May 20, 2024   9:49:55 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > พลังงานตีปีกน้ำมันพุ่งไม่หยุด
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 08/07/2008 @ 09:33:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นพลังงานสดใส โบรกชี้ช่อง PTTEP และBANPU เข้าตาสุดในกลุ่ม ขานรับน้ำมันพุ่งไม่หยุดเพราะความต้องการใช้จากจีนและอินเดียยังสูง ดันราคาน้ำมันในอีก 5 ปีข้างหน้ายังทะลุเกิน 100 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนหุ้นโรงกลั่น BCP แววดี ได้ประโยชน์PQI ขณะที่หุ้นโรงไฟฟ้ารอข่าวดีเสริม คัด RATCH เจ๋งสุด ปีนี้ผลงานโต 10%

นายชัยพัทธ ธนวัฒธโน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวในงานสัมมนา “ทิศทางอุตสาหกรรมกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน” ว่า ระยะยาวราคาน้ำมันมีโอกาสปรับสูงขึ้นต่อเนื่องเพราะเงินบาทอ่อนค่า และปริมาณความต้องการใช้น้ำมันที่อยู่ในเกณฑ์สูง โดยเฉพาะจากประเทศเกิดใหม่ เช่น จีน และอินเดีย รวมทั้งต้นทุนผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันในอีก 5 ปีข้างหน้ายังอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่อไป

ทั้งนี้ มองว่า หุ้นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTTEP และ BANPU เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากราคาน้ำมันที่อยู่ระดับสูง โดยเฉพาะ PTTEP ซึ่งที่ผ่านมาราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 47%จากปีก่อน รวมทั้งกำลังการผลิตที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณความต้องการใช้ที่มีอยู่ค่อนข้างสูง โดยประเมินราคาเหมาะสม PTTEPอยู่ที่ 236 บาท

“PTTEP น่าจะมาแรงสุดในสถานการณ์ราคาน้ำมันแบบนี้ แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงต้นทุนการผลิตและการขุดเจาะที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการเพราะราคาขายน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าต้นทุน ซึ่งหากคิดเป็นมาร์จิ้นจะอยู่ที่ประมาณ 60-70%” นายชัยพัทธ กล่าว
ด้านนางสาวธนพร วิศรุตพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีอัตราการใช้ถ่านหินไม่ถึง 30% ของปริมาณการใช้เชื้อเพลิงรวมภายในประเทศ ดังนั้นในระยะยาวคาดว่าราคาถ่านหินมีโอกาสจะปรับสูงขึ้นอีก ตามปริมาณความต้องการใช้ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวสูง ดังนั้นจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หันมาใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตแทน เนื่องจากราคาที่อยู่ระดับต่ำ รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากต้นทุนการผลิตปรับสูงขึ้น

“จากปัจจัยสนับสนุนเรื่องราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง ส่งผลให้พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะถ่านหิน เริ่มน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะ BANPU ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งหากเทียบ P/E ของอุตสาหกรรมแล้ว BANPU มี P/E อยู่ที่ 12-13 เท่า จากอุตสาหกรรมที่ 18 เท่า โอกาสที่หุ้นถ่านหินจะไปต่อมีอยู่อีกมาก โดยประเมินราคาเหมาะสม 590 บาท” นางสาวธนพร กล่าว

ด้านนายธีรภัทร เมธานุเคราะห์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมีโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นโรงกลั่นที่เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น ได้แก่ TOP และ BCP ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวขึ้นต่อ โดยเฉพาะ BCP ที่คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว จะสามารถเติบโตได้น่าพอใจส่วนหนึ่งมาจากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI) ที่คาดว่าจะเสร็จปลายปี 2551 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ระดับค่าการกลั่นของ BCP ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นใกล้เคียงกับโรงกลั่นอื่น ๆ

นายธีรภัทร กล่าวต่อว่า ส่วนหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันซึ่งเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการผลักภาระที่เกิดจากต้นทุนเพิ่มไปยังผู้บริโภคได้ ซึ่งระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยเสริมเข้ามากระตุ้นลงทุนมากนัก แต่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่คาดว่าจะได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ หุ้น RATCH ซึ่งปีนี้ประเมินแนวโน้มผลประกอบการจะเติบโต 10% จากรายได้ที่แน่นอนจากสัญญา PPA กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
BANPU(7 ก.ค.)ปิดที่ 472 บาท ลดลง 8 บาท มูลค่าซื้อขาย 515.05 ล้านบาท และPTTEPปิดที่ 174 บาท ลดลง 8 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,396.18 ล้านบาท

ทันหุ้น[/size:d4048a84da">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com