April 26, 2024   10:30:56 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > TPCHขายไฟ150MWเร็วขึ้น2ปี
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 21/01/2015 @ 08:23:12
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

TPCH ปรับแผนธุรกิจ ดันกำลังผลิตไฟฟ้าแตะ 150 MW ภายในปี 60 รับรู้รายได้เร็วขึ้นกว่าแผนเดิม 2 ปี ล่าสุด บ.ย่อย 2 แห่ง "พัทลุง กรีน เพาเวอร์"และ"สตูล กรีน เพาเวอร์"ได้รับใบ รง.4 เรียบร้อยแล้ว เดินหน้าก่อสร้างทันที รับรู้รายได้ปี 59 ส่วนปีนี้มั่นใจผลงานดี มีรายได้เพิ่มจากโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 แห่ง ขณะที่แผนระยะยาวเล็งผุดโรงไฟฟ้าชีวมวลครอบคลุม 14 จังหวัดภาคใต้ ด้านนักวิเคราะห์เชื่อกำไรในช่วง 4 ปีข้างหน้าทะยานโตด้วยอัตราเร่งสูง ฉลี่ย 152% ต่อปี

**"พัทลุง กรีน เพาเวอร์"และ"สตูล กรีน เพาเวอร์"ได้รับใบ รง.4เแล้ว
  นายเชิดศักดิ ์วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)หรือ TPCH เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัท พัทลุง กรีน เพาเวอร์จำกัด และ บริษัท สตูล กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน(รง.4) เรียบร้อยแล้ว

**ปรับแผนธุรกิจ ดันกำลังผลิตแตะ 150 MW ภายในปี 59 เร็วขึ้นกว่าเดิม 2 ปี
  กรรมการผู้จัดการใหญ่ TPCH ระบุเพิ่มเติมอีก ว่าบริษัทได้ปรับแผนในการดำเนินธุรกิจใหม่ ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ เร็วขึ้นกว่าแผนเดิมถึง 2 ปี ขณะที่โรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท สตูล กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าเสนอขาย 9.2 เมกะวัตต์ ที่จ.สตูล และบริษัท พัทลุง กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าเสนอขาย 9.2 เมกะวัตต์ ที่จ.พัทลุง ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง. 4) เรียบร้อยแล้วและปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก โรงไฟฟ้าชีวมวลที่ จ.สตูล และจ.พัทลุง ในปี 2559 ส่วนโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ จ.ปัตตานี ของบริษัท ปัตตานี กรีน จำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
  “โรงไฟฟ้าชีวมวลที่พัทลุงและสตูล ได้รับรง.4 แล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม และวันที่ 24 ธันวาคม 2557 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวทันที โดยพัทลุง จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 1 ปีนี้ และรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปีหน้า สตูล เริ่มการก่อสร้างไตรมาส 2 ปีนี้ และรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2559 ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ COD เพิ่ม 3 โรงคือที่แม่วงก์ นครสวรรค์ , ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร และที่ทุ่งสัง จ.นครศรีธรรมราช ดังนั้นจะส่งผลให้ในปี 2558 บริษัทมีกำลังการผลิตเท่ากับ 40 เมกะวัตต์ และแผนเดิมที่เคยบอกว่า 5 ปี ข้างหน้าจะมีกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ก็จะเร็วขึ้นคือมีกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ภายใน 3 ปีข้างหน้าหรือเร็วขึ้นกว่าแผนเดิมถึง 2 ปี ”

**จ้องเทคโอเวอร์ 5 โครงการโรงไฟฟ้า สนใจลงทุนขยะ
  บริษัทกำลังเดินหน้าศึกษาและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าหลายแห่งในภาคใต้และศึกษาโครงการเพื่อเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษาเข้าซื้อกิจการประมาณ 5 โครงการ นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินธุรกิจที่บริษัทได้ตั้งเป้าหมายไว้คือเข้าซื้อกิจการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทั้งในและต่างประเทศ

**เป้าหมายมีโรงไฟฟ้าชีวมวลครอบคลุม14 จังหวัดใต้
  นายเชิดศักดิ์ กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด และหุ้นของ TPCH มีความคุ้มค่าแก่การลงทุนด้วยปัจจัยสนับสนุนที่ประกอบด้วย 1.แผนธุรกิจที่ชัดเจนในการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 10 เมกะวัตต์ เป็น 150 เมกะวัตต์ ภายใน 3 ปี และ 2.การสนับสนุนจากรัฐบาลโดยกำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบใหม่เป็นระบบ Feed in Tariff อย่างไรก็ตาม บริษัทยังตั้งเป้าหมายที่จะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัด ของภาคใต้ เนื่องจากมีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างดี

**บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ“ซื้อ” ราคาเหมาะสม 17.40 บาท
  บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดเผยในบทวิเคราะห์ว่า TPCH ควบคุมความเสี่ยงในการดำเนินการได้เบ็ดเสร็จ ทำให้กำไรมีเสถียรภาพที่ดี   คาดกำไรสุทธิขยายตัวเฉลี่ย 152% CAGR ระหว่างปี 2557-61
  โดย กำไรสุทธิของ TPCH จะค่อยๆเร่งตัวขึ้นตลอด 4 ปีข้างหน้า จากกำลังการผลิตใหม่ที่ทยอยเข้ามา +25.2 MW ในปี 2558, +18.4 MW ในปี 2559 และ +42.0 MW รวมเป็น 94.8 MW ในปี 2560 ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิจะทะลุผ่าน 1 พันล้านบาทในปี 2561 จากเพียง 12 ล้านบาทในปี 2556 ซึ่งเราพบว่า ณ สิ้นปี 2560 หลังโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล จ.ปัตตานี แล้วเสร็จ ระดับ D/E ยังคงต่ำเพียง 1.2 เท่า เพียงพอที่จะเติบโตไปกับเป้ากำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลของทางการที่ 4,800 MW (สัดส่วนสูงสุด 34% เทียบกับโรงไฟฟ้าประเภทอื่นๆ) เรามองว่าโรงไฟฟ้าประเภทนี้จะยังคงเป็นแกนหลักของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนสำหรับแผน PDP ฉบับใหม่ที่จะออกมาอีกด้วย ให้ราคาเหมาะสม 17.40 บาท/ หุ้น

**หวังปันผลได้ทันที
  บล.เคเคเทรด ระบุถึง TPCH ว่ามีความน่าสนใจจาก กำไรสุทธิปี 2558 ที่เราคาดว่าจะเติบโต 359% จาก 3 โครงการที่จะเริ่มทยอยเดินเครื่อง มีการจ่ายเงินปันผลได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าทำการซื้อขาย เราคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลได้ในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น
  ด้านบล.ทรีนิตี้ ระบุว่า โครงการ PTG ขนาด 42 MW ซึ่งเป็น upside สำคัญในระยะยาว (ไม่รวมอยู่ในราคาเป้าหมายในปัจจุบัน) เนื่องจาก โครงการนี้ตั้งอยู่ในเขต 3 จังหวัดภาคใต้ จึงได้รับค่า FiT Premium พิเศษ 0.50 บาทต่อหน่วยตลอดอายุโครงการ



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com