เดิมที “โมนิก้า” กะไม่พูดเรื่องการเมืองให้ปวดขมอง แต่พอเห็นกระแสรักชาติเกิดขึ้นทั่วหนแห่ง จึงขอร่วมวงเสวนาด้วยคน เพราะเรื่องดังกล่าวกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงของตลาดหุ้นเต็มๆ...ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมืองล้วนๆ ด้วยแล้ว ยิ่งต้องเพิ่มความสนใจมากขึ้นเป็นพิเศษนะจะบอกให้

*เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบยาวเป็นลูกโซ่ จนไม่รู้จะแก้ปัญหาตรงจุดไหนก่อนเป็นลำดับแรก...ขนาดเจ๊หนุ่ยตาคม ออกมาตัดพ้อปัญหาการเมือง และปัญหาราคาน้ำมันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ดัชนีทรุดจนมองไม่เห็นแนวรับจริงๆ อยู่ที่ไหน...เหมือนส่งสัญญาณเป็นนัยว่า “หมดลุ้น” พะยะค่ะ

*เมื่อองค์ประกอบหลายอย่างไม่เป็นใจให้ซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต ปฏิบัติการเทกระจาดเพื่อลดความเสี่ยงถึงยังดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนรับรู้กันอย่างหมดไหส้หมดพุง...เพียงแต่ไม่นึกไม่ฝันว่า การดัมพ์ราคาหุ้นแบบ Hard Sales รอบนี้จะยาวนาน และค่อนข้างจะหมิ่นเหม่จากความสมเหตุสมผล จนตัวดิฉันเองไม่สามารถอธิบายได้นะค่ะ

*ถึงกระนั้น "โมนิก้า" ก็ขอชื่นชมนักลงทุนรายย่อยบางส่วนที่อ่านเกมออก และปรับพอร์ตด้วยการหันไปถือเงินสดมากขึ้น จนรอดพ้นการติดหุ้นไปอย่างเฉียดฉิว เพราะมองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ยังไม่เห็นโอกาสที่ดัชนีจะฟื้นตัวได้อย่างถาวร

*หากวันนี้ดัชนีสามารถยืนยันแนวรับที่ 7320 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยการปิดเหนือแนวรับได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่มีอาการอกสั่นขวัญแขวนให้เห็นอีกหล่ะก้อ "โมนิก้า" รับรองได้เลยว่า ตลาดหุ้นจะหยุดพักขาลงได้ชั่วคราว(แต่หากยืนไม่ได้ ก็ตอกตะปูปิดฝาโลงได้ทันที)...จริงเท็จประการใดเร็วๆ นี้ได้พิสูจน์แน่นอน

* หุ้นปูนใหญ่ SCC พยายามต้านแรงเทขายที่มีออกมาทุกไม้ เพราะต้องการกลับไปยึดฐานที่มั่น 200 บาทให้ได้ โดยพยายามพลิกกลับแนวต้านให้เป็นแนวรับ เพื่อไม่ให้ราคาซวนเซเหมือนสนต้องลม แต่ภาวะตลาดหุ้นไม่เป็นใจ และวอลุ่มหนุนก็น้อยเหลือเกิน จึงทำได้แค่ประคองตัวยืนแถว 188 บาท...โอกาสฟื้นตัวในระยะอันใกล้ จึงกลายเป็นเรื่องฝันค้างที่ต้องฝันกันต่อไปนะค่ะ

*สำหรับในรายของบางจาก BCP อาจเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ แต่หากฟังผลโรดโชว์ที่สิงค์โปร์จากปาก ปฎิภาณ สุคนธมาน มือการเงินชั้นเซียนของบริษัทจะทราบได้ทันทีว่า หุ้นตัวนี้มีดีกว่าที่คุณคิด??...ยิ่งราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีค่อนข้างเยอะ ยิ่งเป็นโอกาสทองสำหรับคนที่มีเงินเย็นแช่ไว้เยอะๆ เพราะแว่วมาแต่ไกลว่า ผลประกอบการปีนี้แจ่มสุดๆ นะจะบอกให้

