.--บล. โกลเบล็ก

Distributor - Bisnews AFE

SET 702.93 +12.23 +1.77%
H / L : Day 715.33 / 702.93
H / L : Week 715.33 / 702.93
H / L : Year 886.57 / 660.16

แนวโน้มขึ้นต่อในลักษณะแกว่งตัวในกรอบแคบ

ระยะสั้น ดัชนีเปิด GAP แล้วต่อยอดด้วยแท่งเทียน SHOOTING STAR พร้อมกับขึ้นมาเข้าใกล้เส้น BB
TOP เป็นสัญญาณขึ้นแรงมากเกินไป ทำให้มีแนวโน้มขึ้นต่อในช่วงแคบจากแรงส่ง GAPแต่ก็มีความเสี่ยงพัก
ตัวเกิดขึ้น
ระยะสั้น ดัชนีเปิด GAP ขาขึ้นและต่อด้วยแท่งเทียน SHOOTING STAR ตามมาเป็นสัญญาณขึ้นไม่ต่อ
เนื่อง เมื่อเสริมกับการขึ้นมาใกล้แนวต้าน BB TOP และทิ้งห่างเส้น SMA 5 วัน เป็นแรงกดดันของภาวะ
ขึ้นแรงมากเกินไป อย่างไรก็ตามการเปิด GAP ที่อยู่ในแนวขึ้นรูปแบบ DOUBLE BOTTOM และยังมีแนวรับ
SMA ที่เกิด GOLDEN CROSS เป็นแนวรับขาขึ้น พร้อมค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นบวก จะเป็นตัวทำให้ดัชนี
ขึ้นต่อได้เพียงแต่การขึ้นในช่วงนี้จะเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบและมีความเสี่ยงพักตัวระยะสั้นตามสัญญาณ
ลบแท่งเทียนและลงปิดช่วงห่างเส้น SMA 5 วัน เพื่อลดภาวะร้อนแรงการขึ้นมากเกินไปที่เกิดขึ้น กลยุทธ์
ซื้อเก็งกำไรต่อเนื่องปรับตัวขึ้นเน้นขายทำกำไรแนวต้าน เพื่อเล่นรอบซื้อคืนแนวรับเมื่อมีการพักตัว
ระยะกลาง ดัชนีสร้างรูปแบบ DOUBLE BOTTOM ค่าสัญญาณทางเทคนิคเป็นบวกมากขึ้นมีโอกาสกลับ
ตัวจบรอบการลงที่เกิดขึ้น แต่มีโอกาสพักตัวระยะสั้นเป็นจังหวะเริ่มซื้อถือระยะกลางเข้ามาบางส่วน
กลยุทธ์ ปรับตัวซื้อสะสมบางส่วนแนวรับ
แนวรับ : 699 / 692
แนวต้าน: 705 / 711

FIN 750.17 แท่งเทียน

ความเห็น: ดัชนีแนวโน้มพักตัวระยะสั้นหลังเปิด GAP ขึ้นจากแนวรับเส้น SMA ที่เริ่มต้นเกิด GOLDEN
CROSS แต่ไม่ขึ้นต่อเนื่องเกิดแท่งเทียน SHOOTING STAR ตามมา อย่างไรก็ตามค่าสัญญาณทางเทคนิค
และ SMA ยังเป็นบวกจะเป็นแรงส่งดัชนีมีแนวโน้มขึ้นต่อรอบใหม่
กลยุทธ์ ปรับตัวเป็นจังหวะรอซื้อ
แนวรับ 737 / 726
แนวต้าน 770 / 800

BANK 259.33 แท่งเทียน

ความเห็น: ดัชนีปรับตัวขึ้นเปิดGAP ต่อยอดการขึ้นตามแนวรูปแบบหัวและไหล่ขึ้น การเรียงตัว SMA
เป็น BULLISH และค่าสัญญาณทางเทคนิคยังเป็นบวก ทำให้มีแนวโน้มขึ้นต่อทดสอบแนวต้านการจบรูปแบบ
หัวไหล่ที่ 269 ให้ระวังแรงขายแนวต้านเพื่อลดความร้อนแรงระยะสั้น
กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไร
แนวรับ 257 / 252
แนวต้าน 264 / 269


