.--บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส

Distributor - Bisnews AFE


SCB, KBANK, TOP ดีดตัว

ภาพวันวาน
อิทธิพลการปรับตัวลงจากตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกัน โดยปิดตลาดปรับตัวลง 1.29% แรงขายนำจากกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, BANPU) อย่างไรก็ตาม หุ้นขนาดเล็กมีการเก็งกำไรกระจายทั่วไป ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ลดต่ำลงสุดในรอบ 15 เดือน ต่างชาติขายสุทธิ 407 ล้านบาท

ประเด็นร้อนวันนี้

* ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 118.60 เหรียญฯต่อบาร์เรล แม้จะมีการ
คาดการณ์ว่า การรายงานปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐ (คืนนี้ 30 ก.ค.) จะมีปริมาณลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 บวกกับการก่อการร้ายของกลุ่มกบฎในไนจีเรียก็ตาม แต่ด้วยคาดการณ์ต่อปริมาณอุปสงค์ที่คาดว่า
จะลดลงมากกว่า สะท้อนได้จากรายงานอุปสงค์ในสหรัฐสำหรับช่วง 1H51 ที่ลดลงถึง 3.2%yoy จากสำนัก
งานพลังงานสากล(IEA) รวมถึงการเปิดเผยจำนวนไมล์ในการขับขี่ของสหรัฐในเดือน พ.ค.ที่ลดลงถึง 3.7% ทั้งที่ในช่วงปรกติของเวลาดังกล่าว ปริมาณการขับขี่จะเพิ่มขึ้น จากผลของวันหยุดในวันเมมโมเรียล และเริ่มช่วงพักผ่อนในฤดูร้อน ส่งผลให้การเก็งกำไรในตลาดน้ำมันลดลง และหันกลับมาให้ความสนใจต่อ
การถือสินทรัพย์ในสกุลดอลลาร์เพิ่มมากขึ้นแทน และเป็นผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อเนื่องในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ แข็งค่า 1.49% และ 0.96% ตามลำดับ สำหรับ
กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มน้ำมันในตลาดหุ้นไทยนั้น ด้วยราคาของ PTT, PTTEP ปัจจุบันปรับตัวลงกว่า 21% ในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าน่าจะตอบรับปัจจัยลบต่างๆ ไว้แล้ว แนะนำซื้อสะสมเพื่อการลงทุนระยะกลาง PTT(FV@B390.73), PTTEP(FV@B245.79) รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งจะได้รับปัจจัยบวก
จากการอ่อนตัวลงของราคาน้ำมันด้วย แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น TOP, PTTAR, ESSO

* ลดแรงกดดันด้านน้ำมัน ลดแรงกดดันเงินเฟ้อ คาดกำลังซื้อกลับมาได้
จากการอ่อนตัวของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่องดังกล่าว ช่วยลดความกังวลต่อปัญหาอัตราเงินเฟ้อกับทั่วโลก และคาดว่าจะหนุนให้ความเชื่อมั่นกลับมาฟื้นตัว พร้อมกับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หนุนให้ดัชนี Dow Jones สามารถรักษาแนวรับที่ระดับ 11,300 จุดได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนแนวโน้มระยะสั้นเชิงบวก และจะหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวบวกในทิศทางเดียวกันด้วย สำหรับตลาดหุ้นไทยนั้น ได้ความช่วยเหลือจาก
ภาครัฐที่ได้ประกาศใช้ 6 มาตรการ 6 เดือน น่าจะเป็นการเสริมความเชื่อมั่นในประเทศอีกด้านหนึ่งด้วย ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเห็นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมาเพิ่มขึ้นครั้งใหม่ได้ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่จะประกาศใน
ปลายสัปดาห์นี้ น่าจะเป็นจุด peak ที่จะเกิดขึ้นด้วย แนะนำซื้อสะสมหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกจากการบริโภคในประเทศ กลุ่มค้าปลีก BIGC(FV@B62.20), CPALL(FV@B14.04) กลุ่มบันเทิง MAJOR(FV@B19.32)
กลุ่มสื่อสาร ADVANC(FV@B110.75), DTAC(FV@B60.91)

INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้านใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด : 670/705 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวเชิงบวก แนวรับ 673 จุด แนวต้าน 690 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบแนวรับ และแนวต้านของหุ้นรายตัว ADVANC(87/90),
ITD(4.36/4.8), TTA(37.5/40), BANPU(392/412), TOP(49/52)


:lol: