April 27, 2024   9:26:51 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระแสแบ็คดอร์ปลุกอสังหาฯเล็กคึก
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 30/09/2014 @ 08:31:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ปลุกกระแส Backdoor ดันอสังหาฯ กลาง-เล็กคึกคัก THANA นำทีมหุ้นพุ่งชนซิลลิ่ง หลังลือสะพัดกลุ่มทุนใหญ่เล็งเข้าประตูหลังตามรอย S ขณะที่ผู้บริหารปฏิเสธทันควัน ยอมรับมีการเจรจาทำธุรกิจ แต่ยังไม่มีข้อสรุป เตือน นลท.ระวังการเก็งกำไร เตรียมเช็คชื่อผู้ถือหุ้น หลังพบถูกลากผิดปกติ ทั้งที่ฟรีโฟลทต่ำ ด้านโบรกเกอร์ยังให้น้ำหนักลงทุนหุ้นอสังหาฯ แค่ Neutral ระบุยอด Presales และการเปิดโครงการใหม่ยังอ่อนตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์วานนี้ (29 ก.ย. 57) ปรับตัวขึ้นสวนทางกับดัชนีฯที่ปรับฐานลงกว่า 14 จุด ซึ่งนำโดยหุ้นอสังหาฯขนาดกลางและเล็ก ที่หลายตัวปรับขึ้นชนเพดานราคาสูงสุด (ซิลลิ่ง) โดยล่าสุดดัชนีฯปิดที่ 1,585.79 จุด ลดลง 14.37 จุด หรือ 0.90% ซึ่งหุ้นบิ๊กแคปทั้งพลังงาน แบงก์ และสื่อสาร เป็นหลักในการกดดัชนีฯ ขณะที่หุ้นอสังหาฯ มีผลดันดัชนีฯ 1.18 จุด
โดยหุ้น บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA ปิดที่ 4.36 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 29.76% หุ้นบริษัท ปรีชากรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRECHA ปิดที่ 2.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.64 บาท หรือ 29.63% หุ้นบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ปิดที่ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 2.30 บาท หรือ 25.84% โดยระหว่างการซื้อขายราคาหุ้นพุ่งชนซิลลิ่งที่ 11.50 บาท หุ้นบริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ NCH ปิดที่ 1.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.29 บาท หรือ 17.79% ระหว่างการซื้อขายราคาพุ่งเกือบซิลลิ่งที่ 2.06 บาท
จากการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ต่างมองไปในทิศทางเดียวกัน ว่าหุ้นกลุ่มอสังหาฯ มีแรงเก็งกำไรเข้ามา จากการเปิดตัวโครงการใหม่ของหลายๆบริษัทที่ได้รับการตอบรับที่ดี เช่น AP และ SPALI แต่หุ้นอสังหาฯขนาดใหญ่ราคากลับไม่ขยับมากนัก เนื่องจากนักลงทุนหันมาเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่มีประเด็นการซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value) และแนวโน้มการถูก Backdoor หลังจากที่ S ซึ่ง กลุ่มบุญรอด Backdoor หุ้น RASA เข้ามา ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 6 บาท เป็นเกือบ 12 บาท ภายในระยะเวลาไม่กี่วันทำการ ทำให้หุ้นขนาดเล็กซึ่งมีการประเมินว่าจะถูกเข้าประตูหลังจากผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ มีแรงเก็งกำไรเข้ามาอย่างหนาแน่น

**THANA ปัดข่าวลือถูก Backdoor เตรียมเช็คชื่อ ผถห. หลังหุ้นถูกลากชนซิลลิ่ง
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ THANA เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ถึงกระแสข่าวลือในห้องค้าว่า THANA จะถูก Backdoor โดยกลุ่มทุนใหม่ ว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ามีการเจรจาเกี่ยวกับการทำธุรกิจ กับพันธมิตรทั้งรายเล็กและรายใหญ่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีข้อสรุปกับรายใด
ทั้งนี้เตือนนักลงทุน ระมัดระวังการเก็งกำไรตามกระแสข่าวลือ โดยควรมองที่พื้นฐานและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นหลัก ซึ่งยอมรับว่าในไตรมาส 3/57 ผลการดำเนินงานของ THANA อาจจะยังไม่ดี แต่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นในไตรมาส 4 โดยในปีนี้จะเป็นปีที่เป็นจุดต่ำสุดของบริษัทฯ ก่อนจะฟื้นตัวในปีหน้า
นายสุทธิรักษ์ กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ เตรียมขอปิดสมุดทะเบียน เพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น หลังจากพบว่ามีการเข้ามาเก็งกำไรจนราคาปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง และพุ่งขึ้นชนซิลลิ่ง ในวันนี้ ทั้งที่หุ้นมีฟรีโฟลทไม่มาก โดยยืนยันว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังถือหุ้นอยู่กว่า 70%
"เราเป็นบริษัทเล็ก ก็มีโอกาสในการร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งเราก็เปิดเผยกับนักลงทุนในงาน Opp Day แต่ไม่ใช่การเข้ามา Backdoor แน่นอน และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ดังนั้นนักลงทุนต้องระวังการเก็งกำไร เพราะหากมองในแง่พื้นฐานแล้ว Q3/57 งบก็ยังอาจจะไม่ดีนัก แต่ปีนี้จะเป็นปีที่ต่ำสุดของเรา ก่อนจะฟื้นตัวในปีหน้า ส่วนการย้ายเข้า SET ยังต้องดูผลประกอบการให้ฟื้นตัวก่อน คงไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะเรายังต้องปรับตัวอีกหลายอย่าง" นายสุทธิรักษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีกระแสข่าวลือในโซเชียล เน็ทเวิร์ค ระบุว่า "THANA คาดสรุปดีลกลุ่มทุนใหม่เข้า backdoor ราวสัปดาห์หน้า หลังจากตกลงเรื่องที่ดินภูเภ็ตได้แล้ว การซื้อกิจการนี้จะรวมไปถึงพนักงานทั้งหมด โดยทุนใหม่จะนำทั้งโรงแรม คอนโด สปา community mall มูลค่าร่วม 2 หมื่นล้านเข้าสวมกิจการ และย้ายเข้า SET กลุ่มทุนนี้ยิ่งใหญ่ไม่แพงสิงห์ มูลค่าหุ้นหลัง back door คาด 8-10 บาท แหล่งข่าวไม่เปิดเผย โปรดใช้วิจารณญาณ"

** เตือนระวังหุ้น S เทรดที่ความคาดหวังสูงมาก
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า จากการศึกษาราคาหุ้น S ปัจจุบันพบว่าอยู่บนความคาดหวังที่สูง หากมีสมมุติฐานว่าที่ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 8.90 บาท ซื้อขายด้วย P/E ปี 58 ที่ 15 เท่า ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่ 11 เท่าแล้ว EPS ที่ควรจะเป็นคือ 0.59 บาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิที่มากถึง 2.8 พันล้านบาท และรายได้จะสูงเป็น 23.3 พันล้านบาท หากมีอัตรากำไรสุทธิที่ 12% และเพิ่มไปเป็น 28 พันล้านบาท หากมีอัตรากำไรสุทธิที่ 10%
ขณะที่งบการเงินเสมือนมีการรวมกลุ่มสิงห์ฯมาแล้ว 1H57 มีรายได้เพียง 289 ล้านบาทและขาดทุนสุทธิเป็น 66 ล้านบาท แต่ราคาหุ้นอาจจะยังมี momentum ในการปรับขึ้น ภาพพจน์ที่ดีมากของกลุ่มสิงห์ฯในเรื่องความแข็งแกร่งของตรา การเป็นผู้นำตลาดน้ำดื่มและแอลกอฮอล์ มีสินทรัพย์มาก ความคืบหน้าของธุรกิจในอนาคต รวมทั้งอาจมีการตัดขายสินทรัพย์ที่ยังไม่พัฒนา เช่นที่ดินเปล่าที่มีต้นทุนต่ำ อาจจะผลักดันราคาหุ้นได้ แต่หากจะป้องกันความเสี่ยง เพราะกว่าที่จะได้รายได้และกำไรตามที่กล่าวไว้ข้างต้นอาจต้องใช้เวลาอีกนาน ก็ควรจะหวัง ส่วนต่าง (Gap) กำไรจากการลงทุนไม่มาก

