April 27, 2024   1:25:54 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > KBANKแกร่ง-กำไรQ1แตะ1.2 หมื่นลบ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 31/03/2015 @ 08:44:45
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกฯคาด KBANK ประเดิมประกาศงบ Q1/58 โกยกำไร 1.2 หมื่นล้านบาท โต 22% จาก Q4/57 และโต 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มองจุดเด่นเป็นธนาคารที่ยังเติบโตได้ดี ท่ามกลางเศรษฐชะลอตัว จากสินเชื่อสองเดือนแรกที่โตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งที่ 2% เทียบกับกลุ่มธนาคารที่โตแค่ 0.1% แถมมี ROE สูงเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่ม และสามารถกระจายพอร์ตได้ดี งานนี้กูรูพร้อมใจตบเท้าเชียร์ซื้อ ให้ราคาเหมาะสมตั้งแต่ 240-280 บาท ประเมินปี 58 กำไรเติบโต 8.6% แม้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นช้ากว่าคาด


หลังจากจบไตรมาส 1/58 กลุ่มธุรกิจที่จะประกาศผลการดำเนินงานเป็นกลุ่มแรกก็คือหุ้นกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ ที่คาดว่าจะเริ่มทยอยประกาศงบการเงินไตรมาสแรก ช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ถือเป็นเสือปืนไว ที่ออกมาให้ข้อมูลกับนักวิเคราะห์เป็นแห่งแรก ซึ่งมุมมองของนักวิเคราะห์แต่ละโบรกเกอร์ที่มีต่อ KBANK ออกมาเป็นที่น่าพอใจ แม้บางแห่งจะปรับประมาณการและราคาเป้าหมายลงบ้าง ตามแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่โดยภาพรวมแล้ว ยังมีมุมมองที่ดี เนื่องจากส่วนใหญ่เห็นว่า KBANK จะเป็นธนาคารที่ยังสามารถเติบโตได้ดี ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การันตีจากตัวเลขการปล่อยสินเชื่อช่วง 2 เดือนแรก ที่โตกว่าภาพรวมของกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่สามารถกระจายพอร์ตสินเชื่อได้ดี และยังเป็นแบงก์ที่มี ROE สูงเป็นอันดับต้นๆของกลุ่ม
โดยผู้สื่อข่าว eFinanceThai ได้รวบรวมบทวิเคราะห์จาก 9 โบรกเกอร์ ประมาณการกำไรสุทธิของ KBANK ใกล้เคียงกันที่ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมกับคำแนะนำซื้อหุ้น KBANK ถึง 7 โบรกฯ ขณะที่อีก 2 โบรกฯ แนะนำ ถือ ด้วยราคาเป้าหมายระหว่าง 240-280 บาท ซึ่งยังมี Upside จากราคากระดานที่ล่าสุดปิดการซื้อขายที่ 227 บาท

