May 20, 2024   9:59:33 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ต้องลุ้นกันต่อไป!
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 02/07/2008 @ 15:25:54
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ต้องลุ้นกันต่อไป!

*"โมนิก้า" กราบเรียนตามตรงว่า ไม่ขอพูดถึงเรื่องการเมืองเป็นการชั่วคราว หลังเห็นท่าทีความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ชักจะบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเขียนถึงให้เปลื้องน้ำหมึก...เพราะวินาทีนี้ไม่มีใครมองถึงเหตุผลที่แท้จริงเลยสักราย แถมเอาตนเป็นที่ตั้งกัน...บ้านเมืองถึงระสำระส่ายอย่างหนัก

*เดี๊ยนถึงอยากใช้ที่นาผืนน้อย...อุ๊ย...พื้นที่อันน้อยนิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลังเห็นนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบันในประเทศทำตัวระริกระรี้ได้แป๊บเดี๋ยว...พอถึงสัปดาห์นี้กลับหน้าซีดเซียวเป็นไก่ต้ม เพราะผลกำไรจากพอร์ตลงทุนถูกแทนที่ด้วยผลขาดทุนนั่นเอง

*วินาทีนี้ถึงโฟกัสหุ้นได้เฉพาะบางตัวที่ลงมาถึงฐานก่อนใครเพื่อนเท่านั้น...ส่วนที่เหลือเกินกว่า 70% เป็นหุ้นที่ปรับตัวลดลง "โมนิก้า" ถึงไม่แปลกใจที่เห็นมูลค่าการซื้อขายนับวันจะลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากนักลงทุนรายใดได้ยลโฉมตัวเลขทางสถิติที่ชี้ถึงโอกาสขาดทุนมีเกินกว่าครึ่ง ก็คงไม่มีใครอยากควักเงินออกจากกระเป๋ามาลงทุนหรอกค่ะ

*ฉะนั้นอย่าฝากความหวังไว้กับหุ้นมากเกินไป เพราะหากไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ เดี๋ยวจะเกิดอาการจุกจนพุดไม่ออก...แถมตัวเลขเงินเฟ้อ เดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 8%..แล้วจะมีหุ้นสักกี่ตัวที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงมีสภาพคล่องในการซื้อขายเยอะๆ หล่ะจ๊ะ...งานนี้บอกได้คำเดียวว่า "ทำใจ" พะยะค่ะ

*ส่วนพวกนักลงทุนใจกล้าทั้งหลาย คงต้องลุ้นชนิดติดขอบเวที เพราะหากคำณวนการวิ่งไปกลับของหุ้นจากแดนบวกลงมาสู่แดนลบ ต้องติดลบขั้นต่ำ ณ เวลานั้น 5-7% เลยเชียวน่า!!.. "โมนิก้า" จึงขอเตือนพวกเบี้ยน้อยหอยน้อยที่หวังเป็นเศรษฐี โดยใช้เวลาเพียงแค่ช่วงข้ามคืน ให้ตื่นจากฝันเสียทีพะยะค่ะ

*ยิ่งเจอภาวะราคาน้ำมันดิบเดินหน้าทำ new high ตลอดเวลา ยิ่งบั่นทอนกำลังใจคนทำธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างหนัก...โดยเฉพาะประเด็นคำถามที่ว่า จะเอาตัวรอดจากวิกฤติราคาน้ำมันครั้งนี้อย่างไร??...เดี๊ยนถือเป็นเรืท่องที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าวอย่างลึกซึ้ง

*เนื่องจากผลตอบแทนในรอบครึ่งปีแรกปี 2551 ของกองทุนต่างๆ ล้วนขาดทุนยับเยินกันถ้วนหน้า...แถมปรากฎการณ์ window dressing ก็ไม่มาตามที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตัวเลขจากการบริหารพอร์ตลงทุนดูแย่มากๆ นะค่ะ