*ไม่ซื้อวันนี้ แล้วจะซื้อวันไหน "โมนิก้า"ของส่งใจเชียร์อีกครั้ง ใครซื้อแล้วผิดหวัง ด่า"โมนิก้า"มาได้เลยที่ www.kaohoon.com ยินดีรับคำวิจารณ์เยี่ยงนักเรียนน้อยๆ ทุกเมื่อค่ะ

* นี่ก็เช่นกัน แม้จะกำไรหด แต่เมื่อยังกำไร และยังมีคะแนนนิยมอยู่ในอันดับต้นๆ เข้าข่ายสุดยอด popular vote หุ้นอย่าง AOT จึงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ต้องแนะนำนักลงทุนเป็นประจำเวลาที่หุ้นตกหนัก... งานนี้ไม่ต้องสนใจปัญหาต่างๆ ที่ยังคาราคาซังทั้งนั้น เพราะทองแท้อยู่ที่ไหนก็ยังเป็นทองวันยันค่ำ...ทราบแล้วช่วยบอกต่อด้วยนะค่ะ

*ส่วน SSE-W1 นี่ขนาดไม่โดนมาตรการใดๆ ของตลาด แต่ก็ร่วงได้ร่วงดี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีแรงเทขายจากผู้บริหารออกมาหรือเปล่า เพราะรอบที่แล้วก็ขนมาขายอยู่เรื่อยๆ อันนี้ก็ไม่ทราบนะคะว่าใครขาย ระหว่างเจ้ามือ กับรายย่อย...ถ้าเป็นรายแรก สงสัยว่าหวังโกยเงินเข้ากระเป๋า ส่วนถ้าเป็นกรณีรายหลัง อาจเป็นเพราะเสื่อมศรัทธา ซึ่งต้องใช้เวลาปลุกปั่นกันอีกนาน และไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินอีกมากแค่ไหน ส่วน SSE-W1 ปิดที่ 0.73 บาท ลบไป 0.06 บาท ส่วนหุ้นSSE เสมอตัวปิดที่ 0.22 บาท

*ได้รับการยืนยันจากเสี่ยชนะชัยเจ้าของEMC ที่ผ่านมาไม่ได้ขายหุ้นออกไปเลย(แล้วใครขาย??) ทั้งๆที่หุ้นก็ร่วงลงมา อันนี้ก็คงต้องไปตรวจสอบกันเอง แต่ถ้าให้เดี๊ยนมอง คำพูดของเสี่ยคงเชื่อยากสักหน่อย เพราะยังไม่สามารถตอบได้ว่าหุ้นลงเพราะอะไร ส่วนจะโยงไปประเด็นที่ถูกอีกฝ่ายเทขายออกมา เพราะไม่ยอมทำหุ้นให้ขึ้นตามสั่งนั้น ดูเหมือนจะโอเวอร์ไปหน่อย...งานนี้รายย่อยที่อยู่ตรงกลางต้องติดตามข้อมูลให้ดี อันไหนจริง อันไหนไม่จริง ต้องชั่งน้ำหนักเอาเอง !!

*เกิดอะไรขึ้นกับ EMC-W1 ร่วงจนติดฟลอร์... ไม่ต้องบอกว่าที่ผ่านมาวอร์แรนต์ตัวนี้ มีหมุนเวียนน้อยมาก การจะดันจะทุบก็ง่ายดั่งพลิกฝ่ามือ ราคาร่วงมารอบนี้ ทำเอาคนที่ถืออยู่ต้องกระอักเลือดกันไปตามๆ กัน ...เนื่องจากจับมือใครดมไม่ได้อีกตามเคย คงเหลือไว้แต่ผลขาดทุนที่ทำให้นักลงทุนจำได้อีกนาน ราคาหุ้นEMC ปิดที่ 0.28 บาท บวกไป 0.01 บาท ส่วน EMC-W1 ปิดที่ 0.87 บาท ลบไป 0.27 บาท ลดลง 23.68 % ติดฟลอร์คะ

*ป.ล. หากการลงในครั้งนี้มาจากแรงเทขายนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการถอนทัพกลับบบ้าน ก็คงจะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงไปเช่นนี้เรื่อยๆ... บอกได้คำเดียวว่า เสียวซ่านเหลือเกิน "โมนิก้า" ภาวนาว่าอย่าเป็นอย่างนั้นเลย สาธุ...สาธุ...

:lol: