.--บล.กิมเอ็ง

Distributor - Bisnews AFE

แนวโน้มตลาดวันนี้
มุมมองตลาด: เราคาดว่าดัชนีจะอ่อนตัวต่อในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อ
ปัญหาภาคการเงินในสหรัฐฯ , ปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และความไม่แน่นอนทางการเมืองยังคงมีอยู่
ประเด็นสำคัญ : เราคาดว่าความเสี่ยงจากปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูงยังคงเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนต่างชาติน่าจะยังคงขายสุทธิในหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันน่าจะเริ่มชะลอตัวลง เนื่องจากหมดช่วงการซื้อหุ้นตกแต่งพอร์ท (window dressing) แล้ว

พัฒนาการตลาด:
* ตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมของธปท. บ่งชี้ถึงผลผลิตที่เติบโตแข็งแกร่งจากอุปสงค์ต่อสินค้าส่งออกของไทยก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีแต่การอ่อนตัวของการนำเข้าก็แสดงว่าความต้องการในประเทศน้อยลงด้วยและการเติบโตในภาพรวมก็เริ่มชะลอตัวลง จะเห็นว่าตลาดคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงไปอีกหลายไตรมาสหลังจากที่ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในไตรมาส 1/51
* ภาวะเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนสูงขึ้นเป็น 8.9% ต่ำกว่าคาดการณ์ของเราที่ 9.1% ตัวเลข
เงินเฟ้อพื้นฐานปรับตัวสูงขึ้นไปเป็น 3.6% ต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 3.7% เล็กน้อย เราคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะสูงขึ้นเป็นเลขสองหลักในเดือนต่อๆ ไปโดยอาจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธปท. ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนนี้
* ราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอรค์ ปรับขึ้น 97 เซนต์เป็น 140.97 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลซึ่ง
เป็นผลลบต่อภาวะตลาดโดยรวมเพราะความเสี่ยงของหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งแม้จะเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานแต่จะ
ไปกระทบหุ้นอื่นๆ ในตลาดต่อไป
* หุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้น จากการปรับตัวลงแรงหลังจากยอดขายรถของเจนเนอรัลมอเตอร์ในเดือนมิถุนายนไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่ประมาณการณ์ไว้ ค่าเงินดอลล่าร์ อ่อนตัวลงเหลือ 106 เยน ต่อUS$ ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น เทียบกับค่าเงินดอล์ลาร์เป็น 33.38 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ แต่เราก็เห็นว่ายังไม่เพียงพอที่
จะดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทยในเวลานี้
* การเมืองก็ยังคงมีความขัดแย้งต่อไปอีก กรณีกระบวนการศาลและข้อพิพาทเขาพระวิหารและการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไป

แนวการเทรดหุ้น:
* เรายังมองหาโอกาสในการทยอยสะสมหุ้น และยังคงแนะนำนักลงทุนให้ ขายออกไปก่อนใน
ช่วงนี้ สำหรับหุ้นไทยส่วนใหญ่

กลยุทธ์หุ้น

ขายทำกำไรบางส่วนในหุ้น PTTEP
บริษัทยังคงเป็นผู้ได้รับประโยชน์หลักจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น แต่ราคาหุ้นก็ได้ปรับตัวขึ้นมากว่า 14% จากจุดต่ำสุดล่าสุด นักลงทุนอาจขายทำกำไรหุ้น PTTEP เพื่อถือเงินสดมากขึ้น และมองหาโอกาส
ในการทยอยสะสมหุ้นตัวอื่นๆ ที่ราคาปรับตัวลงมาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน

สัดส่วนการลงทุน
เรายังคงสัดส่วนการถือครองเงินสดที่ระดับ 80%

สัดส่วน หุ้นหลัก
เงินสด 80%
หุ้นขนาดใหญ่ 5% PTT, BBL, PTTEP, KBANK, SCB, ADVANC และ BANPU
หุ้นไวต่อดัชนี 5% BAY, TCAP, BEC, LH, QH, AP และ TTA
หุ้นมีประเด็น 6% AOT, CPN, TTW, HANA และTVO
หุ้นขนาดเล็ก 4% UMS และ KH

