ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 8 ม.ค.63 ปิดที่ 1,559.27 จุด ลดลง 25.96 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 65,089.77 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,247.22 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BAM ปิด 20.80 บาท ลบ 0.40 บาท, PTTEP ปิด 134 บาท บวก 1 บาท, GPSC ปิด 88.25 บาท ลบ 1.25 บาท, PTT ปิด 46.75 บาท ลบ 0.50 บาท และ KBANK ปิด 140 บาท ลบ 3 บาท

นักลงทุนเทขายหุ้นกดตลาดปรับตัวลง ลดความเสี่ยงจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ ระบุหลังอิหร่านยิงอาวุธนำวิถีใส่ฐานทัพสหรัฐฯในอิรัก ส่งผลให้เห็นนักลงทุนโยกเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัย มากขึ้นเห็นได้จากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไป 5% (ytd) ยืนเหนือ 1,600 เหรียญ สูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี โดยมองว่าหุ้นไทยมีโอกาสกลับลงไปไม่น้อยกว่าจุดต่ำสุดในปีนี้ที่ 1,565 จุด หากสงครามยังยืดเยื้อและบานปลายต่อเนื่อง

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหลบขีปนาวุธเข้าหุ้นปันผลสูง และกองทุนอสังหาฯ โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งหุ้นเด่นรับภัยแล้งสุดในรอบ 40 ปี โดยหุ้น Top Picks ชื่นชอบ PTT, PYLON และ EASTW โดย EASTW (ให้ราคาพื้นฐาน 14 บาท) ถือเป็นหุ้นสาธารณูปโภคที่ได้รับอานิสงส์จากภัยแล้งและปี 63 EASTW มีการทยอยปรับขึ้นราคาขายน้ำดิบด้วยสูตรใหม่ บวกกับปริมาณขายน้ำดิบ คาดว่าจะผลักดันให้กำไรสุทธิปี 63 กลับมาโตครั้งแรกในรอบ 5 ปี

และหากพิจารณาสถิติในอดีต ราคาหุ้น EASTW เทียบกับช่วงภัยแล้ง พบว่าราคาหุ้นมักจะ Outperform ได้ดี เช่น ช่วงฤดูแล้งในปี 58/59 (พ.ย.58-เม.ย.59) และช่วงฤดูแล้งปี 61/62 (พ.ย.61-เม.ย.62) EASTW ปรับขึ้นเฉลี่ย 7.1% สูงกว่าตลาดที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียง 0.48% เท่านั้น

ส่วนหุ้น PYLON Sentiment บวกจากการเข้าสู่ช่วงพิจารณางบประมาณปี 63 วาระ 2 และ 3 ส่วนแนวโน้มกำไรงวด Q4 ปี 62 เติบโตโดดเด่น และมีโอกาสขึ้นทำ New High ต่อในงวด Q1/63 ได้แรงหนุนจากโครงการ Mix Use ขนาดใหญ่ ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงสวนทางกับ Earning Momentum พร้อมคาดหวัง Dividend Yield ปีนี้สูงเกิน 5% (จ่ายปันผลปีละครั้ง)

ขณะที่ หุ้น PTT ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นแรง ส่งผลดีต่อหุ้นพลังงาน PTT และแนวโน้มกำไรน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดหวัง Dividend Yield สูงกว่า 4.4% ต่อปี (จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง) มองเป็นจังหวะทยอยสะสม!!

อินเด็กซ์ 51