*วันนี้จึงเป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” รู้สึกเฉย ๆ กับการอ่อนตัวของดัชนีลงมาปิดที่ระดับ 1,559.27 จุด ลบไป 25.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.50 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แถมที่ผ่านมาก็มีการรับรู้กันอย่างแพร่หลายว่า หากความขัดแย้งนำไปสู่สงครามจนลุกลามใหญ่โต หุ้นทั่วโลกก็จะตกลงไปเรื่อย ๆ ในมุมกลับกันหากเรื่องดังกล่าวอยู่ในวงจำกัด ตลาดหุ้นทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ นะตัวเอง

*ถามว่าวันนี้เหตุการณ์จะดำเนินไปทางไหน ? “โมนิก้า” ขอตอบว่าปัจจัยหลายอย่างชี้ไปใน “ทางร้าย” มากกว่า “ทางดี” จึงไม่มีความจำเป็นต้องทนฝืนพูดเรื่องสวยงามอีกต่อไป เพราะแรงขายที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้มาจากความกังวลเป็นหลัก ส่งผลให้การสาดกระสุนใส่กันวันต่อวันเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอาเสียเลย พร้อมกับทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเป็นทวีคูณแบบนี้..หุ้นจะมีแรงขึ้นได้อย่างไรล่ะจ๊ะ

*ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่า “เก็บคอ งอเข่า” น่าจะเป็นหนทางที่ดีสุดสำหรับนักเล่นหัวใจสะออน ผนวกกับเซียนหุ้นหลายรายชักไม่แน่ใจกับแนวรับ 1,550 จุดจะเอาอยู่หรือเปล่า ? เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นมองบนพื้นฐานความเป็นจริงสักนิดหนึ่ง ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าส่งผลกระทบรุนแรงแค่ไหน ? และกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่พะยะค่ะ

*เม้าท์ถึงความวิตกขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงมองไปยังปิโตรเคมีบิ๊กเบิ้มอย่างหุ้น IVL เป็นรายแรก หลังมีแรงเทขายทยอยออกมาไม่หยุดหย่อน จนวานนี้ราคาหุ้นร่วงลงมายืนปิดที่ 30.50 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.79 พันล้านบาท ทั้งที่ช่วงต้นสัปดาห์หุ้นยืนอยู่ที่ระดับ 36.50 บาท น่าจะเป็นภาพสะท้อนความกลัวของนักลงทุนสถาบันได้เป็นอย่างดี และราคาหุ้นคงไหลลงไม่หยุดกระมัง!

*เช่นเดียวกับในรายของ PTG โดนจัดหนักแบบไม่มีเยื่อใยไมตรีให้แก่กัน พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 7 เดือนด้วยการยืนปิดที่ 13.90 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 8.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 784 ล้านบาท แถมมีประเด็นที่แมงเม่าตั้งคำถามกันว่า กำไรปี 2563 โตได้อีกไหม ? ค้ำคออีกหนึ่งดอกแบบนี้ “โมนิก้า” คงพูดได้แค่ว่า น่าจะถอยไปตั้งหลักเพื่อรอความชัดเจนของหลาย ๆ เรื่องก่อนไหมตัวเอง!

*คล้ายกับในรายของ WHA ภายใต้การคอนโทรลของ “เจ๊จูน” ก็เป็นอีกช็อตที่นักเล่นต้องคิดหนักก่อนตะลุยเข้าไปช้อนหุ้น เพราะแรงเทขายเที่ยวนี้มีออกมาหนาแน่นผิดปกติ จนทิศทางของหุ้นอยู่ในลักษณะ sideway down เป็นเวลาร่วม 2 เดือนแบบนี้ “โมนิก้า” คงเปรียบเปรยให้ฟังได้แค่ว่า ก่อนหน้านี้หุ้นเคยยืนอยู่ที่ระดับ 4.60 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นยืนอยู่ที่ 3.50 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 376 ล้านบาท แถมเมื่อรวมเบ็ดเสร็จ หุ้นไหลลงมากถึง 23% มันสะท้อนอะไรให้รู้บ้าง ? ลองไปคิดกันเอาเองนะคะ

*ขนาดหุ้นไฟฟ้าพื้นฐานแน่นปึ้ก และเป็นสุดเลิฟของเดี๊ยนมานมยาน..อุ๊ย..นมนาน อย่างเช่น EA ยังถูกถล่มหนักอย่างไม่น่าเชื่อแบบนี้ “โมนิก้า” ไม่มีคำอธิบายเลยจริง ๆ เพราะมองในมุมของหุ้นปลอดภัย ดาวเด่นตัวนี้ก็มีชื่อติดโผกับเขาเหมือนกัน เหตุไฉนหุ้นถึงไหลลงมายืนปิดที่ 38.50 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 6.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.23 พันล้านบาท พร้อมกับทำ low ในรอบ 1 ปี 4 เดือนอย่างง่ายดายล่ะคะ

*อีกรายที่ทรงไม่ดีนานนับเดือน และตัวเลขกำไรไม่แบ็กอัพเท่าที่ควร “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปยัง CKP เพื่อชี้ให้เห็นการเล่นหุ้นบนความคาดหวังในตัวบริษัทที่สูงเกินไป มักจบลงด้วยความชีช้ำกระหล่ำแฉะเป็นประจำ เดี๊ยนเลยสงสัยว่า หุ้นจะรูดลงไปกองที่ฐานแนวรับเก่าบริเวณ 3.50 บาทในไม่ช้า เพราะการลงมายืนปิดที่ 4.30 บาท ลบไป 0.22 บาท หรือลงไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 178 ล้านบาท ยังเป็นการเทรดบน P/E 97 เท่าอยู่เลยเจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นที่น่าระวังอีกหนึ่งตัว “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปยัง PRM หลังปรากฏแรงขายออกมาไม่หยุดหย่อน จนหุ้นร่วงจากระดับ 9 บาทลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 6 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 9% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104 ล้านบาท ท่ามกลางกลิ่นอายวิตกจริตยังคละคลุ้งไปทั่วแบบนี้ เดี๊ยนคงให้ความสำคัญกับฐานเดิมบริเวณ 5 บาทมากเป็นพิเศษ เพราะน่าจะเป็นจุดที่เซฟตี้มากสุดสำหรับการทยอยเก็บนะจะบอกให้

*ป.ล. วานนี้เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า กองทุนตัวจี๊ดยังเน้นหนักไปทางทิ้งหุ้นมากกว่าช้อนหุ้น ตัวเลขพอร์ตประจำวันถึงแสดงยอดขายสูงถึง 3 พันล้านบาทไงล่ะคะ