หุ้นน่าจับตา
TTA อาจเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่องและราคาหุ้นอาจปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 40 บาทต่อหุ้นจากการอ่อนตัวลงของดัชนีและจากดัชนีค่าระวาง BDI ที่ปรับตัวลงมากว่า 2.2% สู่ระดับ 9,379 จุด เราเชื่อ
ว่าจะมีนักเก็งกำไรบางส่วนเข้าทยอยสะสมหุ้น หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 40 บาท

บทวิเคราะห์วันนี้
HANA <18.30 บาท : ซื้อ> อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ดูแข็งแกร่ง หนุนแนวโน้มการฟื้นตัวของ HANA

สรุปข่าว

เงินเฟ้อมิ.ย.พุ่ง8.9% (โพสต์ทูเดย์ 2/7/51):
นางไพเราะ สุดสว่าง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การที่เงินเฟ้อขยายตัวสูงสุด เป็น
เผลจากน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ทำให้สินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 44.7% และส่งผล
ต่อต้นทุนสินค้าและบริการอื่นๆ ปรับราคาเพิ่มขึ้นตาม

ธปท.แจงพ.ค.ทุนไหลเข้า 3.7 หมื่นล้าน (ไทยโพสต์ 2/7/51):
ธปท.แจงเดือน พ.ค.เงินทุนไหลเข้าสุทธิเกือบ 3.7 หมื่นล้าน จากกลุ่มนอนแบงก์-เอฟดีไอ แต่
กลุ่มตลาดหุ้น ธนาคารพาณิชย์มีเงินไหลออก

ทีโอทีวูบ3หมื่นล.เอไอเอสไม่ต่อสัญญา หันขอไลเซนส์ลงทุน3จีเอง เล็ง3ทางหารายได้โครงข่าย (โพสต์ทูเดย์ 2/7/51):
นายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอ
เอส กล่าวว่า หากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) สามารถออกใบอนุญาต (ไลเซนส์) ให้บริการ 3 จี บนคลื่นความถี่ใหม่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ มีความเป็นไปได้สูงที่เอไอเอสจะไม่ต่อสัมปทานกับ
บริษัททีโอที ซึ่งกำลังจะหมดในปี 2558

ทิศทางคอนโดฯครึ่งปีหลังรุ่งรับอานิสงส์น้ำมันพุ่งไม่หยุด (ผู้จัดการรายวัน 2/7/51):
ธปท.ชี้แนวโน้มความต้องการคอนโดมิเนียมครึ่งปีหลังมีโอกาสขยายตัว เหตุกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จากภาวะค่าครองชีพที่สูงเพิ่มขึ้น

"ดีแทค"ตัดงบทีวี รับเศรษฐกิจชะลอ ซิคเว่ชี้หันมาเน้นจัดกิจกรรมตรงถึงลูกค้า (กรุงเทพธุรกิจ
2/7/51):
"ซิคเว่" แจงตัดงบโฆษณาทีวี ผันมาใช้จัดกิจกรรมตรงถึงลูกค้าโดยเฉพาะในต่างจังหวัด หากยังคงงบ 2 พันล้านบาทไว้ รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว รอเล็งสถานการณ์หากทรุดยาวพร้อมตัดงบโฆษณารวม ทั้งผุดมาตรการรับมือระยะยาวลดค่าใช้จ่าย ด้วยการติดตั้งสถานีฐานพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว 10 แห่งเล็งเพิ่มเป็น 20 แห่งในปีนี้

