*ประเด็นของการลงทุนในเที่ยวนี้คงไม่มีอะไรแปลกใหม่กว่าที่เป็นอยู่มากนัก เพราะตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่โหมดของการย่ำฐานเพื่อรอเวลาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,650 จุดอีกครั้ง ส่งผลให้การเคลื่อนตัวของหุ้นกลุ่มบลูชิพไปคนละทางอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับเปิดโอกาสให้คนที่อ่านเกมออกเข้าลงทุนรอบใหม่ได้อย่างสบายใจเฉิบ หลังวงรอบของหุ้นดาวเด่นยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิมนะซี

*วันนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องสืบสาวราวเรื่องอะไรมากมาย เพราะแค่ตั้งตารอวันประกาศงบไตรมาส 2 ออกมาอย่างเป็นทางการ ก็จะเห็นทิศทางการเคลื่อนตัวของดัชนีได้ชัดเจนขึ้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเกาะติดสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นผลมาจากตัวแปรทางด้านการเมืองกำลังทำให้นักเล่นอกสั่นขวัญผวากันเป็นแถว หลังการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลส่อเค้าจะเละตุ้มเป๊ะพะยะค่ะ

*สถานการณ์ตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้นักลงทุนโฟกัสไปที่การเคาะสั้น ๆ เพื่อความคล่องตัวในการจัดพอร์ต เพราะสิ่งที่พรายกระซิบได้ยินมาในเที่ยวนี้มันเหมือนจะช่วยให้ทุกอย่างเดินหน้าไปอย่างราบรื่น แต่เอาจริงอาจไม่เป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้ก็ได้ จึงต้องเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันตั้งแต่เนิ่น ๆ วานนี้ถึงเห็นดัชนีแกว่งตัวยึกยักตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยด้วยการมายืนปิดที่ 1,621.57 จุด บวกไป 2.21 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.48 หมื่นล้านบาทไงล่ะคะ

*ตรงนี้ดูได้จากการเคลื่อนตัวของหุ้น BJC พยายามถีบตัวขึ้นหลายครั้งหลายครา สุดท้ายก็สะดุดยอดหญ้าหงายท้องไม่เป็นท่าทุกที แถมมาเจอข่าวผลงานในไตรมาส 2 เหี่ยวเฉาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราคาหุ้นถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ 46 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 950 ล้านบาท น้องโมถึงต้องลุ้นสุดตัวไม่ให้หุ้นหลุดแนวรับ 45 บาท เพราะถ้าหลุดลงมาจริง ๆ คงไหลลงยาวเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่สวนตลาดได้อย่างน่าทึ่ง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นโรงหมอ CHG ทะยานขึ้นอย่างเนิบ ๆ ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 2.18 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 222 ล้านบาท ทั้งที่เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า วันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 38 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงสำหรับหุ้นที่ทำผลงานไม่ปัง เดี๊ยนถึงพยายามให้แมงเม่าคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนเคาะขวารัว ๆ ..อิอิอิ

*สำหรับคนที่อยากลุ้นระทึกเพื่อทำให้เกิดอาการตื่นตัว คงต้องมองไปที่พ่อดอกมะลิ JAS เป็นลำดับแรก หลังราคาหุ้นเริ่มผงกหัวได้เป็นวันแรก แถมตลอดทั้งวันมีแรงซื้อเข้ามาไม่ขาดสายอีกต่างหาก วานนี้ถึงเห็นหุ้นยืนปิดที่ระดับ 5.95 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 291 ล้านบาทแบบชิว ๆ พร้อมกับมีลุ้นวิ่งขึ้นไปหายอดเดิมแถวบริเวณ 6.30 บาทอีกครั้ง..ก่อนจะไปถึงตรงนั้นต้องผ่าน 6 บาทให้ได้นะจ๊ะ

*ส่วนรายของ GUNKUL สามารถวิ่งผ่านยอดเก่าได้อย่างสวยงาม และกำลังจะทำฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมในคราวเดียวกันนั้น “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นต้อง follow buy แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะการที่หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.98 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาทอย่างแข็งแกร่ง มันหมายถึงแรงซื้อรอบใหม่หนาแน่นขึ้นกว่าเดิมเจ้าค่ะ

*คล้ายกับกรณีของ BGRIM ทะยานขึ้นมาปิดที่ 33.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 323 ล้านบาท ล้วนมาจากสตอรี่ทางธุรกิจที่เข้าใจง่าย และผู้เล่นหลักเล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืน หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้านเก่าบริเวณ 35 บาทอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงมองเป็นจังหวะที่นักลงทุนควรเล่นตามน้ำไปเลยในทันที เพราะมันเห็นกันอยู่แล้วว่า เดี๋ยวจะมีการขยับเป้าใหม่ในไม่ช้า..เชื่อหัวน้องโมสิ !

*ส่วนรายที่มาแบบเงียบ ๆ แต่เผลอทีไรขยับขึ้นทุกทีอย่าง SAWAD ก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” ค่อนข้างสนใจเป็นพิเศษ เพราะแพตเทิร์นของหุ้นมาในแนว side way up เป็นเวลาร่วม 10 เดือนเห็นจะได้ แถมหุ้นพยายามทำจุดต่ำสุดในการย่อตัวแต่ละครั้งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นช็อตที่ควรตามไปดูโดยไม่มีข้อแม้ อีกทั้งวานนี้หุ้นขึ้นมายืนเหนือเส้น 10 วัน พร้อมกับปิดที่ระดับ 49.75 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 146 ล้านบาท มันน่าลุยจริง ๆ ..เจ๊ขอบอก !

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที ทำให้เดี๊ยนต้องหันมาดูหุ้น JMART เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับนักเล่นที่กำลังหาหุ้นที่มี growth อย่างสม่ำเสมอตลอดปี 2562 บวกกับการขยับตัวของหุ้นมาในแนว “ขึ้นแรงแล้วพัก” จึงเป็นจังหวะที่นักเล่นน่าจะหันมาศึกษาดูสักนิดหนึ่ง บวกกับพรายกระซิบเม้าท์กรอกหูทุกวันว่า เที่ยวนี้หุ้นมีโอกาสวิ่งเกิน 10 บาท เดี๊ยนเลยเอาข้อมูลมาแชร์ให้ฟัง หลังเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 9.20 บาท บวกไป 0.20 บาท มันเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะเลยนะคะ