ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ก.ย.62 ปิดที่ 1,643.76 จุด เพิ่มขึ้น 7.01 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 49,902.38 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,783.81 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 81.50 บาท บวก 1.75 บาท, PTT ปิด 46 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, SCC ปิด 412 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, GULF ปิด 157.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง และ AOT ปิด 74.25 บาท บวก 0.50 บาท

ภาพรวมตลาดสัปดาห์นี้ ช่วงต้นสัปดาห์ตลาดปรับตัวลงก่อนมารีบาวด์ขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้ตลาดทั้งสัปดาห์ปิดบวกได้ 7 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,167.22 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนในประเทศทั้ง 3 กลุ่มรวมพลังซื้อสุทธิ นำโดยนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,264.23 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 158.90 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 1,744.08 ล้านบาท ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์จากมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” หลังประชาชนตอบรับลงทะเบียนเข้าร่วมใช้สิทธิรับแจกเงินจากรัฐบาลล้นหลาม

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินตลาดหุ้นสัปดาห์หน้า นักลงทุนรอดูการเจรจาสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ วันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ว่าภาษีที่ถูกเลื่อนจากวันที่ 1 ต.ค. เป็น 15 ต.ค. จะถูกเลื่อนออกไปอีกครั้ง หรือจะยกเลิกไปเลยหรือไม่ ขณะที่ประเด็นการเมืองเรื่องการถอดถอน “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเพียงความปั่นป่วนที่เข้ามารบกวนจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น มองว่าเป็นไปได้ยากที่จะไปสุดทางถึงขั้นถอดถอน

มองทิศทาง Sideway แนะกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้น เน้นทยอยเก็บหุ้นเป้าหมายหากดัชนีย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับ 1,600 จุด หรือขายทำกำไร หากดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,650-1,660 จุด

ปิดท้าย บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม Banking แนะนำ Overweight เนื่องจากผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่สูงขึ้น โดยคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวจำกัดจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แต่มูลค่าหุ้นขณะนี้มีความน่าสนใจที่ระดับ 0.97 เท่าของ PBV เทียบกับวิกฤติปี 2009 ที่ 0.92 เท่า

นอกจากนี้ แผนการกระตุ้นของภาครัฐ จะเป็นปัจจัยทำให้ผลประกอบการเติบโตดีขึ้นในอนาคต และในช่วง 1 ปีข้างหน้า ชอบแบงก์ใหญ่ แนะ “ซื้อ” SCB, BBL และ KBANK โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 147 บาท, 203 บาท และ 200 บาท ตามลำดับ.

อินเด็กซ์ 51