April 27, 2024   10:02:40 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดาน โมนิก้าและทีมงาน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 28/09/2018 @ 08:46:04
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน


*ดูเหมือนกระแสข่าวการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น คงเป็นเพียงสายลมพัดผ่านเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา จึงได้เห็นแรงเทขายออกมาอย่างหนัก จนดัชนีระหว่างวันถอยร่นลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,735.58 จุด หรือลงไปถึง 14 จุด หลุดห่างจากแนว 1,750 จุดให้นักเล่นเสียวไส้มากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะถูกบิลต์อารมณ์ให้กลับเข้ามาเก็บหุ้นอีกครั้งจากเป้าหมายวินโดว์เดรสซิ่ง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ค่อยจะถูกที่ถูกจังหวะเท่าที่ควรนะเจ้าคะ

*ประเด็นดังกล่าวสะท้อนเรื่องราวออกมาในมุมของมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง บวกกับพฤติกรรมของผู้ซื้อหลักก่อนหน้านี้เปลี่ยนไปเป็นผู้ขายหลักอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันกับสถานการณ์ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เป็นเรื่องของการวัดความไวมากกว่าเรื่องอื่น ภาพของการลงทุนเลยดูบูด ๆ เบี้ยว ๆ จากที่เคยเป็นอยู่ไงล่ะคะ

*ประเด็นที่ต้องคิดถัดมาคือ เมื่อดัชนีแสดงอาการผันผวนพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่เป็นมิตรกับนักเล่นสักเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนลดลง จึงไม่กล้าไล่ซื้อหุ้นในราคาสูงต่อไปเรื่อย ๆ ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวผันผวนต่อไปอีกระยะหนึ่ง เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับตั้งสติให้ดีก่อนซื้อหรือขายตามคนอื่นเจ้าค่ะ

*เนื่องจากการทิ้งตัวลงมายังจุดต่ำสุดบริเวณ 1,735.84 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,752.95 จุด บวกไป 3.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.34 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องการประลองกำลังของนักเล่นกลุ่มสถาบัน และเหตุการณ์ลักษณะนี้น่าจะเกิดให้เห็นบ่อยขึ้น จึงต้องรู้จักยับยั้งอารมณ์อยากซื้อ ๆ ขาย ๆ เพียงเพราะคิดเข้าข้างตัวเองว่า ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่านี้นะซี

*ตัวอย่างที่ดีสุดของบทเรียนในเที่ยวนี้คือ CPALL เพราะใครต่อใครก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถูกเหลือเกิน ! แต่ดันมีแรงเทขายออกมาไม่หยุดหย่อนสักที จนทำให้หุ้นที่เคยทำท่าขึ้นอีกรอบ กลายเป็นอยู่ในสภาพคอตกอย่างชัดเจน “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นความคุ้มค่าในการเอาตัวเข้าไปเสี่ยง หลังหุ้นทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ 69.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.07 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.98 พันล้านบาทนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BANPU ออกอาการเป๋ครั้งแล้วครั้งเล่า จนภาพของหุ้นอยู่ในลักษณะภูเขา 3 ลูกโค้งตัวลงอย่างชัดเจน “โมนิก้า” ถึงออกอาการไม่แฮปปี้สักเท่าไหร่ที่เห็นราคาหุ้นทรุดตัวลงมาปิด 19.20 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.58 พันล้านบาท หลังส่อให้เห็นโอกาสลงไปต่ำกว่าโลว์เดิมที่บริเวณ 18.50 บาทค่อนข้างสูง จึงต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อนลุยนะคะ

*คล้ายกับกรณีของปูนใหญ่ SCC โดนเทขายออกมาเป็นระยะจนเสียศูนย์ถึงทุกวันนี้ ล้วนมาจากเรื่องผลงานไม่เข้าตากรรมการที่นั่งอยู่หน้าสลอน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาความเสี่ยงของการเล่นหุ้นในเที่ยวนี้มากหน่อย เพราะดูจากทรงหุ้นแล้วไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ เลยอยากให้มองราคาปิดที่ 450 บาท ลบไป 2 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.39 พันล้านบาท เทียบกับจุดต่ำสุดครั้งก่อนแถว 430 บาท ถึงเวลาที่ต้องเข้าไปเล่นหรือยังจ๊ะ

*ในรายของ SELIC ดีดแรงเป็นม้าคึกมา 2 วันติดล่าสุดมาปิดที่ 2.84 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 7.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 48.11 ล้านบาท การปรับขึ้นในรอบนี้ค่อนข้างเซอร์ไพรส์สำหรับ “โมนิก้า” เพราะถึงแม้จะประโคมข่าวเรื่องผลงานครึ่งปีหลังโตเด่นหลังเข้าช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจหุ้นตัวนี้ก็ยังไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก เพราะกำไรครึ่งปีแรกยังต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอยู่มาก เรียกว่าผลงานยังไม่เข้าตากรรมการยังไงล่ะเจ้าคะ

*ส่วนในรายของ TRITN หลังจรดปากกาเซ็น MOU กับบิ๊กวงการก่อสร้างอย่าง “CRCC ถึงได้เห็นราคาหุ้นตอบรับจนกระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.46 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 6.98% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25.26 ล้านบาท ได้รับกระแสตอบรับแบบนี้เห็นทีจุดมุ่งหมายดันตัวเองขึ้นสู่ท็อปไฟว์บริษัทก่อสร้างชั้นนำเมืองไทยคงไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วนะเจ้าคะ… อิอิ

*ปิดท้ายกันที่ BWG ได้เห็นการไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่อง ล่าสุดปิดที่ระดับ 1.20 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 2.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 155.96 ล้านบาท ด้วยสัญญาณเทคนิคที่ยังหนุนเป็นขาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากราคาวิ่งทะลุแนวต้าน 1.30 บาท ได้มีโอกาสได้เห็นหุ้นตัวนี้วิ่งอีกยาว ใครที่อยากจะติดขบวนก็ยังไม่สายเพราะยังมีแก๊ปให้เคาะตามอยู่อีกเจ้าค่ะ

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com