ดัชนีหุ้นวันที่ 7 ก.ค. 51 ปิดที่ 730.56 จุด ลดลง 12.47 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 9,610 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,375.92 ล้านบาท

นักลงทุนกังวลกับคดีใบแดงของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่ศาลฎีกาจะตัดสินวันที่ 8 ก.ค. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังไม่ชะลอการขายหุ้นออกมา

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.นครหลวงไทยมองแนวโน้มตลาดระยะสั้น คาดว่ามีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อ โดยเฉพาะหากศาลฎีกามีความเห็นยืนตามคำตัดสินของ กกต. มีโอกาสทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรงเพราะมีความกังวลต่อเนื่องไปถึงคดียุบพรรคพลังประชาชน ด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 700 จุด

ฝ่ายวิจัย บล.บีฟิทชี้ว่า นอกจากการตัดสินคดีของศาลฎีกาเกี่ยวกับใบแดงนายยงยุทธแล้ว การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดการชุมนุม ก็ยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด

ทำให้มองแนวโน้มตลาดว่า หากผลตัดสินออกมาในเชิงลบต่อนายยงยุทธ ตลาดก็คงปรับลงแต่อาจไม่มาก เนื่องจากตลาดได้ ปรับตัวลงสะท้อนกรณีนี้ไปบ้างแล้ว แต่หากผลการตัดสินของศาลฯออกมาในเชิงบวกต่อนายยงยุทธ ตลาดอาจปรับขึ้นได้

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.พัฒนสินชี้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ wait and see รอนอกตลาดเพื่อรอดูว่าดัชนีจะปรับลงไปลึกแค่ไหน โดยหุ้นพื้นฐานราคายังปรับตัวลงเรื่อยๆ ซึ่งมุมมองนักลงทุนต่างชาติยังมองตลาดหุ้นเอเชียไม่น่าสนใจโดยมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูง ทำให้มีโอกาสที่จะให้ยาแรงคือการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศหดตัว ทำให้เศรษฐกิจหดตัวตาม ดังนั้น หุ้นที่ถูกขายจะเป็นหุ้นที่เชื่อมโยงกับการบริโภคในประเทศ ทั้งแบงก์ อสังหาฯและยานยนต์

ขณะที่หุ้นเก็งกำไรตัวเล็กหลายตัวที่ถูกฟอร์ซเซลออกมา เพราะดัชนีหุ้นปรับตัวลงจาก 887 จุด มาอยู่ที่ 733 จุด ลดลงประมาณ 150 จุด คิดเป็น 15-16% แล้ว

ขณะที่ตลาดยังหาแนวรับอยู่ มาถึงตอนนี้ต้องไปดูที่จุดต่ำสุด หรือ low เดิม ที่ 727 จุด!!


อินเด็กซ์ 51

:lol: