ตลท.เผยพร้อมเข้าตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่-เครือญาติ"โซลาร์ตรอน" หลังพบทำรายการก่อนแจ้งงบ Q1/59 ขาดทุน พร้อมจี้บริษัทชี้แจงการแก้ไขงบจากขาดทุน 21 ล้านบาท เป็นขาดทุน 2.6 แสนบาท หลังบริษัทอ้างบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนผิดพลาด-กรรมการตรวจสอบท้วงติง ระบุต่อไปจะสอบทานงบให้ละเอียด พร้อมเพิ่มบุคลากรตรวจสอบ ด้านนักวิเคราะห์เตือนระมัดระวังการเก็งกำไร เหตุไม่แน่ใจผลประกอบการในอนาคต

*** ผจก.ตลท.เผยพร้อมเข้าตรวจสอบการซื้อขายหุ้น
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยในกรณี การซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) (SOLAR) นับตั้งแต่ช่วงมีการประกาศงบ Q1/59 ออกมาขาดทุนว่า เป็นเรื่องที่ทางตลท.ให้ความสำคัญและมีการตรวจสอบทุกกรณี หากพบสิ่งปกติ ทางตลท.จะดำเนินตามขั้นตอน
ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า นายนริศ จิระวงศ์ประภา ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ที่เพิ่งลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทเมื่อต้นปี รายงานต่อ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ว่า ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นจากระดับ 6.62% เหลือ 4.63% เท่านั้น
และล่าสุด นายพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เพิ่งจำหน่ายหุ้น SOLAR ออกไปในวันที่ 16 พ.ค. สัดส่วน 4.05% ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงจาก 18.61% เหลือเพียง 14.58% โดยวันที่ขายออกมายังเป็นวันเดียวกันกับที่ นายยรรยง ธรรมธัชอารี ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทโดยมีผลและแจ้งตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว

**จี้ SOLAR แจงการแก้ไขงบจากขาดทุน 21 ลบ. เป็นขาดทุน 2.6 แสนบ.
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เช้าวานนี้ (24 พ.ค.59) ตลท.ได้ทำหนังสือไปยัง SOLAR เช้าวันนี้ ให้ชี้แจงถึงการแก้ไขงบการเงินงวดไตรมาส 1/59 โดยก่อนหน้านี้วันที่ 13 พ.ค. 59 บริษัทแจ้งว่ามีผลขาดทุนสุทธิ 21.62 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นคือ 23 พ.ค. 29 มีการแก้ไขงบกลับมาเป็นขาดทุนสุทธิ 2.6 แสนบาท ซึ่งบริษัทได้ระบุว่าเกิดจากการปรับลดบันทึกผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนตามสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า โดยขณะนี้ตลท.รอให้ SOLAR ชี้แจงกลับมาเร็วที่สุดถึงสาเหตุที่มีการแก้ไขงบการเงินดังกล่าว
โดยเรื่องงบการเงินทุกบริษัทเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจสอบบัญชีที่เป็นคนรับรอง และทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะเป็นผู้ควบคุมดูแลผู้ตรวจสอบบัญชีเอง โดยทางตลท.มีหน้าที่รอคำชี้แจงจากบริษัท แต่ถ้าเป็นเรื่องผู้ตรวจสอบบัญชีต้องเป็นหน้าที่ของก.ล.ต.เป็นผู้ดำเนินการ
"ตลาดจะต้องรอ SOLAR ชี้แจงกลับมาก่อนว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือเจตนาตกแต่งงบหรือไม่ ซึ่งเราไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา แต่ต้องการให้เร็วที่สุด ซึ่งขึ้นอยู่กับความเร่งเร้าของแต่ละกรณี" นางเกศรา กล่าว

**SOLAR โร่อธิบาย อ้างบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนผิด
นางปัทมา วงษ์ถ้วยทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SOLAR ชี้แจงทันทีวานนี้ ว่า สาเหตุที่ต้องแก้ไขงบการเงินเกิดจากคณะกรรมการตรวจสอบได้มีการสอบถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่คณะกรรมการบริษัทฯ ได้รับรองงบการเงินและแจ้ง ตลท.ไปแล้ว เมื่อ 13 พ.ค.2559
ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้มีการตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่างๆ จนพบว่ามีการบันทึกค่าใช้จ่ายขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตามสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศซึ่งเป็นรายการที่แสดงอยู่ในค่าใช้จ่ายในการบริหาร เป็นรายการที่เกิดจากการคำนวณผิดพลาดในกระดาษทำการรายละเอียดในการคำนวณ
สืบเนื่องมาจากงบการเงินสำหรับปี 2558โดยปกติในการทำงานของบริษัท จะมีการคำนวณเปรียบเทียบ สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนที่ซื้อขาย กับอัตราแลกเปลี่ยน ณสิ้นงวดตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ทุกสิ้นงวด ซึ่งจากการตรวจสอบพบข้อผิดพลาดในการคำนวณในงวดสิ้นปี 2558 ซึ่งมีผลทำให้ ค่าใช้จ่ายขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตามสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ในงวดปี 2558ซึ่งบันทึกต่ำไปจำนวน 25.81 ล้านบาท มีผลให้ทำให้เกิดการบันทึกค่าใช้จ่ายขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตามสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศในงบการเงินไตรมาสที่ 1/2559 สูงไป จำนวน 25.81 ล้านบาทและได้มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมีแนวทางกำกับดูแลไม่ให้ผิดพลาดอีก โดยจะจัดให้มีการการสอบทานข้อมูล ในการคำนวณรายการต่างๆ ให้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน และจะเพิ่มบุคคลากรในการตรวจสอบการทำงานเพิ่มมากขึ้น และบริษัทฯ จะมีความรอบคอบและระมัดระวังในการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในอนาคต

**นักวิเคราะห์เตือนระมัดระวังการเก็งกำไร
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ให้มุมมองว่า การเข้าไปเก็งกำไร SOLAR อาจต้องระมัดระวัง เพราะแม้จะขาดทุนน้อยลง แต่ก็ยังเป็นขาดทุน รวมทั้งควรติดตามท่าทีจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ก.ล.ต. ว่าจะมีการให้บริษัทชี้แจงในเรื่องการแก้ไขงบการเงินหรือไม่ ประการสำคัญคือผลการดำเนินงานในอนาคต จะยังมีขาดทุนอยู่อีกหรือไม่