** ผู้บริหาร NCH มองหุ้นเทรดต่ำกว่า BV
นายแพทย์สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ NCH ให้ความเห็นกรณีที่ราคาหุ้น NCH พุ่งขึ้นแรง เนื่องจากปัจจุบันยังเทรดต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book value) ของบริษัทในงวดไตรมาส 2/57 ที่อยู่ในระดับเกือบ 2 บาท ขณะที่บริษัทในกลุ่มอสังหาฯ ส่วนใหญ่ ราคาหุ้นอยู่สูงกว่ามูลค่าทางบัญชี
ส่วนผลงานในปีนี้มี 2 โครงการที่จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯดีขึ้นมาก โดยในไตรมาส 4/57 โครงการแรกเป็นคอนโดมิเนียมที่พัทยา คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในเดือนต.ค.และจะโอนได้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.หลังจากเฟสแรกขายหมดแล้ว และมีเฟส 2 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มียอดจองแล้ว 60% และคาดว่าจะทยอยโอนได้ในปีนี้ส่วนหนึ่งประมาณ 100-200 ห้อง ที่เหลือก็จะโอนในปีหน้า
ส่วนโครงการแนวราบที่เปิดตัวไปในไตรมาส 3/57 สร้างยอดขายได้ดีมาก ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ รวมกว่า 400 ยูนิต ขายไปแล้ว 200 ยูนิตในเวลาแค่ 2 เดือน คาดว่าจะเริ่มโอนได้ในไตรมาส 4/57 ประมาณ 100 ยูนิต
ผู้บริหาร NCH คาดว่ายอดขายในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 3,200 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว 1,400 ล้านบาท และปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog)ที่จะทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท
ขณะที่รายได้ของบริษัทฯในปีนี้คาดว่าจะทำได้เกินกว่า 1,800 ล้านบาท แม้ว่าจะต่ำกว่าเมื่อตอนต้นปีที่คาดหวังว่าจะทำได้ 2,200 ล้านบาท เนื่องจากเจอกับปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้าง

** PRECHA คุณสมบัติพร้อมถูกเทคโอเวอร์
บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในคอมลัมน์ เด็กแนวเล่าหุ้น ว่า PRECHA หุ้นอสังหาขนาดเล็กที่รอดปากเหยี่ยม ปากกาไปได้ในขณะนี้เหลือกันอยู่ไม่มาก และมีจำนวนน้อยเช่นกันที่ราคาหุ้นจะต่ำกว่า Book value และแทบไม่น่าเชื่อว่าปรีชากรุ๊ป เป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติพร้อมคือ หนี้สินต่ำ กำไรสะสมดี และ PBV 0.89 เท่า หรือคิดเป็นมูลค่าทางบัญชีที่ 1.71 บาท ขณะที่ค่าเฉลี่ย PBV ของกลุ่มอสังหาตอนนี้ 1.7 เท่า ถ้าให้มูลค่าแค่ 1.5 เท่าของ Book จะวิ่งไปได้ถึง 2.50 บาทเลย ตัวเลขนี้มีความหมาย เพราะมันสะท้อนถึงราคาที่เหมาะสมของหุ้น และสะท้อนถึงค่าตัว หากมีใครจะเข้าซื้อกิจการก็ต้องเอาเลขเหล่านี้มาประเมินกันด้วย

** โบรกฯ ให้น้ำหนักอสังหาฯ แค่ Neutral
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า เรายังคงน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มที่อยู่อาศัยที่ Neutral แม้ระดับดัชนี Housing Demand Index จะมาถึงระดับที่สูงที่สุดในรอบ 15 เดือน แต่ยอด Presales และการเปิดโครงการใหม่ยังคงอ่อนตัว และเราคาด Presales ของกลุ่มจะลดลง 8% YoY นอกเหนือจาก Backlog ที่แข็งแกร่งเรายังไม่เห็นประเด็นบวกระยะสั้น และยังคงติดตามนโยบายภาษีที่ดินและการบังคับใช้ จากการทำ Scorecard และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2558 เราเลือกลงทุนใน SPALI ทั้งในระยะสั้นและยาว และปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน PS (เดิม Trading Buy เป็น Buy) และ LPN (เดิม Take Profit เป็น Buy)
โดยยังมีความเสี่ยงและความกังวล จากการได้ใบอนุญาตสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยเฉพาะจากโครงการคอนโดมิเนียมยังคงเป็นความเสี่ยงและเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลต่อประมาณการผลประกอบการของกลุ่ม ขณะที่เราเริ่มจับตาดูการแข่งขันที่คาดว่าจะรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้จากการเปิดโครงการจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้เรายังคงกังวลเรื่องสภาพคล่องและฐานะการเงินของผู้ประกอบการหากการส่งมอบหรือการควบคุมค่าใช้จ่ายไม่มีประสิทธิภาพ

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com