** คาดกำไรโค้งแรก 1.2 หมื่นลบ.
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประมาณการกำไร 1Q58 ของ KBANK เท่ากับ 12.2 พันล้านบาท (+2.5%YoY และ +22.8%QoQ) โดยมาจากสินเชื่อที่ขยายตัว (คาดสินเชื่อ 1Q58 โต 7%YoY และ 2%QoQ มาจากสินเชื่อ Corporate และ SME), NIM แข็งแกร่งเพราะต้นทุนการเงินต่ำลง และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่ำลงจาก 4Q57
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดผลประกอบการ 1Q58 เติบโต 4%YoY ไปอยู่ที่ 1.24 หมื่นล้านบาท สนับสนุนจากความต้องการสินเชื่อเพื่อภาคธุรกิจและรายได้ค่าธรรมเนียมของลูกค้ารายย่อย??NIM น่าจะปรับตัวลงเล็กน้อย หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ขณะที่ credit cost คาดจะสูงถึง 102bps พร้อมระดับ NPLs ratio ที่สูงที่ 2.4%
บล.กรุงศรี คาดการณ์กำไรสุทธิงวด 1Q58 ที่ 12.7 พันล้านบาท เติบโต 6%YoY และ 27%QoQ จาก 1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ 2) รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิขยายตัว และ 3) ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ที่ปกติแล้วธนาคารจะมีค่าใช้จ่ายพนักงาน และค่าใช้จ่ายการตลาดสูงสุดของปีในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยคาดว่า NIM จะอ่อนตัว QoQ ที่ 3.82% จาก 3.86% ใน Q4 ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และ cost to income ปรับลดลง QoQ ที่ 42.3% ล้อกับค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่ลดลง
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาสที่ 1/58 ของ KBANK จะอยู่ที่ 1.22 หมื่นล้านบาท (+2.5% YoY, +23% QoQ) เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาสที่ 1/58 มาจากสินเชื่อธุรกิจเป็นหลักซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำ โดยเติบโตถึง +6% YTD (ในขณะที่กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่าง SME โตแค่ +2% และกลุ่มรายย่อยก็ติดลบเล็กน้อย) และมีการปรับลดดอกเบี้ยซึ่งไม่ได้คาดเอาไว้ จึงทำให้เราคาดว่า NIM จะลดลงประมาณ 8-10 bps เหลือ 3.7% (จาก 3.8% ในปี 2557) มีเพียงรายได้จากค่าธรรมเนียมเท่านั้น (ส่วนใหญ่มาจากธุรกรรม bancassurance และบัตรค่าเครดิต) ที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่างที่ >10% ซึ่งช่วยหนุนให้รายได้จากการดำเนินงานโต 9% YoY ในไตรมาสที่ 1/58 แต่อย่างไรก็ตาม KBANK มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มีการตั้งสำรองหนี้เสียมากกว่าปกติเพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินเชื่อ SME ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1/58 จะอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (+2.5% YoY, +23% QoQ)
บล.ทรีนีตี้ คาดกำไรสุทธิสำหรับ 1Q58 ของ KBANK ที่ 12,240 ล้านบาท ฟื้นตัวดีขึ้น 23%QoQ และ 3%YoY โดยคาดสินเชื่อจะเติบโตราว 1.7%QoQ แม้ว่าจะลดลงจากรายงานตัวเลขสินเชื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมาเนื่องจากอาจมีการชำระคืนสินเชื่อหมุนเวียนระยะสั้นของธุรกิจขนาดใหญ่บ้าง อย่างไรก็ตามยังเป็นระดับการเติบโตที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่ม ด้าน NIM คาดว่าจะอ่อนตัวลงตามการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่ช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือนที่ผ่านมาทำให้ยังเห็นผลกระทบในไตรมาสนี้ไม่มากนัก โดยเราคาด NIM จะลดลงราว 7 bps มาอยู่ที่ 3.77%
สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยคาดทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน แต่ปัจจัยหนุนสำคัญในไตรมาสนี้คาดว่าจะมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง หลังจากในช่วงปลายปีเพิ่มสูงขึ้นตามฤดูกาล เราคาดว่า Cost-to-income ratio ในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ราว 43% จากไตรมาสก่อนที่สูงถึง 51% ทั้งนี้ด้วยเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนักทำให้อาจเห็นแนวโน้ม NPL เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ราว 2.2-2.3% โดยธนาคารอาจรักษาระดับสำรองหนี้สูญไว้ในระดับสูงใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนที่ Credit Cost ราว 100 bps
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดกำไรสุทธิ 1Q58 ของ KBANK อยู่ที่ 11.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% q-q แต่ลดลง 7% y-y จากการที่รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และค่าใช้จ่ายลดต่ำลงจาก 4Q57 จากปกติที่ไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ธนาคารทั่วไปมีค่าใช้จ่ายสูง ถึงแม้ว่าในไตรมาสนี้ทางฝ่ายคาดว่า KBANK จะมีการตั้งสำรองเพิ่มสูงขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายที่ปรับลดลงมากกว่าจะทำให้กำไรสุทธิยังเติบโตได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับ 1Q57 คาดว่ากำไรสุทธิของ KBANK จะลดต่ำลง 7% y-y เนื่องจากคาดว่ารายได้จากอัตราแลกเปลี่ยนจะลดต่ำลง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าจะมีการตั้งสำรองเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ด้วยเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวอาจจะทำให้ใน 1Q58 KBANK มี NPL เพิ่มสูงขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2557 ที่มีอยู่ 2.24% ซึ่งทำให้ KBANK จะมีการตั้งสำรองเพิ่มสูงขึ้นใน 1Q58 เป็น 3.93 พันล้านบาท จากไตรมาสก่อนที่มีการตั้ง 3.89 พันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามระดับ NPL ที่เพิ่มสูงขึ้นยังอยู่ในกรอบที่ KBANK ตั้งเป้าว่าจะควบคุม NPL ให้อยู่ในกรอบ 2.2 - 2.3%
ส่วนบล.ทิสโก้ คาดผลประกอบการ 1Q15 ของ KBANK ที่ 1.23 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY จากสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง และ CoF ที่ลดลงจะทำให้ NII เติบโตได้ในระดับ 2 หลัก และลดผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น Non-NII ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 1Q15 อาจต่ำกว่าเป้าทั้งปี จากค่าธรรมเนียที่เติบโตขึ้นน้อยกว่าคาด และการลดดอกเบี้ยที่ผ่านมาจะกระทบ NIM ในช่วง 1Q15 แต่ผลกระทบจริงจะอยู่ในช่วง 2Q15 และผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น 24% QoQ จะมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลงตามฤดูกาล

