ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 พ.ย.62 ปิดที่ 1,602.23 จุด ลดลง 7.24 จุด มีมูลค่า การซื้อขาย 44,569.98 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 718.87 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด TRUE ปิด 4.56 บาท ลบ 0.49 บาท, CPALL ปิด 77.75 บาท ลบ 1 บาท, PTT ปิด 44.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, SCC ปิดที่ 379 บาท ลบ 7 บาท และ CK ปิด 18.60 บาท ลบ 1.80 บาท

ราคาหุ้น CK ระหว่างวันรูดหนัก 11.27% มาที่ 18.10 บาท ลดลง 2.30 บาท ก่อนพยุงตัวมาปิดลบ 1.80 บาท หลังแจ้งกำไรไตรมาส 3 ทรุดลงกว่าที่คาด แถมมองยาวไตรมาส 4 จะยังไม่สวย

ขณะที่ บล.โนมูระ พัฒนสิน มอง Negative ต่อกำไรปกติ 3Q19 ของ CK ที่ 205 ล้านบาท (-65% y-y, +32% q-q) ต่ำกว่าตลาดคาด ขณะที่ยังคาดว่า 4Q19F อาจจะพลิกเป็นขาดทุนหรือกำไรไม่มาก จากรายได้ ก่อสร้างลดลง ไม่มีเงินปันผลรับ ขณะที่ต้องแบก SG&A ในระดับสูง

โนมูระฯ จึงได้ปรับลดกำไรปกติ 2019-21F ลง สะท้อนการปรับลดส่วนแบ่งกำไรจาก BEM เป็นหลัก ปรับราคาเป้าหมายปีหน้าเป็น 31 บาท แต่ยังคงคำแนะนำ BUY มองช่วงแรงกดดัน 4Q19-1Q20F จากผลประกอบการที่มีแนวโน้มอ่อนแอ เป็นโอกาสในการสะสม เพื่อรับกำไรที่ฟื้นตัวใน 2020F และการกลับมาเติบโตของรายได้ก่อสร้างระยะยาว ขณะที่ราคาซื้อขายปัจจุบันน่าจะสะท้อนความกังวลไปแล้ว

ปิดท้ายมีข่าว “รื่นวดี สุวรรณมงคล” เลขาธิการ ก.ล.ต. เผย แผนโครงการต้นแบบการนำ DLT ภายใต้เทคโนโลยีบล็อกเชน มาใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนไทยให้เป็นดิจิทัลทั้งระบบ โดยคาดใช้เวลาในการพัฒนา 3 ปี (2563-2565) ซึ่งจะทำให้ตลาดทุนไทยเป็นแห่งที่ 2 ของโลกที่นำ DTL มาใช้ทั้งระบบ ต่อจากสวิตเซอร์แลนด์

โดยผังโครงการต้นแบบการนำเทคโนโลยี DLT มาเป็นโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนไทยจะครอบคลุมตั้งแต่การออกและเสนอขายทั้งตลาด แรกและตลาดรอง ไปจนถึงกระบวนการหลังการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้, หุ้น SME, กองทุนรวม และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งการชำระราคาและส่งมอบ การจัดทำทะเบียนผู้ถือตราสาร และการรับฝากตราสาร ไปจนถึงการจ่ายดอกเบี้ยหรือเงินปันผล

ซึ่งจะลดการซับซ้อนของขั้นตอนแต่ละหน่วยงาน ลดต้นทุน เพิ่มความโปร่งใส ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงตลาดทุน ของผู้ระดมทุนและผู้ลงทุนได้!!

อินเด็กซ์ 51