สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่3(F45-1)
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ก่อนสอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2548 2547 2548 2547

กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 4,816,214 4,632,908 16,392,991 12,245,212
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 2.52 2.43 8.59 6.42

หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ

ลงลายมือชื่อ _______________________
( )
ตำแหน่ง
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

บริษัท มหาราช แพลนเนอร์ จำกัด
ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท นครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน)

วันที่ 18 ตุลาคม 2548

เรื่อง แจ้งความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการ

เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์) กำหนดให้บริษัท
ที่อยู่ในหมวด REHABCO ต้องมีการรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาฐานะทาง
การเงินและการฟื้นฟูกิจการทุกๆ 6 เดือน เพื่อตลาดหลักทรัพย์จะได้พิจารณาทบทวน
สถานะของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในหมวด REHABCO ซึ่งต่อมาบริษัท นครไทยสตริปมิล
จำกัด (มหาชน) (บริษัท)พ้นเหตุเพิกถอนเนื่องจากบริษัทได้ดำเนินการครบถ้วนตาม
แนวทางและข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ และหลักทรัพย์ของบริษัทได้ย้ายกลับไปสู่
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดวัสดุก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2548
นั้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันบริษัทจะพ้นเหตุเพิกถอนและย้ายกลับสู่หมวดอุตสาหกรรม
ปกติแล้วก็ตาม บริษัทยังคงมีหน้าที่รายงานความคืบหน้าทางการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟู
กิจการ เนื่องจากบริษัทยังคงอยู่ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการโดยมี บริษัท มหาราช แพลนเนอร์
จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ (ผู้บริหารแผน) ได้นำส่งรายงานแจ้งความ
คืบหน้าในการแก้ไขปัญหาฐานะทางการเงินและการฟื้นฟูกิจการครั้งล่าสุด
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2548

บัดนี้ ครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือนที่จะต้องรายงานความคืบหน้าดังกล่าวต่อ
ตลาดหลักทรัพย์ผู้บริหารแผนจึงขอแจ้งความคืบหน้าในการปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ดังต่อไปนี้

การระบุตัวเจ้าหนี้ผู้ถือตราสารที่แท้จริงเพื่อส่งมอบหุ้นเนื่องจากการแปลงหนี้เป็นทุน

ศาลล้มละลาย (ศาล) ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้บริหารแผนทำการระงับการ
ซื้อขายตราสาร และกำหนดกระบวนการและขั้นตอนเพื่อระบุตัวผู้ถือตราสารแท้จริง
เพื่อที่ผู้บริหารแผนจะได้ส่งมอบหุ้นบริษัทจากการแปลงหนี้เป็นทุนให้ผู้ถือตราสารที่แท้จริง
โดยมีความคืบหน้าในการดำเนินการดังนี้

1. ผู้ถือตราสารที่ระงับการซื้อขายตราสาร คิดเป็นร้อยละ 95.89 ของ
ผู้ถือตราสารทั้งหมด
2. ผู้ถือตราสารที่ระงับการซื้อขายตราสารข้างต้นได้ส่งมอบเอกสารครบ
ถ้วนแล้ว คิดเป็นร้อยละ 95.20 ของผู้ถือตราสารทั้งหมด และผู้บริหารแผนได้ดำเนิน
การส่งมอบหุ้น บริษัทจากการแปลงหนี้เป็นทุนให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คิดเป็นร้อยละ 95.17
ของผู้ถือตราสารทั้งหมด และอยู่ในระหว่างการดำเนินการส่งมอบหุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.03
ของผู้ถือตราสารทั้งหมด


จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและโปรดเผยแพร่ให้ทราบโดยทั่วกัน

ขอแสดงความนับถือ


(นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง)
กรรมการ
บริษัท มหาราช แพลนเนอร์ จำกัด
ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท นครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน)

.000b

[quote:71ada91a98=ส้ม">.000b[/quote:71ada91a98"> .0009 .0003

tmb น่าสนเหมือนกันนะเนี่ย .0007 .0003

วันที่ 19 ตุลาคม 2548

ที่ TDT 51/2548

เรื่อง แจ้งชี้แจงข้อมูลการขายหุ้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง และการปฏิเสธไม่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน
141,905,000 หุ้น ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2548
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 141.905 ล้านหุ้น
(หรือร้อยละ 26.25 ของทุนชำระแล้วหลังการเพิ่มทุนดังกล่าว) ให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้น 3 ราย กล่าวคือ
นางสาวลลิต เด่นดวงฤดี นายชาญชัย เด่นดวงฤดี และนางสาว Yan Wai Man ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นรายการ
ที่เกี่ยวโยงกันตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น

