*จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากจั่วหัวออกมาในทำนองนี้ แต่เผอิญเหตุการณ์เดิม ๆ เวียนมาบรรจบอีกรอบ จึงไม่มีทางเลี่ยงไปพูดอย่างอื่น ผนวกกับประเด็นดังกล่าวก็เชื่อมโยงกับสิ่งที่อีเมี้ยนปากมากอย่างอีฉันได้เกริ่นนำไว้เมื่อวันก่อน จึงอยากกระตุกต่อมความคิดของนักลงทุนอีกสักรอบ หลังจากนั่งบวกลบคูณหารอย่างละเอียดแล้วพบว่า “ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไปเป็นบ้อง..” นะซี

*เนื่องจากสิ่งที่ย้ำเมื่อวันก่อนเป็นการเม้าท์ถึงการทดสอบแนวรับ 1,620 จุดเป็นครั้งแรกเสียด้วย และในที่สุดก็บอกให้รู้ว่า นี่เป็นจุดพักขาลงชั่วคราวของการเล่นเที่ยวนี้ หลังมีแรงช้อนซื้อเข้ามาพยุงดัชนีไว้ในช่วงวินาทีสำคัญ ดัชนีถึงยืนปิดที่ 1,622.28 จุด ลบไป 12.70 จุด ด้วยมูลค่า 4.40 หมื่นล้านบาทแบบฉิวเฉียด โดยฝรั่งดองตัวแสบสาดหุ้นออกมาเนื้อ ๆ 2.55 พันล้านบาท ผสมผสานกับปอบผีฟ้าทิ้งออกมาอีก 1.50 พันล้านบาท ขณะที่เหล่านักเล่นคนอื่น ๆ ช่วยกันซื้อแบบสุดลิ่มทิ่มประตูก็ยังเอาไม่อยู่แบบนี้ มันหมายความว่าอะไรคะ

*งานนี้ถึงอย่าไปคิดอะไรให้รกสมอง เพราะเกมที่เล่นเที่ยวนี้มันเป็นจังหวะของการเข้าทำเร็ว ขนาดเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า หลายอย่างยังไม่เคลียร์! ราคาหุ้นถึงไหลลงไม่ยอมหยุดสักที “โมนิก้า” ถือเป็นความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนประเภทโลกสวย ส่วนคนที่ชอบเสียวเป็นชีวิตจิตใจ มันเป็นจังหวะของการโหนกระแส ซึ่งอาจมีจุดจบไม่สวยหรูเหมือนกันทุกรายนะคะ

*เหมือนกับในรายของ SCC กระชากขึ้นแล้วพักตัวในทันที จนหลายคนหลงเชื่อว่าหุ้นจะขยับขึ้นใหม่อีกรอบ พอหันหลังให้ปุ๊บ หุ้นไหลลงอย่างรวดเร็วปั๊บ “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตของการวัดใจอย่างแท้จริง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้มันเป็นเรื่องของพื้นฐานที่เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง หุ้นเลยทำดีสุดได้แค่ยืนปิดที่ 406 บาท บวกไป 2 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.13 พันล้านบาท พร้อมกับแสดงอาการอ่อนแอให้เห็นแบบนี้..เปิดตูดหนีก่อนเลยดีไหม?

*เช่นเดียวกับหุ้นเก็งกำไรพิมพ์นิยมอย่าง SUPER กระชากขึ้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนระหว่างวันขึ้นไปถึง 0.79 บาท พอถึงตอนปิดตลาดดันลงมานอนกองอยู่ที่ระดับ 0.73 บาท ลบไป 0.01 บาท หรือลงไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 597 ล้านบาท “โมนิก้า” เชื่อว่ามันเป็นผลมาจากมือที่มองไม่เห็นทำป่วนไม่เลิก บวกกับโปรเจกต์บางอย่างเจอโรคเลื่อนตลอดในช่วงที่ผ่านมา ภาพใหญ่ของหุ้นถึงดูไม่ดีเอาเสียเลยไงล่ะคะ

*ส่วนรายที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย “โมนิก้า” กลับพุ่งเป้าไปที่น้องไก่ CPF ประคับประคองตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 24.80 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.03 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่มีลุ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน เพราะเกมนี้เป็นจังหวะของการวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเดิมที่บริเวณ 26.50 บาทเป็นครั้งที่ 3 จึงเป็นช็อตที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดนะตัวเอง

*เหมือนกับกรณีของ VNT หลังจากลงไปแตะบริเวณ 24.50 บาท ต่อจากนั้นเด้งขึ้นมาเรื่อย ๆ จนขึ้นไปทำยอดไว้ที่บริเวณ 29 บาท ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวนเวียนมาแล้วทั้งหมด 2 ครั้ง ขณะที่วานนี้หุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 25.50 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 50 ล้านบาท “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า มันเป็นโมเมนต์ที่หุ้นพร้อมทะยานขึ้น แต่พวกเราไม่ทันสังเกตสิ่งที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น บวกกับทิศทางของหุ้นอยู่ในทรง double top ให้เห็นเต็มตาแบบนี้..น่ารักน่าลุ้นดีแท้นะคะ

*เช่นเดียวกับ AMATA น่าจะเป็นทีเด็ดที่แสดงความแข็งแกร่งให้เห็นทุกครั้งเมื่อมีโอกาส และเที่ยวนี้น่าจะถึงเวลาโชว์สกิลดังกล่าวเสียที หลังหุ้นลงมายืนปิดที่ 19.10 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 260 ล้านบาท ซึ่งเป็นการอ่อนตัวลงมาใกล้บริเวณจุดเด้งกลับแถวบริเวณ 18 บาท หากเที่ยวนี้เป็นการเด้งขึ้นด้วยวอลุ่มที่แน่นขนัด น่าจะได้เห็นการขึ้นไปสร้างฐานใหม่บริเวณ 21 บาท เจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ SCB หากมองโปรไฟล์ของหุ้นแบบเนื้อ ๆ ผลงานในช่วงไตรมาส 2 อาจมีปัญหา “โมนิก้า” ถึงพยายามให้มิตรรักแฟนเพลงมองจังหวะการลงทุนในหุ้นตัวนี้ให้ดี ๆ เพราะต่อจากนี้จะเป็นช่วงขาลงที่ยาวนานมาก ๆ จึงอย่าเอามือเข้าไปรับของร้อนหากไม่มีความไวมากพอ หลังหุ้นรูดลงอย่างต่อเนื่อง 6 วันติด จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 124 บาท ลบไป 4.50 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่า 2.37 พันล้านบาท เดี๊ยนบอกได้เลยว่า เต็มที่นี้คือเด้งแล้วลงต่อคะ

*เหมือนกับในรายของ JAS หากดูตามรูปเกมที่แสดงออกมาในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนต์ที่ทุกคนใส่เกียร์ถอยแบบสุดซอย หุ้นถึงไหลลงแบบ ไม่มีลิมิต..ชีวิตเกินร้อย “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองราคาหุ้นในช่วงต้นปีอยู่แถว 8.50 บาท ล่าสุดหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 4.96 บาท ลบไป 0.54 บาท หรือลงไป 9.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 323 ล้านบาท มันสื่ออะไรให้เห็นกันบ้าง..ลองไปคิดดูนะจ๊ะ