May 20, 2024   11:16:36 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > คุณตาคนนี้ น่าเลื่อมใส น่าเลื่อมใส
 

ChennyVI
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 84
วันที่: 30/06/2008 @ 21:55:50
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ได้รับการขนานนามว่า เป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ของโลก แน่นอนที่สุด มีนักลงทุนน้อยรายที่จะมีความสามารถในการลงทุนเทียบเท่าเขาได้

เมื่ออายุ 6 ขวบ บัฟเฟตต์ได้จ่าย เงิน 25 เซ็นต์ ซื้อโค้กจำนวน 6 แพ็กและนำมาขายในราคากระป๋องละหนึ่งเหรียญสหรัฐ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้กำไรถึง 20% โดยบัฟเฟตต์ได้เปรียบเทียบสไตล์การลงทุนของตนเองว่า เป็นเหมือนสิงโต ที่ซุ่มอยู่ในหญ้าสูงๆ (a lion in the tall grass) เพื่อรอเหยื่อ "และตะครุบเมื่อเหยื่อเข้ามาใกล้เงื้อมมือของมัน"

เช่นเดียวกัน วิธีในการเลือกหุ้นที่จะลงทุนของบัฟเฟตต์ ก็ได้เทคนิคเดียวกันนี้ เป็นเทคนิคที่รอจนกว่าราคาหุ้นที่ได้ลงทุนไว้มีราคาสูงขึ้นจนถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้

ด้วยกลยุทธ์เช่นนี้ ทำให้บัฟเฟตต์ เป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ปัจจุบันเขาได้กลายเป็นมหาเศรษฐีหลาย พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทของเขาที่มีชื่อ ว่า Berkshire Hathaway เป็นผู้ถือหุ้น รายใหญ่ในบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งของโลก เช่น Amazon, Disney, American Express และ Coke

ปัจจุบันมูลค่าพอร์ตการลงทุนของ Berkshire Hathaway มีมูลค่ามากกว่า 40 พันล้านเหรียญสหรัฐนั้น เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิดในโลก การลงทุน นักลงทุนและผู้จัดการการเงิน ทั่วโลกได้พิจารณาความเคลื่อนไหวของบัฟเฟตต์ เช่นเดียวกับที่ตลาดวอลล์ สตรีทได้ติดตามทุกคำพูดและการประกาศของอลัน กรีนสแปน

 กลับขึ้นบน
ChennyVI
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 84
#1 วันที่: 30/06/2008 @ 21:56:32 :
ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา:

1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!

2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์

3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้
หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้
บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม

4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน

5) เขาไม่เคยเดินทางด้ วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึง
ซี.โอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี
เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซี.โอเหล่านี้เป็นประจำ

7) เขาให้กฎแก่ ซี.โอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1

8 ) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ
การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์

9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่า
ตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล
เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์

10) วอร์ เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง
 กลับขึ้นบน
ChennyVI
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 84
#2 วันที่: 30/06/2008 @ 22:10:16 :
หุ้นที่คุณตาเลือกก็เป็นบริษัทที่ดี ราคาหุ้นก็ขึ้นเอ๊าขึ้นเอา....แล้วทำไมคุณตาไม่ขึ้นแทนคนรวยอันดับหนึ่งของโลกซักทีน่ะ??

ก็คุณตาเล่นบริจาคทีนึง 80% ของทรัพสิน ก็คิดเป็นมูลค่าสามหมื่นกว่าล้านเหรียญ นับเป็นพฤติกรรมที่เขย่าขวัญบรรดาเศรษฐีโลกเหตุการณ์หนึ่งเลยทีเดียว
 กลับขึ้นบน
Tom
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 33
#3 วันที่: 01/07/2008 @ 20:50:02 :
มีประวัติ ลุงปีเตอร์ ลินจ์ ปะคับ อิอิ
 กลับขึ้นบน
ChennyVI
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 84
#4 วันที่: 01/07/2008 @ 23:55:27 :
Peter Lynch เกิดเมื่อ 19 มค. 1944 จบ Boston college แล้วเรียนต่อทางบริหารธุรกิจจนถึง Master of B A จาก University of Pensylvania
ลินซ์ทำงานที่ Fidelity เป็นที่แรกและที่เดียว เริ่มงานในตำเหน่งนักวิเคราะห์ในปี1969 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยในปี1974 และเข้ารับตำเหน่งผู้จัดการกองทุน Fidelity Magellanในปี1977 ในขณะนั้นมูลค่าของกองทุนประมาณ 22ล้านเหรียญ ในปี1990ซึ่งเป็นปีที่เขาตัดสินใจเกษียรเพื่อให้เวลาแก่ครอบครัวมากขึ้น มูลค่าของกองทุนได้เพิ่มขึ้นเป็น 14พันล้านเหรียล ไม่เคยมีผู้จัดการกองทุนคนใดทำได้อย่างเขามาก่อนในประวัติศาสตร์

