"ธนาคารกรุงไทย" ยอมรับสินเชื่อปีนี้ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้โต 3-4% หลังครึ่งปีแรกติดลบ 4-5% เบื้องต้นคาดปล่อยกู้ได้ใกล้เคียงปีก่อน หรือขยายตัว 0-3% ด้านผู้บริหารลั่นคุม NPL สิ้นปีไม่ให้เกิน 3.9% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.86% ขณะที่ปี 60 ตั้งเป้าดัน Coverage Ratio เป็น130% ด้านนักวิเคราะห์มองกำไรครึ่งปีหลังส่อแววอ่อนตัวลงต่อเนื่อง แถมกังวล NPL เพิ่มขึ้นอีก ให้ราคาเป้าหมายแค่ 18.2 บาท

** ยอมรับสินเชื่อปีนี้ส่อต่ำกว่าเป้า
นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า สินเชื่อของธนาคารปีนี้ที่ตั้งไว้ 3-4% มีโอกาสที่จะไม่ถึงเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าอาจจะขยายตัวที่ 0-3% โดยครึ่งปีหลังสินเชื่อจะขยายตัวจากสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อภาครัฐ ในขณะที่ครึ่งปีแรกสินเชื่อของธนาคารติดลบ 4-5% ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 4 ปีตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่ง
"สินเชื่อปีนี้ไม่น่าจะถึงเป้าแต่เรายังไม่ได้ปรับเป้าลงแต่อย่างใด แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีโอกาสที่สินเชื่ออาจจะไม่ขยายตัวเลย แต่ก็ยังมั่นใจว่าจะไม่ติดลบเหมือนธนาคารอื่นถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว และความเชื่อมั่นจะเริ่มฟื้นกลับมา แต่ยังไม่สามารถที่จะชดเชยต่อการขยายตัวของสินเชื่อได้ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังเราเห็นการเติบโตของสินเชื่อภาครัฐที่เริ่มกลับฟื้นมา และเอสเอ็มอีไซส์ M ที่มียอดขายตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป จะเห็นการเติบโต 2 หลัก"

**เผยจะคุม NPL สิ้นปีนี้ไม่ให้เกิน 3.9%
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ธนาคารเชื่อว่าสิ้นปีนี้จะควบคุม NPL ไม่ให้เกิน 3.9% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.86% ด้านสัดส่วนสำรองต่อ NPL หรือ Coverage Ratio ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวให้ขึ้นมาอยู่ 130% ในปีหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 103% โดยธนาคารจะมีวิธีในการเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวด้วยการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นแต่ก็จะกระทบต่อกำไรและการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ธนาคารจะต้องบาลานซ์เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งอาจจะเห็นการตั้งสำรองที่ยังเพิ่มขึ้น แต่ยังมั่นใจว่าผลประกอบการของธนาคารในปีนี้จะดีกว่าปี 58

** มั่นใจผลประกอบการปีนี้ดีจากตั้งสำรองลดลง
พร้อมกันนี้ประเมินว่ากำไรปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปี 58 จากการตั้งสำรองลดลง โดยการตั้งสำรองธนาคารในครึ่งปีหลังคาดว่าจะลดลง หลังเริ่มเห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้นของ NPL ในอัตราที่ชะลอลง สิ้นปี 58 ธนาคารตั้งสำรองไว้ทั้งสิ้น 7 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ปีนี้ธนาคารคาดว่าจะมีการตั้งสำรอง 8-9 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีการตั้งสำรองมาแล้ว 1.9 หมื่นล้านบาท
"NPL คาดว่าจะลดลงในครึ่งปีหลัง เพราะที่ผ่านมาเรามีขั้นตอนในการคัดกรองลูกค้าที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้ NPL ใหม่ไม่ได้ขยับแต่ยังมี NPL เก่าไม่ว่าจะเป็น SSI หรือสหฟาร์ม ซึ่งทั้ง 2 กรณีเราได้ตั้งสำรองไปหมดแล้ว และในส่วนของ SSI ได้ให้ความร่วมมือกับธนาคารในการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งอุตสาหกรรมเหล็กยังไม่ได้ฟื้นตัวอย่างที่คาด ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา"

** นักวิเคราะห์มองกำไรครึ่งปีหลังส่อแววอ่อนตัว
บล.บัวหลวง ระบุถึง KTB ว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีแนวโน้มมากขึ้นในครึ่งหลังของปี 2559 คาดว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะแตะถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 4/59 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในไตรมาส 1/60 จากภาวะของเศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งนี้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 24% YTD อยู่ที่ 9.4 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/59 หรือ 3.9% ของสินเชื่อ ซึ่งมาจากสินของบรรษัทและธุรกิจ SME
ขณะที่แนวโน้ม กำไรดำเนินงานไตรมาส 2/59 ลดลง HoH เนื่องจากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะลดลงจากจุดสูงสุดในไตรมาส 2/59 ที่อยู่ที่ 3.1% ในครึ่งหลังของปี 2559 ทั้งนี้เรายังคาดว่า KTB จะประกาศส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในปี 2559 ที่ 2.91% ด้วยอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ 49% ในปี 2559 จาก 44% ในปีที่แล้ว เราคาดว่า KTB อาจจะมีค่าดำเนินงานพิเศษสำหรับค่าใช้จ่ายของพนักงานและค่าการปรับปรุงสาขาในครึ่งปีหลัง 2559 ทั้งนี้ให้ราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 18.20 บาท