:lol:

.--บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส

Distributor - Bisnews AFE

PTT, PTTEP อ่อนตัวปรับฐาน

ภาพวันวาน
ตลาดหุ้นไทยปรับบวกในทิศทางเดียวกับเพื่อนบ้าน ด้วยการปรับบวกสูงสุด 3.57% และอ่อนตัว
ลงมาปิดเหลือบวกเพียง 1.78% แต่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 2.39 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ
432.54 ล้านบาท

ประเด็นร้อนวันนี้

สินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงต่อเนื่อง
ด้วยความต้องการถือครองสินทรัพย์ในรูปดอลลาร์สหรัฐที่เพิ่มขึ้น หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมี
แนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับยูโร แข็งค่า 3.22% ในระยะ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
และปอนด์ 2.61% ในขณะเดียวกัน การทำกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์ทุกชนิด กดดันให้ราคาน้ำมันดิบโลกปรับลง
อย่างต่อเนื่องด้วย ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 109 เหรียญฯต่อบาร์เรล ปรับลงราว 21% ในระยะ
1 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าจะเป็นแรงกดดันต่อการขายทำกำไรของหุ้นน้ำมัน PTT, PTTEP ประกอบกับวันนี้
PTTEP จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อการรับปันผลด้วย น่าจะส่งผลต่อราคาหุ้นทั้ง 2 ดังกล่าวให้อ่อนตัวลง
แนะนำขายทำกำไรระยะสั้น เพื่อกำหนดจุดซื้อครั้งใหม่ต่อไป

ลดแรงกดดันการเมืองไทย หากแต่เสถียรภาพยังไม่มั่นคง
แม้ว่าการลี้ภัยของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะสามารถลดอุณหภูมิความร้อนแรงทางการเมือง
ลงได้ แต่เชื่อว่า ความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของรัฐบาลภายใต้นายกฯสมัคร สุนทรเวช นั้นจะยังไม่มี
เสถียรภาพมากพอ ซึ่งคาดว่าในที่สุดจะนำไปสู่การยุบสภา ปัจจัยการเมืองยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม แต่ยัง
คาดหวังนโยบายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศจากรัฐบาล ซึ่งอยู่ในช่วงของการเตรียมความพร้อมก่อน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี แนะนำซื้อสะสมหุ้นกลุ่มบริโภค
BIGC(FV@B62.2), MAKRO(FV@B115)

ดัชนีหุ้นไทยปรับฐานตามตลาดหุ้นสหรัฐ
ผลจากการรายงานผลประกอบการของกลุ่มสถาบันการเงินที่ย่ำแย่(เจพีมอร์แกน เชส ขาดทุน
1.5 พันล้านเหรียญฯ ในงวด 2Q51) กดดันให้ดัชนี DJIA ปรับตัวลง 1.19% คาดว่าจะเป็นการอ่อนตัว
ระยะสั้น เพื่อการปรับฐานเท่านั้น และจะสามารถรักษาแนวรับที่ระดับ 11,300 จุดไว้ได้ ทั้งนี้น่าจะเป็น
อิทธิพลเชิงลบต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียให้อ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกันด้วย โดยเฉพาะ
ญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากการรายงานเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในประเทศ สะท้อนได้จากดัชนีความ
เชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดต่ำลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 (ก.ค. 31.4 จาก 32.6 ในเดือน มิ.ย.) รวมถึงอัตรา
เงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 27 ปี ในเดือน ก.ค. อยู่ที่ระดับ 7.1% สำหรับตลาดหุ้นไทยนั้น วันนี้คาดว่าจะ
เห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีอ่อนตัวลงเพื่อการปรับฐานระยะสั้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีแนวรับ
ที่ระดับ 680 จุด

INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้านใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด : 660/715 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวเชิงลบ แนวรับ 680 จุด แนวต้าน 710 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบแนวรับ และแนวต้านของหุ้นรายตัว AOT(38.5/41),
THAI(16.8/18), SCC(165/180)

:lol: