April 27, 2024   6:33:20 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > PTTตั้ง PTTOR คุมค้าปลีก-จ่อดันเข้าSET
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 21/11/2016 @ 08:48:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

PTT ปรับโครงสร้างธุรกิจ ตั้ง "บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด" หรือ PTTOR เป็นบริษัทแกนของกลุ่มดูแลธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก ยันจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ - ความคล่องตัวในธุรกิจน้ำมัน โชว์งบงวด 9 เดือนแรกของปี 59 มีรายได้ 3.5 แสนลบ. EBITDA 1.7 หมื่นลบ. - กำไรสุทธิ 13,577 ล้านบาท พร้อมเล็งขาย IPO ในอนาคต

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือPTT มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างธุรกิจ ปตท. โดยการโอนกิจการของหน่วยธุรกิจน้ำมัน รวมถึงสินทรัพย์และหนี้สินของหน่วยธุรกิจดังกล่าว ตลอดจนหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้แก่ บริษัท ปตท. ธุรกิจค้าปลีก จำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) และให้เป็นบริษัทแกน (Flagship Company) ของกลุ่มปตท. ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก

*** ยันไม่กระทบการเงินรวมของกลุ่ม
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ? หรือPTT เปิดเผยว่า ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างธุรกิจ ปตท. โดยการโอนกิจการของหน่วยธุรกิจน้ำมัน รวมถึงสินทรัพย์และหนี้สินของหน่วยธุรกิจดังกล่าว ตลอดจนหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้แก่ บริษัท ปตท. ธุรกิจค้าปลีก จำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) และให้ PTTOR เป็นบริษัทแกน (Flagship Company) ของกลุ่มปตท. ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก
โดยเบื้องต้นกำหนดสัดส่วนจำนวนหุ้นIPO ของPTTOR แล้ว และนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัท และที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติต่อไป ภายหลังการขายหุ้นIPO ทาง PTT ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของPTTOR อย่างน้อย 45%
PTTและPTTOR จะกำหนดหลักเกณฑ์การกระจายหุ้นอย่างชัดเจน เพื่อให้มั่นใจหุ้นIPOของPTTOR จะกระจายสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงมากที่สุด การโอนกิจการในครั้งนี้ ถือเป็นการปรับโครงสร้างของกลุ่มกิจการภายใต้การควบคุมเดียวกัน (Under Common Control) ของบริษัท ดังนั้นจึงไม่กระทบที่มีสาระสำคัญต่อภาพรวมของงบการเงินรวมของบริษัท ผลประโยชน์จากการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ จะทำให้PTTOR จะมีความคล่องตัวในการดำเนินงานและขยายกิจการเพิ่มขึ้น

*** แจงธุรกิจที่อยู่ใน PTTOR
สำหรับธุรกิจที่ถูกโอนย้ายเข้าไปอยู่ภายใต้บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด ประกอบด้วย
1.ธุรกิจน้ำมัน ประกอบด้วยค้าปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการทั้งในและต่างประเทศ ค้าเชิงพาณิชย์น้ำมัน แอลพีจี และเชื้อเพลิงอื่นๆ อาทิ จำหน่ายเชื้อเพลิงอากาศยาน จำหน่ายแอลพีจีในครัวเรือนและสถานีบริการ ฯลฯ จำหน่ายเชื้อเพลิงหล่อลื่นทั้งในและต่างประเทศ และบริหารโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจน้ำมัน อาทิ ด้านขนส่งหรือจัดเก็บ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ตอบสนองต่อลักษณะการเติบโตของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
2. ธุรกิจค้าปลีกด้านอื่นๆ และให้บริการด้านบำรุงรักษายานยนต์ จะครอบคลุมการบริหารค้าปลีกและงานขายภายใต้แบรนด์ ปตท. และอื่นๆ อาทิ คาเฟ่อเมซอน ฟิตออโต้ รวมถึงริเริ่มสร้างธุรกิจใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม แฟรนไชส์และโรงแรม

*** มีแผนดันหุ้นเข้าตลาด
การปรับโครงสร้างธุรกิจ ปตท.ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความชัดเจน โปร่งใสในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท.ในสายตาสาธารณชน อีกทั้งยังช่วยให้หน่วยธุรกิจน้ำมันมีความคล่องตัวในการดาเนินงาน และสามารถปรับตัวกับ สถานการณ์การแข่งขันที่สูงขึ้นได้ทันท่วงที ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ ปตท. PTTOR จะเป็นบริษัทแกน(Flagship Company) ในการประกอบธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกในอนาคต
โดยมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจะดำเนินการกระจายหุ้นสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกของบริษัทฯ ผ่านการลงทุนในหุ้นของ PTTOR แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) คณะรัฐมนตรี และที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ ปตท.

*** เปิดงบ 9 เดือนปี 59 กำไร 1.35 หมื่นลบ.
ผลดำเนินงาน งวด 9 เดือนแรกของปี 59 สิ้นสุดก.ย. 59 ของ PTTOR ภายหลังรับโอนกิจการ จะมีรายได้ขายและบริการ 353,613 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 27,678 ล้านบาท EBITDA 16,945 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 13,577 ล้านบาท

*** รับรายได้ปีนี้ต่ำกว่าปี 58 แต่มั่นใจปีหน้าสดใส แต่กำไรยังแจ่มเหตุมาร์จิ้นดีขึ้น
นายพิจินต์ อภิวันทนาพร ผู้จัดการฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผย ในงาน Opportunity Day เป็นผู้ให้ข้อมูล ว่ารายได้ปีหน้าจะสูงกว่าปี 2559 เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50-55 เหรียญต่อบาร์เรล จากปีนี้ที่คาดอยู่ที่ 40-42 เหรียญต่อบาร์เรล ตามความต้องการน้ำมันของโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ซัพพลายน้ำมันน่าจะมีการปรับตัวลดลงหากสหรัฐฯ คงมีการยังแทรกแซงการผลิตน้ำมันของตะวันออกกลาง
ส่วนรายได้ปีนี้ยอมรับว่าจะต่ำกว่าปี 58 ที่มีรายได้ 2.06 ล้านล้านบาท เนื่องจาก 9 เดือนแรกที่อยู่ 1.25 ล้านล้านบาท จากราคาน้ำมันปีนี้ต่ำกว่าปีที่แล้วที่เฉลี่ย 50 เหรียญต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิปีนี้จะสูงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีมาร์จิ้นที่ดีขึ้น โดย 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 7.55 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีกำไรสุทธิ 1.99 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ค่าการกลั่นมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าค่าการกลั่น (GRM) ตลาดสิงคโปร์ ปี 60 จะปรับตัวมาอยู่ที่ 6.6-7.7 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจาก 9 เดือนแรกของปี 59 อยู่ที่ 5.91 เหรียญต่อบาร์เรล

*** ไม่มีแผนออกหุ้นกู้ - ไร้ข้อสรุปโรงแรม - จ่อเดินเครื่องธุรกิจแบตเตอรี่
PTT ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่า ขณะนี้ไม่มีแผนกู้เงินในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีกระแสเงินสดที่สูงถึง 90,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาในการซื้อหุ้นกู้ต่างประเทศคืน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะซื้อคืนช่วงไหน ขณะที่ทั้งกลุ่มปตท. 9 เดือนมีกระแสเงินสดอยู่ที่ 3.4 แสนล้านบาท
ส่วนแผนการสร้างห้องพักในสถานีบริการน้ำมันปตท. ร่วมกับพันธมิตร ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเริ่มลงทุนได้เมื่อไร เพราะต้องรอให้ผลการศึกษามีผลได้ตามเป้าหมายที่บริษัทฯตั้งไว้ ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องเทคนิค โดยยืนยันว่าปตท. ไม่ได้มีการยกเลิกโครงการดังกล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าในการศึกษาลงทุนแบตเตอรี่ที่สหรัฐฯ พบว่าใกล้เริ่มดำเนินการผลิตแล้ว โดยช่วงแรกจะผลิตแบตเตอรี่ใช้สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com