตัวไว้ตั้งแต่ดัชนีใกล้หลุด 800 จุด ส่งผลให้สัดส่วนการถือเงินสดของบริษัทเหลืออยู่เพียง 1-2% จากเดิมที่ถืออยู่ 3-5% โดยบริษัทยังคงให้น้ำหนักลงทุนหุ้นกลุ่มสื่อสาร ธนาคารพาณิชย์ และพลังงานในกลุ่มถ่านหินเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ไป บริษัทจะชะลอการซื้อหุ้นเพื่อลงทุนมากขึ้นเนื่องจากเงินสดที่ถืออยู่เริ่มลดปริมาณลง รวมทั้งจะต้องติดตามสถานการณ์การเมืองให้ชัดเจนมากขึ้น แม้ว่าจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการรัฐสภาแล้ว แต่คงกังวลว่าอาจจะมียืดเยื้อออกไปอีก
?เราต้องค่อยๆซื้อหุ้นแล้วเพราะเงินเราเริ่มจะเหลือน้อยลง รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่แน่นอน แม้เราจะรับรู้บ้างแล้วก็ตาม แต่หากยังคงยืดเยื้อนานจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนได้? นายพนุกร กล่าว
ส่วนแรงซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นแรงซื้อจากฝ่ายใด ซึ่งระบุไม่ได้ว่าเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนในระยะยาว หรือซื้อเพื่อเก็งกำไร โดยสาเหตุที่เข้ามาลงทุนคาดว่าจะเกิดจากผู้จัดการกองทุนได้รับรู้สถานการณ์บ้างแล้ว และสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คาดการไว้
นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุน บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า หลังจากดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับฐานลงรุนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้น เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มากขึ้น แทนการเข้าซื้อหุ้นโดยตรงเนื่องจากจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนจะกระจายการลงทุนในบลจ.ทุแห่ง โดยกองทุนรวม RMF และLTF ภายใต้การบริหารของบริษัทมีนักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้นเช่นกัน
?กองทุนรวม LTF ของบริษัทมีนักลงทุนสนใจลงทุนมากขึ้น แต่เนื่องจากกองทุนของเรายังเล็ก จึงไม่ได้รับผลที่ชัดเจนมาก เหมือนกับกองทุนของบลจ.ใหญ่? นายสุขวัฒน์กล่าว
ส่วนนางสาวบุษเรศ หยุ่นนิยม ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ.แอสแซท พลัส จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เริ่มทยอยซื้อหุ้นเพิ่มตั้งแต่ช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 800 จุดเนื่องจากจะเก็บหุ้นไว้เก็งกำไรในช่วงที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้น ซึ่งในช่วงที่ดัชนีอยู่สูงกว่า 800 จุด บริษัทได้ทยอยขายทำกำไรเช่นกัน ส่งผลให้สัดส่วนเงินสดของกองทุนลดลงเหลือ 8% จากเดิมที่ถืออยู่ในสัดส่วน 13-15%
ทั้งนี้ ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง มีนักลงทุนทยอยเข้ามาลงทุนในกองทุนรวม LTF และกองทุนรวม RMF ที่มีนโนบายลงทุนในหุ้นมากขึ้น และเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพราะตลาดหุ้นยังมีปัจจัยลบเข้ามากระทบต่อเนื่อง
?มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนรวม LTF และ RMF ของบริษัทได้เพิ่มสูงขึ้นตลอด ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการสรุปยอดสุทธิอยู่? นางสาวบุษเรศ กล่าว
ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุน บลจ.อยุธยา (AYF) กล่าวว่า กองทุนหุ้น รวมทั้งกองทุน LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น ได้เข้าไปทยอยซื้อหุ้นในตลาด หลังจากหุ้นปรับตัวลงมามาก ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาซื้อกองทุนหลายสิบล้านบาทในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา
ทันหุ้น[/size:569ba13cca">
|