พลังงานปรับขึ้นLPGกลางเดือน โยนลูกกบง.ตัดสินใจ สั่งอุ้มแท็กซี่ถึงสิ้นปี (ข่าวหุ้น 2/7/51):
พลังงานส่งสัญญานขึ้นราคาแอลพีจีกลางเดือนนี้ สั่งคณะทำงานดูแลผลกระทบ พร้อมเร่งส่งข้อมูลเข้าที่ประชุมกบง.ตัดสิน "มาดามติ้ง"อุบขึ้นกี่บาท หวั่นเจอปัญหากักตุน ยันแอลพีจีไม่ขาดตลาด พร้อมอุ้มแท็กซี่ถึงสิ้นปีนี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุปีนี้รายได้ค่าต๋งแบงก์โตลดลง (กรุงเทพธุรกิจ 2/7/51):
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าปีนี้อัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตในอัตราที่ชะลอตัว หรือเติบโตในกรอบระหว่าง 15-17% แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 13.9% ก็ตาม พร้อมระบุ มีค่า
ธรรมเนียม 3 ประเภท ที่เสี่ยงกับการขยายตัวลดลง ได้แก่ ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ ค่าธรรมเนียมด้านอิเล็กทรอนิกส์แบงกิ้ง และค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับตลาดทุน

ซีพีผวาพิษเฝอเบรกลงทุนอสังหา-ค้าปลีก (ไทยโพสต์ 2/7/51):
"ซีพี" ประกาศชะลอแผนลงทุน "อสังหา-ค้าปลีก" ในเวียดนาม หลังเงินเฟ้อพุ่ง 25% อัตรา
ดอกเบี้ยทะลุ 19% เดินหน้าแค่ธุรกิจการเกษตรกู้รายได้ เล็งความต้องการยังสูง มั่นใจสิ้นปีโกยยอดขายทะลุ 2.6 หมื่นล้าน

MKจ่อขึ้นราคาบ้านครึ่งปีหลัง Q2สวยคาดรายได้400ล้านบ. (ข่าวหุ้น 2/7/51):
MK เล็งปรับขึ้นราคาบ้านครึ่งปีหลัง เหตุต้นทุนก่อสร้างพุ่ง 2-4% ส่วนครึ่งปีแรกโชว์ยอดขาย 1.1 พันล้านบาท "ชุติมา" ลั่นไตรมาส 2 ดีกว่าไตรมาสแรก คาดรายได้ 400 ล้านบาท ขณะที่ต้นก.ค.นี้
ได้ฤกษ์เปิดโครงการใหม่ "ชวนชื่นโมดัส แจ้งวัฒนะ" มูลค่าพันล้านบาท

AP ปรับขึ้นราคาขายบ้าน 5% ครึ่งหลังผุด 10 โครงการใหม่ (ทันหุ้น 2/7/51):
AP ทยอยปรับราคาขายขึ้น 4-5% หลังต้นทุนการก่อสร้างปรับขึ้นเพราะโดนพิษราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นไม่หยุด เล็งเปิด 10 โครงการใหม่ ช่วงครึ่งปีหลังเน้นโครงการคอนโดมิเนียมใกล้แนวรถไฟฟ้า

:lol:

บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส

Distributor - Bisnews AFE


ปรับฐานตามตลาดเอเซีย

ภาพวันวาน
ความกังวลต่อปัญหาการเมืองยังกดดันให้ดัชนีหุ้นไทยอ่อนตัวลง 0.93% ต่ำสุดเป็นอันดับสองรองจากอินเดีย ซึ่งติดลบ 2.3% จากแรงขายทั้งในกลุ่มพลังงาน (PTT, BANPU) และกลุ่ม ธ.พ. มูลค่าการซื้อขายทรงตัวที่ระดับ 1.61 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,541 ล้านบาท

