*ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,631.43 จุด ลดลง 1.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,373.65 ล้านบาท คาดว่าตลาดหุ้นไทยปิดลบสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดลบ เนื่องจากตลาดกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ขณะเดียวกันภายในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขส่งออกและนำเข้าของไทย เดือน ก.ย. คาดจะยังคงหดตัวต่อเนื่องจากผลกระทบของสงครามการค้า รวมถึงจับตาการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2562 และงวด 9 เดือนแรกกันต่อไป

*CKP เตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ ถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำชนิดฝายทดน้ำใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าให้แก่กฟผ. 1,220 เมกะวัตต์ และให้รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) 60 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 13,000-14,000 ล้านบาทต่อปี CKP จะรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไร ตามสัดส่วนการถือหุ้น 37.50% ฉายแววผลงานปีหน้าโตก้าวกระโดดได้ง่ายดายทีเดียว

*BGRIM เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน มูลค่า 6,000 ล้านบาท พร้อมส่วนสำรองเสนอขายอีกไม่เกิน 2,000 ล้านบาท รวมเป็น 8,000 ล้านบาท เสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 19-21 พ.ย.นี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ และอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ A แนวโน้ม “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นระดับลงทุนได้หรือ Investment Grade การกำหนดผลตอบแทนในช่วง 5 ปีแรกอยู่ที่ 5% ต่อปี จัดเป็นอัตราผลตอบแทนที่น่าพอใจ

*TEAMG ช่วงนี้มือขึ้น แจ้งคว้างานเพิ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง คาดว่าหลังจากนี้ก็มีแนวโน้มจะได้งานใหม่เพิ่ม โดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ก็จะส่งผลให้มีแบ็กล็อกมากขึ้น ภาพการเติบโตของผลการดำเนินงานก็จะชัดเจน

*อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร จัดเป็นหุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่คาดว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หลังจากมีการเดินสายโรดโชว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเตรียมเข้าเทรดใน SET หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม วันที่ 24 ต.ค. 2562 ด้วยจำนวนหุ้นไอพีโอ 520 ล้านหุ้น ราคา 3.30 บาท เพื่อนำเงินระดมทุนไปก่อสร้างโรงงานในต่างประเทศ ปรับปรุงและซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม รวมถึงลงทุนเปิดบริษัทตัวแทนและห้องทดลองในต่างประเทศ