Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 16/09/2008 @ 10:01:20 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ถือเงินสด และรอซื้อไปก่อน สัดส่วนการลงทุน : หุ้น 25% เงินสด 75%
KKS View : "คาด SET เคลื่อนไหวกรอบ 630-645 จุด รอซื้อไปก่อน ได้แก่ PTT, PTTAR,
KBANK"
นักลงทุนตามปัจจัยพื้นฐาน วันนี้
- Analyst Recommend
"ITD"งานในมือยังเพิ่มต่อเนื่องโดยรับงานเพิ่มจากประเทศอินเดียมูลค่าโครงการ 22,503 ล้านบาทเพิ่ม
Backlog เฉพาะส่วนของบริษัท เป็น 64,954 ล้านบาท โดยมีงานอยู่ระหว่างการเสนอราคามูลค่าระดับ
สูงถึง 98,013 ล้านบาท
ความคิดเห็น KKS : ถึงแม้ว่าจากผลประกอบการใน 2Q51 บริษัทจะประกาศขาดทุน 440 ล้านบาท
ซึ่งมาจากการบันทึกมาจากการรับรู้การขาดทุนของโครงการเขื่อนน้ำเทิน ซึ่งมาจากบริษัทรวม ITD NCC
ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุน 60% (มูลค่าโครงการ8,137 ล้านบาท โครงการดำเนินการไปแล้วกว่า 88% โดยมี
คาดว่ามูลค่าโครงการคงเหลือประมาณ 1,052 ล้านบาท) คาดว่าจะปิดโครงการได้ภายใน 3Q51 โดย
เรามองว่าแนวโน้มผลประกอบการมีโอกาสปรับดีขึ้น หลังการรับรู้รายได้โครงการที่ขาดทุนเช่น เขื่อนน้ำ
เทินหมดลง ประกอบการราคาเหล็กที่เริ่มทรงตัวอาจทำให้ผลประกอบการรับผลกระทบลดลง แต่ในขณะ
เดียวกันคาดว่าบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตจากการรับงานที่ต่อเนื่องจากต่างประเทศ และในประเทศที่คาด
หวังได้รับงานจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่คาดว่าจะทราบผลภายใน1-2เดือน จากระดับราคาที่มีการปรับลดรับ
ผลกระทบจากปัจจัยลบของตลาด แนะนำ ทยอยซื้อ โดยมีราคาที่เหมาะสม อยู่ที่ 6 บาท
นักลงทุนตามปัจจัยเทคนิค
หุ้นเด่น 3 วัน : ซื้อ PTTEP (ซื้อที่ 126, 120 ขายที่ 134) BAY (ซื้อที่ 18.30-18.40 ขาย
ที่ 19.20) BANPU (ซื้อที่ 308, 302 ขายที่ 338)
ระยะกลาง (1/2 - 1 เดือน) : รอซื้อไปก่อน ได้แก่ PTT (แนวรับ 224, 220 แนวต้าน 244)
PTTAR (แนวรับ 20 แนวต้าน 22.10) KBANK (แนวรับ 61, 60 แนวต้าน 66.50)
ระยะยาว (3 เดือน) : รอซื้อไปก่อน หลังจากที่แนะนำทยอยขายไปก่อนหน้านี้
TFEX : สัญญา S50U08 "แนะนำปิดฐานะที่ถือ long แล้ว trading short ช่วง 445-425 จุด"
เงื่อนไขการลงทุนระยะกลาง : ถ้า S50U08<445 = trading short ในกรณีที่
S50U08>450 = ปิดฐานะ
SET วานนี้ปิดลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง
SET ปิดลบต่ำสุดในรอบ 20 เดือน ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังได้รับผลกระทบจากปัญหาสถาบัน
การเงินในสหรัฐ ส่งผลให้มีแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีปิดตลาดที่ 642.39 จุด ลดลง 11.95 จุด
(-1.83%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 7,453.57 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิจำนวน
294.32 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดวันนี้
เราคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวในช่วง 630-645 จุด เป็นแนวโน้มแกว่งตัวลบจากดาวโจนส์
ที่ -504 จุด จากความกังวลในปัญหาของสถาบันการเงินทั้ง เลห์แมนที่ล้มละลาย ขายเมอริลลินช์ กังวลใน
AIG ซึ่งนักลงทุนกลัวผลกระทบเป็นลูกโซ่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยและเอเชียจะปรับลงตามในวันนี้ ในกรอบ
645-630 จุด
ส่วนด้านการเมืองในประเทศนักลงทุนจับตาดูตัวนายกฯคนใหม่ ในวันที่ 17 ก.ย. นี้ ซึ่งพรรคพลัง
ประชาชนเสนอชื่อสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องเขยทักษิณ อาจทำให้มีปัญหาตามมาจากการต่อต้านจาก
ประชาชนและกลุ่มพันธมิตร เราคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นแกว่งตัวลงต่อด้วย โดยดารยกเลิกประกาศฉุก
เฉินจะไม่ช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนเท่าไหร่นัก
ราคาน้ำมันที่ปรับลง 5 เหรียญสะท้อนว่าเศรษฐกิจซบเซาจากภาวะหุ้นตก สนับสนุนขาลงด้วย
สำหรับกลยุทธ์ในภาพรวมในช่วงนี้เรามองว่าตลาดจะตกลงต่อด้วยความกังวลในปัจจัยตลาดหุ้นต่าง
ประทศ จึงแนะนำซื้อรอซื้อไปก่อนสำหรับภาพรวม และถือเงินสดไว้
สำหรับสัดส่วนการลงทุนระยะสั้นในช่วงนี้ให้เป็นถือหุ้น 25% ถือเงินสด 75% อีกครั้งหนึ่ง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อหุ้นวันนี้ :
(-) 1. ตลาดหุ้นสหรัฐ วานนี้ปิดลบย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ตลาดเปิดทำการหลังเหตุวินาศกรรมสหรัฐ
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2001 โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเสถียรภาพของระบบการเงิน
สหรัฐ หลังเลห์แมน บราเธอร์สยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย โดยดัชนีดาว
โจนส์ปิดตลาดที่ 10,917.51 จุด ลดลง 504.48 จุด (-4.42%) ส่วนทางตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดลบใน
กรอบ 2.74-3.78%
วันนี้ (16 ก.ย.51) ตามเวลาสหรัฐ ติดตามการประชุม FED โพลล์รอยเตอร์เผยสัญญา
ล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ถึง 70% ที่ FED อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ลง 0.25% จากความผันผวนของตลาดหุ้นหลังเลห์แมน บราเธอร์ส เตรียมยื่นต่อศาลขอรับการพิทักษ์ทรัพย์
จากภาวะล้มละลาย ขณะที่เมอร์ริล ลินซ์ ประกาศขายกิจการแก่แบงก์ ออฟ อเมริกา และ AIG อาจขาย
สินทรัพย์จำนวนมาก
(-) 2. นักลงทุนต่างประเทศ วานนี้ขายสุทธิต่อเนื่องปริมาณไม่มากนักจำนวน 294.32 ล้านบาท
สำหรับการขายของต่างชาติตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.-15 ก.ย. รวม 117,060.40 ล้านบาท
(0) 3. ค่าเงินบาท On shore วานนี้เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย และเคลื่อนไหวในกรอบ
34.51-34.73 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 34.56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเช้านี้เงินบาท
เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ 34.51-34.57 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) 4. ค่าเงินเยน เช้านี้เงินเยนแข็งค่าและเคลื่อนไหวในกรอบ 104.15-104.58
เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อวานนี้เงินเยนปิดที่ 104.75 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ
104.55-106.90 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
(+) 5. ราคาน้ำมัน วานนี้ปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าบริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส
โฮลดิงส์ อิงค์ ยื่นเรื่องเพื่อขอรับการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย และความกังวลเกี่ยวกับสถาบันการ
เงินอื่น ๆ รวมทั้งพายุเฮอริเคนไอค์ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อการผลิตน้ำมันมากเท่าที่คาด ส่งผลให้ราคา
น้ำมัน NYMEX ปิดที่ 95.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 5.47 ดอลลาร์ (-5.41%) ส่วนราคาน้ำมันดิบ
เบรนท์ ปรับตัวลงและปิดตลาดที่ 92.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 5.20 ดอลลาร์ (-5.33%)
(-) 6. ค่าระวางเรือ วานนี้ปรับตัวลงเป็นวันที่ 19 จำนวน 53 จุด ปิดที่ 4,747 จุด
ข่าวหุ้นที่น่าสนใจ
GLOW จ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.60 บาท
GLOW ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่
26 ก.ย.51 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 ต.ค.51
ZMICO เข้าซื้อหุ้น บล.เคทีบี ในสัดส่วน 40%
ZMICO เข้าซื้อหุ้น บล.เคทีบี ในสัดส่วน 40% เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งด้านหลักทรัพย์ ด้าน Wealth
Management และด้าน Investment Banking ได้ครอบคลุมมากขึ้น
PATKL รุกขยายตลาดสินค้าไปต่างประเทศ
PATKL เตรียมรุกขยายตลาดสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมห้องเย็น เครื่องทำน้ำแข็ง และอุตสาหกรรม
อาหารและนม ไปยังประเทศในทวีปออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง เพื่อผลักดันรายได้ในปี 51 ให้เป็น
ไปตามเป้า
SYNEX ซื้อหุ้นคืนไม่น้อยกว่า 10% ของทุนชำระแล้ว
ผู้ถือหุ้น SYNEX อนุมัติให้บริษัทซื้อหุ้นคืนไม่น้อยกว่า 10% ของทุนชำระแล้ว โดยให้บริษัทซื้อหุ้นคืนภาย
ใน 1 ปี แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนจะซื้อหุ้นคืนในช่วงนี้ เนื่องจากกำลังรอพิจารณาความเหมาะสม
บล.เกียรตินาคิน[/size:6f8af8aff1">
|