** สินเชื่อ 2 เดือนแรก โตมากกว่ากลุ่ม
บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ในการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารของ KBANK ให้ภาพผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1/58 ที่มีทั้งด้านบวกและลบ โดยในด้านบวกนั้น สินเชื่อสองเดือนแรกของปีนี้ยังคงเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งที่+2% (เทียบกับกลุ่มธนาคารที่โตแค่ +0.1% เท่านั้น) รายได้ค่าธรรมเนียมน่าจะโตในระดับสองหลักต้นๆ สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ <45%
ส่วนในด้านลบ NIM ถูกกดดันจากการปรับลดดอกเบี้ยในไม่ได้คาดเอาไว้ล่วงหน้า และค่าใช้จ่ายกันสำรองที่เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100 bps (เทียบกับเป้าหมายเฉลี่ยที่ 95 bps)

** ROE สูงเป็นอันดับต้นๆ - กระจายพอร์ตดี
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่าKBANK มีการกระจายของพอร์ตสินเชื่อและฐานลูกค้าที่ดี ( (30% corporate, 38% SME และ 26% retail) และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยขยายตัวแกร่งคุณภาพสินทรัพย์ดี ทำให้ธนาคารมี ROE สูงอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับ บล.ทรีนีตี้ ที่มองว่าจุดเด่นของธนาคาร คือ การเติบโตที่ต่อเนื่องทั้งในช่วงที่เศรษฐกิจดีและไม่ดี และความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น ROE สูงเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่ม
ขณะที่ บล.ซีไอเอ็มบี ระบุ ว่า KBANK มีสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ และการกระจายพอร์ตโฟลิโอที่ดี

** กรุงศรี-กิมเอ็ง คาดสินเชื่อปีนี้โต 7% ต่ำกว่าเป้าแบงก์ที่ 8-9%
บล.กรุงศรี ระบุว่าผลกระทบจากการปรับลดเป้าหมายสินเชื่อปี 58-59 ของเราลงเหลือ 7%YoY ทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 58 ลดลง 1% เหลือ 50.4 พันล้านบาท (+9.1%YoY) และปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 59 ลดลง 2% เหลือ 54.6 พันล้านบาท (+8.4%YoY) โดยการเติบโตของกำไรจะยังคงมาจากการขยายตัวต่อเนื่องของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ค่าธรรมเนียม และการเติบโตจากธุรกิจประกันชีวิตที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญต่อกำไรเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" จากมุมมองบวกต่อการเติบโตของกำไรที่มีคุณภาพ คุณภาพสินเชื่อแข็งแกร่ง แต่ได้ปรับลดมูลค่าพื้นฐานจากเดิม 263 บาท เป็น 262 บาท ล้อกับการปรับลดกำไรสุทธิลง อิงจาก Prospective P/BV ลงที่ 2.1 เท่า (ROE 18%, Ke ที่ 12.8%)
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า KBANK ปรับลดประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้ลงเป็น 2.8% จาก 4.0% จากการฟื้นตัวอย่างช้าของภาคการบริโภคเอกชน และการส่งออกที่อ่อนแอจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยธนาคารตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 8-9% ในปีนี้ เทียบกับคาดการณ์ของเราที่ 7%

** คงคาดการณ์กำไรปี 58 ที่ 4.8 หมื่นลบ.
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ของ KBANK ไว้เหมือนเดิมที่ 48.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% y-y โดยที่ยังคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมของ KBANK จะเติบโตได้ ประกอบกับคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ประมาณ 10% และทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นด้วย คาดว่า KBANK จะมีการจ่ายปันผลจากผลประกอบการปี 2558 จำนวน 4.25 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 1.9%
ส่วนปี 2557 KBANK ประกาศจ่ายปันผล 4 บาท/หุ้น โดยมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.50 บาท/หุ้น เหลือปันผลครึ่งปีหลังอีก 3.50 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 1.5% โดยจะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 9 เม.ย. และจ่ายวันที่ 30 เม.ย. 2558

** ตบเท้าเชียร์ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 240-280 บ.
โบรกเกอร์ แนะนำ เป้าหมาย (บ.)
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ถือ 240
ดีบีเอส วิคเคอร์ส ซื้อ 280
กรุงศรี ซื้อ 262
เคจีไอ ซื้อ 250
ทรีนีตี้ ซื้อ 255
ซีไอเอ็มบี ซื้อ 255
ฟิลลิป ซื้อ 255
เคที ซีมิโก้ ซื้อ -
ทิสโก้ ถือ 246

ที่มา : eFinanceThai รวบรวม



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com