ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 ก.ย.62 ปิดที่ 1,637.22 จุด ลบ 6.54 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 43,661.16 ล้านบาท ต่างชาติขาย 1,137.29 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด นำโดย AOT ปิด 74.75 บาท บวก 0.50 บาท, PTT ปิด 46.25 บาท บวก 0.25 บาท, SCC ปิด 408 บาท ลบ 4 บาท, KBANK ปิด 156.50 บาท ลบ 4.50 บาท, PTTEP ปิด 121 บาท ลบ 2.50 บาท

ตลาดปรับตัวลงจากความกังวลสหรัฐฯ เล็งจำกัดการลงทุนจีน สร้างความผันผวนต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย และตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น

บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ ประเมินว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ โดยเฉพาะ “ชิมช้อปใช้” ด้วยการให้เงินอุดหนุนแก่ประชาชนที่มาลงทะเบียนคนละ 1,000 บาท โดยจำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียนวันละไม่เกิน 1 ล้านคน และจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการรวมไม่เกิน 10 ล้านคน ถือว่า ได้กระแสตอบรับที่ดีจากประชาชนที่ใช้สิทธิกันล้นหลาม ขณะเดียวกันมีร้านค้าลงทะเบียนแล้วเกินกว่า 1.5 แสนร้านค้า

และต่อจากนี้รัฐบาลเตรียมทำการศึกษา พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเน้นกระตุ้นการบริโภค ดังนี้ 1.ผลักดันมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งถ้าทำต่อต้องใช้งบประมาณปี 63

2.ช่วยเหลือมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้น้อย เนื่องจากเป็นผู้ที่ตกหล่นจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เน้นมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งตั้งตัวและมีภาระ เช่น มีบุตร จะให้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ โดยกระทรวงการคลังอยู่ในช่วงเร่งศึกษาความเหมาะสม

ทั้ง 2 ปัจจัยน่าจะสร้าง Sentiment เชิงบวกเพิ่มเติม ให้กับหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ได้อานิสงส์จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัว อาทิ ROBINS (Buy: FV@B 70.0) BJC (Buy: FV@B 61.0) และ CPALL (Buy: FV@B 88.0)

และอีกมาตรการคือ เน้นเพิ่มสิทธิประกันสุขภาพ โดยเพิ่มสิทธิประกันสุขภาพครอบคลุมโรคร้ายแรงที่โครงการบัตรทองไม่ครอบคลุมถึง คาดว่าหากไม่มีการจำกัดสิทธิรักษาเฉพาะ รพ.รัฐ จะเป็นผลดีกับ รพ.เอกชน ที่รับผู้ป่วยระดับกลางและมีเครือข่ายอยู่แล้ว อย่าง BCH, CHG และ RJH!!

อินเด็กซ์ 51