May 13, 2024   3:52:18 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > แนวโน้มตลาดวันนี้
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 30/07/2008 @ 09:57:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แนวโน้มตลาดวันนี้

มุมมองตลาด: โอกาสการฟื้นตัวจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นและราคาน้ำมันขาลงจะยังถูกจำกัด
ด้วยความเสี่ยงทางการเมืองที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นต่อไป
แนวคิดสำคัญ: เราเห็นว่าตลาดอาจจะตกลงไปใกล้ 650-660 จุดก่อนที่จะมีการฟื้นตัวเพราะ
การเมืองยังเป็นตัวฉุดที่มีน้ำหนัก

ปัจจัยตลาดสำคัญ:

* ปัจจัยกังวลทางการเมืองใหม่ๆ:

1. หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินได้ประกาศออกจากการร่วมรัฐบาลเป็นปัจจัยกดดันเสถียรภาพรัฐ
ในระยะก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะได้ปรับคณะรัฐมนตรีซึ่งก็ยังเป็นที่กังขาว่าจะเรียกความเชื่อมั่นตลาดได้หรือไม่
ขณะที่สมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินบางส่วนก็มีความเห็นแย้งกับหัวหน้าพรรค
2. คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยตาม พรบ.ฉบับ
ใหม่ซึ่งมีระดับความกังวลต่ออิสระของการบริหารจากอิทธิพลภาคการเมืองต่อไป
3. ปัญหาข้อพิพาทเขาพระวิหารยังไม่น่าได้ข้อสรุปและยังมีความผันผวนหลังจากนายก
รัฐมนตรีกัมพูชาได้ประกาศว่าจะถอนทหารเมื่อทหารของราชอาณาจักรไทยถอนออกไปก่อน

* ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นขึ้น 2% เพราะกำไรของหุ้นกลุ่มเหล็กปรับตัวขึ้นในขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ปรับตัวขึ้นดีกว่าคาดการณ์และราคาน้ำมันลดลงต่อ
* ราคาน้ำมันดิบตกลงอีก 2% เป็น US$122.19 ต่อบาร์เรลหลังจากคาดการณ์ว่าอุปสงค์ทั่วโลก
ลดลง เราเห็นว่าหุ้นอสังหาริมทรัพย์จะได้รับประโยชน์ในกาลนี้

แนวการเทรดหุ้น :
* เรายังคงชอบหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มากกว่าหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงแรง และมีแนวโน้มอ่อนตัวต่อ
* อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรระมันระวังแรงขายหุ้นขนาดใหญ่จากนักลงทุนต่างชาติ เราแนะนำ
ให้นักลงทุนทยอยสะสมหุ้น KBANK (ที่ระดับต่ำกว่า 65 บาทต่อหุ้น) และ LH (ที่ราคาประมาณ 6 บาทต่อ
หุ้น) หากราคาอ่อนตัวลงมา เช่นเดียวกับหุ้น QH และ BAY

กลยุทธ์หุ้น

เก็งกำไรหุ้น QH จากผลประกอบการไตรมาส 2/51 เติบโตโดดเด่นและราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลง
บริษัทได้รับประโยชน์จากมาตรการลดภาษี, ราคาพลังงานและวัสดุก่อสร้งที่ปรับตัวลง และคาด
การณ์ผลประกอบการในไตรมาส 2/51 ที่เติบโตกว่า 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะช่วยหนุนราคา
หุ้น นอกจากนี้หุ้น QH ยังเป็นที่ชื่นชอบของนักเก็งกำไรจำนวนมากด้วย

สัดส่วนการลงทุน
เรายังคงสัดส่วนการถือครองเงินสดที่ระดับ 70%

สัดส่วน หุ้นหลัก
เงินสด 70%
หุ้นขนาดใหญ่ 10% BBL, KBANK, SCB และ LH
หุ้นไวต่อดัชนี 10% BAY, TCAP, BEC, QH และ AP
หุ้นมีประเด็น 6% AOT, CPN, TTW, HANA, TVO และ HEMRAJ
หุ้นขนาดเล็ก 4% UMS และ KH

หุ้นน่าจับตา
SAT คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/51 จะเติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอด
ขายที่ยังเติบโตต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมรถยนต์ และได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามาต่อเนื่อง สินค้าที่มีความ
หลากหลาย และคำสั่งซื้อใหม่ๆ ที่เข้ามาต่อเนื่องของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถกระบะและรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
คาดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์ของตลาดในประเทศและตลาดส่งออกในครึ่งหลังของ
ปี 2551 ราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่ปรับตัวลงก็เป็นผลดีต่อบริษัทเช่นกัน

