ตลาดลงตามภูมิภาค มีปัจจัยกดดันที่จีนอาจออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯหลายรูปแบบ หลังสหรัฐฯปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ จาก 10% เป็น 25% บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

มากสุดคือ สินค้าโภคภัณฑ์ (พลังงานและปิโตรเคมี), กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ และโลจิสติกส์ ส่วนหุ้นที่อาจได้ประโยชน์ คือ นิคมฯ เช่น AMATA, WHA, ROJNA จากการย้ายฐานผลิตจากจีนมาไทยเพื่อหลบภาษีส่งออกไปสหรัฐฯ, กลุ่มเกษตรส่งออก เช่น CPF, GFPT, TFG จากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง

ทั้งนี้ ยังให้เน้นลงทุนหุ้น Defensive และ Domestic Play ในยามที่ปัจจัยภายนอกมีความเสี่ยง!!

ด้าน บล.ทิสโก้ออกบทวิเคราะห์แนะแค่ “ถือ” หุ้นกลุ่มมีเดีย หลังทีวีดิจิทัล 7 ช่อง คืนใบอนุญาต โดยยังเหลือทีวีดิจิทัลในตลาด 15 ช่อง และ 15 ช่องนี้จะได้รับการชดเชยจากการเรียกคืนคลื่นจาก กสทช. เพื่อนำไปเปิดประมูลคลื่น 5G ที่จะเกิดขึ้น

ปีนี้ โดยการยกเว้นค่างวดที่ 5 และ 6 และช่วยค่าเช่าโครงข่าย MUX ตลอดอายุใบอนุญาต รวมถึงสนับสนุนค่าใช้จ่ายการจัดทำเรตติ้ง

สำหรับวิธีบันทึกบัญชีของผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลนั้น มีหลายทางเลือก เช่น 1.นำจำนวนเงินที่ได้รับการยกเว้น 2 งวด มาคำนวณเป็นรายได้ โดยยังคงตัดค่าใบอนุญาตตามเดิม ช่อง WORK, RS, MONO, BEC จะมีมูลค่า 2 งวดสุดท้ายที่รับยกเว้น 785, 755, 750, และ 1,177 ล้านบาทตามลำดับ 2.นำจำนวนเงินที่ได้รับการยกเว้น 2 งวด มาหารจำนวนปี เพื่อตัดค่าใบอนุญาตทุกปีที่เหลือ 9.6 ปี โดยช่อง WORK, RS, MONO, BEC จะลดต้นทุนใบอนุญาต รวมยกเว้นค่า MUX ได้ปีละ 125, 122, 121, 253 ล้านบาทตามลำดับ

ทั้งนี้ มองช่วยลดเรื่องการแข่งขันได้เล็กน้อย เนื่องจาก 7 ช่องที่ขอถอนใบอนุญาตนั้นส่วนใหญ่เป็นช่องเล็กและมีเรตติ้งที่มีอันดับตํ่ากว่า 10 (ยกเว้นช่อง 3 SD ที่อยู่อันดับ 7) และหากพิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาดจากรายได้รวมแล้ว รายได้ 7 ช่องนี้รวมกันเป็นเพียง 7% เท่านั้นที่หายไปจากกลุ่มธุรกิจทีวี!!

อินเด็กซ์ 51