บริษัทขอเรียนชี้แจงว่าในวันที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาและมีมติจัดสรรหุ้นให้กลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าว
นางสาวลลิต เด่นดวงฤดีและนายชาญชัย เด่นดวงฤดี ไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทแต่ประการใด เนื่องจาก
การถือหุ้นของบุคคลทั้งสองดังกล่าวรวมกับผู้ถือหุ้นที่อาจพิจารณาว่าเป็นกลุ่มเดียวกันถือหุ้นไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของทุน
ชำระแล้วของบริษัท แต่อย่างไรก็ตามในวันที่ที่มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2548 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2548
นางสาวลลิต เด่นดวงฤดีและนายชาญชัย เด่นดวงฤดี มีฐานะเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท
(ซึ่งถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วของบริษัท) โดยอาจเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันที่บริษัทจะต้อง
ดำเนินการตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรายการที่บริษัทจะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ
บริษัท อนึ่ง บริษัทขอเรียนชี้แจงสาเหตุการลดลงของจำนวนหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 29 เมษายน 2548 ที่
ทำให้รายการดังกล่าวได้รับการพิจารณาว่าเป็นการทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน เนื่องจากในช่วงระหว่างเดือน
สิงหาคมกับเดือนกันยายน 2548 กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้มีการรับโอนหุ้นมาจากนางสาว Yan Wai Man และมีการ
จำหน่ายหุ้นของกลุ่มตนไปในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้จำนวนหุ้นที่กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าวถือหุ้นลดลง
น้อยกว่าร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วและในที่สุด ณ วันที่ 2 กันยายน 2548 กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าวถือหุ้นคิดเป็น
จำนวนร้อยละ 4.23 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ทำให้ไม่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทต่อไป ซึ่งในที่ประชุมคณะ
กรรมการของบริษัท ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2548 คณะกรรมการได้ตรวจสอบข้อมูลของกลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าวอีกครั้งในที่
ประชุมแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทขอเรียนเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2548 บริษัทได้รับการแจ้งปฏิเสธไม่จองซื้อหุ้นเพิ่ม
ทุนทั้งหมดจากกลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าว เนื่องจากระยะเวลาในการดำเนินการและค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทจะต้อง
จัดการประชุมคณะกรรมการเพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวและพิจารณาการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวใหม่โดยบริษัทจะแจ้ง
ผลการประชุมให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและนักลงทุนทราบต่อไป

อนึ่ง บริษัทไม่มีความประสงค์จะดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการขัดแย้งกับข้อบังคับและประกาศของตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาและดำเนินการให้เป็นไปตาม
แนวทาง ข้อบังคับและประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้นต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ
บริษัท ไทยเกรียงกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)



(นางผการัตน์ วิสุทธิมรรค)

กรรมการผู้จัดการ

ที่ 97/2548

19 ตุลาคม 2548

เรื่อง รายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเพื่อฟื้นฟูกิจการ
สำหรับงวด ตั้งแต่ 1 เมษายน 2548 ถึง 30 กันยายน 2548

เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่ บริษัทฯ ได้เข้าฟื้นฟูกิจการ ในหมวด REHABCO และต้องรายงานความคืบหน้าในการ
ฟื้นฟูกิจการต่อตลาดหลักทรัพย์ นั้น บริษัทฯ ขอรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา ดังนี้

1.บริษัทฯ ยื่นขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2548
2.เจ้าหนี้ลงมติเห็นชอบกับแผนที่ยื่นขอแก้ไขเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2548 ด้วยคะแนนเสียง ร้อยละ 87.30
3.สาระสำคัญของแผนฟื้นฟูกิจการที่ผ่านความเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลางและดำเนินการตามแผน มีดังนี้

แผนฟื้นฟูกิจการที่ขอแก้ไขเพิ่มเติม การดำเนินการตามแผน
1. บริษัทฯ แปลงหุ้นบุริมสิทธิที่เหลือ วันที่ 31 มีนาคม 2548 -เสร็จเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2548
จำนวน 4,334,700 หุ้น เป็นหุ้นสามัญ จำนวน 4,334,700 หุ้น
ในอัตรา 1 หุ้นบุริมสิทธิ : 1 หุ้นสามัญ มูลค่าหุ้นละ 10.00 บาท

2. แปลงหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวนที่เหลือ วันที่ 31 มีนาคม 2548 -เสร็จเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2548
จำนวน 45,592 หุ้น เป็นหุ้นสามัญในอัตรา 1 หุ้นกู้:100 หุ้นสามัญ
มูลค่าหุ้นละ 10.00 บาท

3. บริษัทฯ ทำการลดราคาพาร์ จากเดิมราคาหุ้นละ 10.00 บาท -จดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 15
เป็นราคาหุ้นละ 1.00 บาท ทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว มิถุนายน 2548
จำนวน 61,985,800 บาท

4.บริษัทฯ เพิ่มทุนจาก 61,985,800 บาท เป็น 185,957,400 บาท - รับชำระค่าหุ้นเมื่อวันที่ 4-7 ก.ค2548
ซึ่งเป็นการเพิ่มทุนในส่วนของการจำหน่ายหุ้นสามัญใหม่เพิ่มทุน จำนวน - ออก warrant ให้ผู้ถือหุ้นเดิมเมื่อวันที่
61,985,800 หุ้น และหุ้นสามัญรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ 1 สิงหาคม 2548
61,985,800 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท โดย ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะ - จดทะเบียนเพิ่มทุนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่
ซื้อหุ้นสามัญนั้น เริ่มใช้สิทธิแปลงสภาพได้ ครั้งแรกในวันที่ 30 กันยายน กระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2548
2548
การเพิ่มทุนโดยให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่
ในราคาขายหุ้นละ 1.00 บาท ผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนจะได้รับ warrant โดย
ไม่คิดมูลค่าในสัดส่วน 1 ต่อ 1 ราคาใช้สิทธิ warrant 1 หน่วย
แปลงเป็นหุ้นสามัญ 1 หุ้น เท่ากับ 1.00 บาท การขอใช้สิทธิแปลง
warrant เป็นหุ้นสามัญ ผู้ถือหุ้นสามารถยื่นขอใช้สิทธิได้ทุกสิ้นไตรมาส
ระยะเวลาใช้สิทธิ warrant ภายใน 5 ปี นับแต่ วันที่ 16 พฤษภาคม
2548 โดย warrant จะเป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือหุ้น และไม่สามารถเปลี่ยนมือ
ได้ และ จะไม่นำมาเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์

5.เจ้าหนี้สถาบันการเงินที่มีประกัน จำนวน 225,922,878 บาท - ยังไม่มีการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนจาก
สามารถใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนที่ราคา 1 บาทต่อ 1 หุ้นสามัญ เจ้าหนี้สถาบันการเงินที่มีประกัน
ได้ทุกสิ้นไตรมาส ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2549

6. เจ้าหนี้สถาบันการเงินกลุ่มไม่มีประกัน จำนวน 15,178,921 - อยู่ระหว่างการขออนุมัติการออกหุ้นให้
บาท และหนี้แรงงาน จำนวน 46,310,295 บาท เป็นหุ้นสามัญ เจ้าหนี้กลุ่มนี้ จากคณะกรรมการ
แปลงหนี้ทั้งหมดเป็นทุน ที่ราคา 1 บาท ต่อ 1 หุ้นสามัญ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

7. เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้สถาบัน -จดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์เมื่อ
การเงินและเจ้าหนี้แรงงาน อีกจำนวน 287,412,094 บาท รวม วันที่ 8 กันยายน 2548
เป็นทุนจดทะเบียน 473,369,494 บาท

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 มีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวน 708,900 หุ้น ขอแปลงสภาพ
เป็นหุ้นสามัญ โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ในวันที่ 6 ตุลาคม 2548 ทำให้บริษัทฯ มีทุนจดเบียน
473,369,494 บาทและทุนชำระแล้ว จำนวน 124,680,500 บาท

จึงเรียนมาเพื่อแจ้งแก่นักลงทุนต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
บริษัท ไทยฮีท รีไววัล จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ
บริษัท ไทยฮีทเอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด (มหาชน)



นายสุรินทร์ วรรณเพ็ญสกุล
กรรมการ

ฟฟฟฟ3 .0008 .0005 .0009 .0009

ต้องซื้อที่ราคา90แล้วไหมครับ .0007 .000b