บทวิเคราะห์วันนี้
> DCC <16.70 บาท : ซื้อ> ผลประกอบการไตรมาส 2/51 ไม่โดดเด่นตามที่คาดหวัง แต่
ยังขยายตัวจากปีก่อน
> STEC <3.48 บาท : ทยอยสะสม> คาดอัตรากำไรพ้นจุดต่ำสุดแล้ว
> AOT <40 บาท : ทยอยสะสม> คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 3/51 ที่ 3,257 ล้านบาท
> SIM <1.99 บาท : เต็มมูลค่า> คาดกำไรสุทธิชะลอตัวเป็น 58 ล้านบาทในไตรมาส 2/51
> SAMART <6.90 บาท : ทยอยสะสม> คาดกำไรปกติลดลง 8% yoy เป็น 86 ลบ และมี
กำไรสุทธิ 126 ลบ

สรุปข่าว

ราคาน้ำมันดิบร่วงปิดที่ $122.19 หลังโอเปคส่งสัญญาณไม่ลดผลิต (อินโฟเควสท์ 30/7/51):
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2.5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) และแตะที่ระดับ
ต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น และจากความกังวลที่ว่า
ราคาน้ำมันที่พุ่งรุนแรงเกินไปจะทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย นอกจากนี้ การที่ประธานโอเปค
ส่งสัญญาณว่าจะไม่ลดปริมาณการผลิต ยิ่งกดดันให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย

เช่าซื้อสะอื้นพิษน้ำมัน ลูกหนี้หมดแรงผ่อนแห่คืนรถ เกียรตินาคิน700คัน/เดือน (โพสต์ทูเดย์ 30/7/51):
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน เปิดเผยว่า ตั้งแต่
ราคาน้ำมันปรับขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ส่งผลให้ลูกหนี้หมดความสามารถในการผ่อนชำระหนี้เช่าซื้อรถยนต์
จนมียอดคืนรถเพิ่มขึ้นจำนวนมากถึงเดือนละ 50-60 คัน เพิ่มจากช่วงปกติที่มีเพียงเดือนละ 10 คัน

LL ฟื้นรายได้ปีนี้วิ่ง 100% แบ็กล็อกกินยาวกว่า 4 พันล. (ทันหุ้น 30/7/51):
LL เล็งรายได้ปี 2551 โตกระฉูดกว่า 100% จากปีก่อนที่ทำได้ 869 ล้านบาท ได้ดีโครงการ
เก่ารอรับรู้รายได้กว่า 10 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท แถมครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัวอีก 8
โครงการ มูลค่า 2,700 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "ภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา" เปิดคลังแบ็กล็อกตุนไว้
แล้วกว่า 4.1 พันล้านบาท กินยาวสบาย 3 ปี เน้นโครงการระยะสั้น ทั้งทาวเฮาส์ อาคารพาณิชย์ บ้าน
เดี่ยว อาคาชุด และรีสอร์ต

VIBHA ส่งซิกผลงาน Q2สดใส เพิ่มศูนย์เฉพาะทางครึ่งหลัง (ทันหุ้น 30/7/51):
VIBHA รุกบริการศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง มะเร็ง-เบาหวาน-ไทยรอยด์ และศูนย์รักษานัก
กอล์ฟ พร้อมขยายเตียงล้างไตอีก 30 เตียง หนุนผลงานโดดเด่นครึ่งปีหลัง ด้านผู้บริหาร "ชัยสิทธิ์ วิริยะ
เมตตากุล" ส่งซิกรายได้ทั้งปีเข้าเป้า 1.1 พันล้านบาท ส่วนไตรมาส 2/2551 โตดีกว่า ไตรมาสแรกที่
กวาดกำไรเฉียด 19 ล้านบาท

"อิมแพค" ผนึกผู้ถือหุ้นใหญ่ยุโรป ทุ่มหมื่นล.เปิดศูนย์การค้า-บันเทิง (กรุงเทพธุรกิจ 30/7/51):
บางกอกแลนด์ ยันไม่มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ เหตุการเมือง-เศรษฐกิจยังมีปัญหา ดัน "อิมแพค"
เจรจากลุ่มทุนยุโรป ผู้ถือหุ้นใหญ่ 40% เปิดศูนย์การค้า-ศูนย์บันเทิง บริเวณเมืองทองธานีมูลค่ากว่า 1 หมื่น
ล้านบาท พร้อมนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดงวดปี 2551-2552 อิมแพคส่งรายได้ให้ 1.8 พัน
ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานของบางกอกแลนด์ ปีนี้มีกำไรแน่นอน

รัฐบาลลาวล้างไพ่ใหม่โรงไฟฟ้า ชี้บ้านปูอาจชวดโครงการหงสา(ผู้จัดการออนไลน์ 29/7/51):
รัฐบาลสปป.ลาว เตรียมล้างไพ่ โครงการรับซื้อไฟฟ้าใหม่ เหตุต้นทุนค่าก่อสร้างพุ่ง ผู้ประกอบ
การที่เสนอราคาค่าไฟมาแล้วทำไม่ได้ ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสาลิกไนต์ของบ้านปู มีสิทธิ์ชวด
โครงการ มีเอกชนหลายรายจ่อจองคิว

บล.กิมเอ็ง[/size:feb77f2bb8">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com