ประเด็นร้อนวันนี้

* 2 การเมือง กรณี 3 รมต. คดีหวยบนดิน และการอุทธรณ์คำสั่งของพันธมิตรฯ
ตลาดหุ้นไทยยังมีความกังวลจากประเด็นการเมือง โดยในสัปดาห์นี้มี 2 ประเด็นหลักที่ต้อง
ติดตามได้แก่ เรื่องการตีความว่า 3 รัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับคดีหวยบนดิน ได้แก่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, นางจุไรวรรณ เทียนทอง และนายอนุรักษ์ จุรีมาศ จะต้องหยุดการปฎิบัติหน้าที่รัฐมนตรีหรือไม่ ทั้งนี้เป็นผล
มาจากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ที่มาของ คตส. และการต่ออายุของ คตส. ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจทำให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องประทับรับฟ้องคดี และส่งผลทำให้รัฐมนตรี 3 ท่านที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวต้องหยุดการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจนำมาซึ่งการปรับ
ครม. ถือเป็นเรื่องอ่อนไหวต่อบรรยากาศการลงทุนเหตุเพราะ 1 ใน 3 รัฐมนตรี เป็นแกนหลักทางด้านการดูแลนโยบายเศรษฐกิจ นอกจากนี้ในวันนี้เวลา 14.00 น. ยังต้องรอติดตามผลจากการที่กลุ่มพันธมิตรฯ อุทธรณ์คำสั่งศาลฯ โดยเรื่องดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับท่าทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อไป

* ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากการเก็งกำไร
กระแสการลงทุนยังให้ความสนใจต่อการเก็งกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งน้ำมัน, ทองคำ โดยใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทองคำปรับขึ้น 5.71% สร้างจุดสูงใหม่ที่ระดับ 940 เหรียญฯ/ออนซ์, น้ำมันดิบ
ดูไบปรับตัวขึ้น 6.15% สร้างจุดสูงใหม่ตลอดกาลที่ระดับ 138 เหรียญฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ เนื่องจากความกังวลต่อปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง (อิสราเอลและอิหร่าน) และความกังวลต่ออุปทาน โดย สน
ง.พลังงานสากล(IEA) แสดงความกังวลต่อปริมาณกำลังการผลิตส่วนเกินที่มีเพียงเล็กน้อย ถึงแม้ปริมาณอุปสงค์จะชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงก็ตาม อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่ามาตรการดูแลการ
เก็งกำไรในตลาดสินค้าล่วงหน้าของสหรัฐ และการเร่งผลักดันการใช้ประหยัดพลังงานและการเลือกใช้พลังงานทางเลือกอื่นจากประเทศในกลุ่มยุโรปนั้น จะมีส่วนช่วยลดการเก็งกำไรลงไปได้บางส่วน สำหรับราคาหุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นไทยปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานมาก ที่กำหนดบนสมมุติฐานว่าราคาน้ำมัน
ดิบดูไบอยู่ที่ 100 เหรียญฯต่อบาร์เรล หุ้นที่โดดเด่นที่สุดได้แก่ PTTTEP(FV@B259.36)

* เงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี นำมาซึ่งปัญหาต่อเนื่องหลายประการ
อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง โดยในเดือน มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 8.9% เทียบกับ
7.6% ในเดือน พ.ค. ทำให้ค่าเฉลี่ย 1H51 เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 6.3% คาดว่าในช่วง 2 เดือนข้างหน้าจะยังอยู่ในระดับที่สูงต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยประเมินว่าค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อทั้งปี 2551 ยังสามารถรักษากรอบไว้ที่
ระดับ 7% ได้ อัตราเงินเฟ้อระดับสูงดังกล่าวเป็นแรงกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลายทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่จะสูงขึ้น, การชะลอตัวของการลงทุน, ปัญหา NPL และการชะลอตัวของกำลังซื้อ ตลอดจนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม ปัญหาดังกล่าวจึงถือเป็นความเสี่ยงในการลงทุนที่สำคัญ

INVESTORS PLUS

แนวรับ / แนวต้านใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด : 750/810 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวด้านข้าง แนวรับ 760 จุด แนวต้าน 775 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : รอจังหวะอ่อนตัวซื้อที่แนวรับ และขายทำกำไรระยะสั้น PTTEP(188/198),
ESSO(8.4/8.9), KBANK(70.50/75), SCB(77/82)


:lol: