ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.37 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.03/06 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซียตกในยูเครน และเหตุการณ์สู้รบในฉนวนกาซา นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบถึงปรับขึ้น ขณะที่กลุ่มสื่อสารคาดงว่ายังมีแรงขายต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ได้แก่ PTTEP, PS, BANPU, LANNA, SPCG, SAMART, QH, MC, GFPT, KTB, KCE*, BCP, BGH, THREL, HEMRAJ, MC, THCOM, SIM, SPALI และ LPN


บล. ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ก.ค.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,524-1,540 จุด โดยหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่าง ADVANC และ INTUCH ที่มี Bandwidth น้อยที่สุด คาดว่าจะเป็นเป้าหมายในการขายทำกำไรต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเลื่อนประมูลคลื่นความถี่ไปอีก 1 ปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่การพิจารณามูลค่าคูปองซื้อกล่อง Digital TV ของ กสทช.วันที่ 24 ก.ค.นี้

แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2Q14 ออกมาดี อย่าง GFPT, KTB, KCE*, BCP, BGH, THREL*, HEMRAJ, MC, THCOM, SIM, SAMART (*Consensus) ต่อ ขณะที่ “ซื้อ” กลุ่มอสังหาฯ ที่ราคาหุ้นมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด และด้วยการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น เศรษฐกิจฟื้นตัว คาดผู้ประกอบการเร่งเปิดโครงการ 2H14 “ซื้อ” SPALI QH LPN



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ก.ค.) ว่า ทิศทางการลงทุนในวันนี้ MBKET คงมุมมองเป็น “กลาง” โดยแนวต้าน 1,535-1,540 จุด ยังไม่น่าผ่านในวันนี้ แม้ว่าแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติยังคงต่อเนื่อง แต่กองทุนในประเทศ คงการทยอยขายทำกำไร เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงสั้นเช่นกัน อีกทั้งภาวะการลงทุนที่หมุนการลงทุนไปยังกลุ่มหลักในแต่ละรอบ หรือที่เรียกว่า Sector Rotation กลายเป็น 2 ปัจจัยที่ทำให้ SET INDEX ยังไม่ผ่านด่านสำคัญในมุมมองของ MBKET

หุ้นหลักในกลุ่ม ICT อย่าง ADVANC / INTUCH / DTAC ยังคงเผชิญกับแรงขาย ต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน ทั้งจากความล่าช้าในการประมูลคลื่นความถี่ บวกกับ ผลการดำเนินงานใน 2Q57 ที่ชะลอตัว Low Season บวกกับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ขาดความโดดเด่น ขณะที่หุ้นขนาดกลางในกลุ่ม ICT มีความโดดเด่นมากกว่า แง่ของผลการดำเนินงาน 2Q57

ด้านปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณียูเครน ทรงตัว

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ “คงการ Swing Trade เน้นการขายทำกำไรและถือเงินสดมากขึ้น หาก SET INDEX ขยับสู่ 1,540 จุด +/-“ พร้อมเก็งกำไรหุ้น Laggard เป็นหลัก กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” SPCG/ SAMART



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 มิ.ย.) ว่า เชื่อว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครน รวมถึงการคว่ำบาตรของสหรัฐ และสหภาพยุโรป ต่อรัสเซีย น่าจะกดดันตลาดหุ้นโลก ตรงกันข้ามน่าจะหนุนราคาน้ำมันดิบรอบใหม่ จึงยังเลือก PTTEP(FV@B195) เป็น Top pick ราคาหุ้นยัง Laggard มี P/E ต่ำ และ Div Yield สูง



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ก.ค.) ว่า แกว่งขึ้น มีการเปลี่ยนกลุ่มเล่นรวดเร็ว ชี้ว่านักลงทุนยังมองไทยเชิงบวก

KGI มอง SET วันจันทร์ปรับขึ้น ต่างชาติยังซื้อหุ้นไทยแม้กลุ่มสื่อสารมีข่าวลบจากการเลื่อน 4G โดยน่าสังเกตว่ามีการเปลี่ยนกลุ่มเล่นเร็วมากเมื่อวันศุกร์ (กลุ่มสื่อสารลง กลุ่มอื่นๆ ขึ้นแรง เช่นที่ดิน ท่องเที่ยวก่อสร้าง) แสดงว่านักลงทุนยังไม่เปลี่ยนมุมมองบวกต่อ SET ด้านจิตวิทยาต่างประเทศดี ดาวโจนส์รีบาวด์แรงเมื่อวันศุกร์ หลัง IBM และ Google แจ้งกำไรไตรมาส 2/57 สูงกว่าคาด และตลาดลดการตอบสนองต่อความเสี่ยง geo-politics (ดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ เด้ง + ดัชนี VIX ร่วงลงครึ่งหนึ่งของที่ขึ้นไปเมื่อวันพฤหัส) ภาพหลัก SET ยังแกว่งขึ้น แนะถือหุ้นหรือซื้อสะสมในกลุ่มเด่น (ที่ดิน ท่องเที่ยว ก่อสร้าง)

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร PS* / ซื้อ IFEC + หุ้นถ่านหิน (BANPU* & LANNA) ต่อ




บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(21 ก.ค.) แกว่งตัว? คาดมีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศหลังคลายความกังวลประเด็นเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ตกในยูเครน อย่างไรก็ตามยังแนะติดตามสถานการณ์การสู้รบในเขตฉนวนกาซา และยังจับตากลุ่มพลังงานที่อาจได้รับผลดีจากราคาน้ามันที่ปรับสูงขึ้น

.....ทางด้านปัจจัยในประเทศคาดยังได้รับปัจจัยบวกจาก (1) Fund Flow ที่ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่อง อีกเกือบ 800 ล้านบาท และทาให้ YTD ยอดขายสะสมลดลงต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดอยู่ที่ ประมาณ 24,500 ล้านบาท และ (2) การเก็งกาไรผลประกอบการ – 2Q/57 และเงินปันผล - กลางสค.

.....และแนะติดตามประเด็นที่คาดยังมีผลต่อภาพรวมตลาด เช่น ทิศทางโรดแมพของ คสช. ที่ชัดเจน โดยคาด (1) ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว - กค. (2) ตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ - สค. (3) แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี - กย. (4) ตั้งสภาปฏิรูป - ตค. และ (5) จัดการเลือกตั้ง -ประมาณตค. ’58 รวมถึงความคืบหน้างบประมาณปี’58 วงเงิน 2.575 ล้านล้านบาท ที่เตรียมเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 6/8/57 โดยในจานวนนี้ ประมาณ 450,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนที่ส่วนใหญ่เน้นการจัดการระบบน้าและงานถนน

.....นอกจากนี้ยังมีความชัดเจนของแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่อเนื่อง เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ทางด่วน และโครงการขยายสนามบิน ทั้งสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เป็นต้น เบื้องต้นคาดใช้ระยะเวลา 8 ปี (ปี’58 – 65) วงเงินลงทุน 2.4 - 3.0 ล้านล้านบาท รวมถึงประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี

หุ้นแนะนา : MC



บล.ฟินันเซีย ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (21 ก.ค.) ว่า คาด SET มีกรอบบวกจำกัดและเสี่ยงต่อการปรับพัก จึงน่ารอซื้อลบอยู่..

แนวโน้ม : ปลายสัปดาห์ที่แล้ว SET แกว่งผันผวนและมีจังหวะย้อนลบบ่อยครั้งขึ้น ทำให้ยังต้องระวังโอกาสแกว่งพักตัวลงก่อนของตลาดหุ้นไทยในช่วงถัดไป อย่างไรก็ตามเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ถือว่าไม่เลวร้ายนัก หลังสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนจากการที่เครื่องบินมาเลเซียถูกยิงตกในน่านฟ้ายูเครนถือว่ายังมีไม่มาก ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังสามารถเปิดบวกได้ ทำให้ FSS คาดว่า SET ก็ยังมีลุ้นจังหวะเคลื่อนไหวในด้านบวกต่อได้อีก โดยเฉพาะแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติในบ้านเราก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากกรอบการขึ้นของตลาดเอเชียไม่ได้กว้างมากนัก ขณะที่ตลาดหุ้นบ้านเราก็เริ่มมีแรงขายกดดันมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำให้คาดว่า SET ยังมีกรอบขึ้นจำกัดและมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนหรือปรับพักตัวลงได้ ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเข้าซื้อเฉพาะช่วงตลาดเป็นลบดีกว่า

แนวรับ 1530-1526 , 1523-1520 จุด แนวต้าน 1536-1538 , 1543-1545 จุด

กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังมีจังหวะแกว่งบวก แต่ก็ผันผวนมากขึ้นและเสี่ยงต่อการเข้าสู่รอบปรับพักตัวลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังยังไม่ค่อยมีปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ เข้ามา รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวขึ้นมาต่อเนื่องค่อนข้างมากแล้วด้วย ทำให้ FSS คาดว่ากรอบการขึ้นต่อให้ทำกำไรได้ น่าจะเริ่มจำกัดมากขึ้น ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นซื้อช่วงตลาดปรับพักตัวลงน่าจะเหมาะสมกว่า

หุ้นเด่นมีประเด็น QH ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 4.90 บาท