ความลับในการบริหารกองทุนของเขาคือการทำงานหนัก หกวันหรือบางครั้งเจ็ดวันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อที่เขาจะได้สามารถพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทต่างๆที่เขาลงทุน พูดคุยกับนักวิเคราะห์ทุกวัน เขามีผู้ช่วยในงานวิเคราะห์เพียงแค่สองคน เขาบริหารหุ้นทั้งหมดเกือบ1400หุ้นในportfolio บางบริษัทเขาซื้อที่จุดเริ่มต้นของการเจริญเติบโตบางบริษัทเริ่มซื้อที่จุดฟื้นตัว และถือเป็นเวลาหลายปี และหุ้นบางบริษัทที่เขาวิเคราะห์ผิดพลาดจะขายทันทีที่พบ

คุณลุงเขาถือเป็นปรมาจารย์ด้านการวิเคราะห์หุ้นท่านหนึ่งที่มี style เป็นของตัวเอง โดยเขาจะแบ่งหุ้นเป็นกลุ่มต่างๆ พอสรุปได้ดังนี้

1 หุ้นโตช้า - ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ การเติบโตน้อยแต่ให้ปันผลสม่ำเสมอ หุ้นกลุ่มนี้คุณลุงลินซ์ไม่ค่อยชอบนัก
2 หุ้นแข็งแกร่ง - เช่น coca-cola, P&G หุ้นพวกนี้โตได้ปีละ 10-12% การทำกำไรได้คือจะต้องซื้อเมื่อราคาหุ้นตกมากๆ หุ้นเหล่านี้จะช่วยคุณลุงได้ให้เจ็บหนักเมื่อเศรษฐกิจอ่อนแอ
3 หุ้นโตเร็ว - เป็นหุ้นที่คุณลุงชอบที่สุด มักจะเป็นบริษัทเล็ก ที่กำลังจะโตอย่างรวดเร็ว
4หุ้นวัฏจักร - เป็นหุ้นที่มีรายได้และกำไรขึ้นลงเป็นรอบๆสม่ำเสมอ บางครั้งก็แทบจะคาดการณ์เวลาได้แน่นอน เช่น บริษัทรถยนต์ เหล็ก เคมี เดินเรือ การทำกำไรในหุ้นกลุ่มนี้จะต้องเข้าใจในธุรกิจเพียงพอที่จะบอกได้ว่าธุรกิจอยู่ในช่วงใดของวัฏจักร แล้วซื้อในช่วงต่ำสุดของธุรกิจเพื่อรอการกลับตัวของรายได้และผลกำไร
5 หุ้นฟื้นตัว - เป็นหุ้นที่กำลังย่ำแย่อย่างหนักและสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ ซึ่งสามารถสร้างกำไรให้กับคนที่ค้นเจอได้สูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าคาดการณ์ว่าหุ้นจะฟื้นตัวแต่ของจริงกลับไม่ฟื้นคนถือหุ้นก็เจ็บตัวได้เช่นกัน การเล่นหุ้นประเภทนี้ไม่ควรที่จะทุ่มลงไปสุดตัว แต่ควรที่จะกระจายซื้อหุ้นฟื้นตัวไปหลายตัว โดยอาจจะหวังว่าจะทายถูกซัก 1 ใน 5 ก็น่าจะทำกำไรได้พอสมควรแล้ว
6 หุ้นสินทรัพย์มาก - เป็นหุ้นที่มีสินทรัพย์ซ่อนอยู่ เช่นที่ดินที่บัญทึกบัญชีในราคาทุนในขณะที่ราคาตลาดนั้นสูงกว่ามาก หรือหุ้นที่มีเงินสดหรือเงินลงทุนมากกว่าหนี้สินเป็นจำนวนมาก หุ้นเหล่านี้จะมีมูลค่าสินทรัพย์หลังหักหนี้สินแล้วสูงกว่าราคาหุ้นที่ขายอยู่มาก หุ้นพวกนี้ได้แต่ซื้อแล้วรอว่าซักวันหนึ่งจะมีคนเห็นคุณค่าแล้วมาปลดล๊อกสินทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในบริษัทออกมา

เรื่องราวของคุณลุงลินซ์ยังมีอีกมากมาย ติดตามได้ในหนังสือ One upon WallStreet

ที่มา Wikipedia, settrade block ของคุณ YoYo, บทความของ ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร จาก thaivi.com
 กลับขึ้นบน
Tom
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 33
#5 วันที่: 02/07/2008 @ 17:24:47 :
ขอบคุณครับ
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com