*ทั้งนี้กรณีดังกล่าวคงใช้ไม่ได้กับ SSE (อดีตใช้ชื่อ DE) รายนี้เขาขึ้นลงตามแรงเทขายนักลงทุนรายใหญ่ ยิ่งพ่อมดการเงินรุ่นเยาว์สวมบทพระเอกขี้ม้าขาว เพื่อเข้ามากอบโกยผลประโยชน์...จ๊ะอุ๊ย...กอบกู้ฐานะทางการเงินของบริษัท.??? "โมนิก้า" มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นได้แค่ "นิทานหลอกเด็กปัญญาอ่อน"

*เนื่องจากตัวธุรกิจจริงๆ มันตายไปนานแล้ว จู่ๆ ให้เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมออกหน้ารับแทน มันชักทะแม่งๆ ชอบกล...อีกทั้งราคาหุ้นในกระดานกระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.31บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไปเกือบ 7% ท่ามกลางแรงเทขายมีออกมาท่วมตลาดหุ้น...ไม่สามารถมองเป็นเรื่องอื่นได้จริงๆ เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับหุ้นรถแก๊สระเบิด SGP พรายพระซิบจากห้องค้ารายหนึ่งพูดถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นกระชากขึ้นแรงนั้น...แท้ที่จริงเกิดจากแก๊งกวนเดิมได้รับอนุมัติวงเงินก้อนใหม่สำหรับเล่นมาร์จิ้น ราคาหุ้นถึงทะยานขึ้นมาปิดที่ 7.95 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไปถึง 5% นะจะบอกให้

*เรื่องที่บอกว่า ได้รับผลดีจากการประกาศลอยตัวราคาแก๊ส LPG น่าจะเป็นเพียงสตอรีที่ออกมาช่วยดันราคาหุ้น ซึ่งไม่มีนัยสำคัญอะไรมากมาย "โมนิก้า" จึงขอแนะนำให้ "เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก" ถอนตัวตั้งแต่เนิ่นๆ หากไม่รีบเทขายหุ้น เอากำไรมานอนกอด

ระวังจะเสียใจภายหลังนะจ๊ะ

*ส่วนหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม EMC ขยันสร้างสตอรี เพื่อลบข่าวฉาวแบบนี้ไงเล่า...ราคาหุ้นถึงแกว่งตัวขึ้นลงหวือหวา ยิ่งทะยานสวนกระแสโดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง เท่ากับการันตรีขาขึ้นรอบนี้ไม่ยอมจบลงง่ายๆ อีกทั้งเพิ่งปรับขึ้นจากฐานแนวรับอย่างเป็นทางการ "โมนิก้า" จึงขอเชิญขาประจำเข้ามาร่วมวงไพบูลย์โดยด่วน เพราะราคาปิดแถว 0.95 บาทไม่แพงอย่างที่คิด??

*สำหรับหุ้นนายหน้าค้าหลักทรัพย์เดี้ยงกันทุกตัวแบบนี้ คงขึ้นอยู่กับเวรกรรมที่เคยทำไว้

โบรกไหนทำกรรมไว้เยอะ ราคาหุ้นก็ลงเยอะหน่อย...โบรกไหนทำกรรมไว้น้อย ราคาหุ้นก็ร่วงหล่นน้อยหน่อย!!

*แปลกใจสุดๆ ก็คือ GBX หลุดโผไปจากกระดาน Most Active เป็นแรมปี จู่ๆ ขึ้นมาติดในกระดานนี้อีกครั้ง ท่ามกลางแรงเทขายแน่นขนัดไปทุกตารางนิ้ว จนกดราคาหุ้นลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่ 1.04 บาท ลบไป 0.04 บาท "โมนิก้า" สงสัยจะไม่รายการรีบาวด์เกิดขึ้น หลังแรงซื้อหดหายไปเยอะพะยะค่ะ

*ตบท้ายกันที่หุ้นขวัญใจนักลงทุนพื้นฐานด้วยหุ้นบันเทิงเริงรำ BEC ผู้บริหารแสดงความมั่นใจเรื่องรายได้ และผลกำไรอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชจะโตตามเป้า แต่เหตุไฉนราคาหุ้นกลับรูดลงเป็นเดือน ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 24.50 บาท จากก่อนหน้านี้ยืนอยู่แถว 30 บาท...สงสัยจะบิวอารมณ์นักลงทุนให้ยากซื้อหุ้นนะค่ะ

:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com