ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 ม.ค.63 ปิดที่ 1,580.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 52,033.36 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 484.25 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BAM ปิด 22.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท, GPSC ปิด 93.75 บาท บวก 2.75 บาท, ADVANC ปิด 214 บาท ลบ 4 บาท, PTT ปิด 46.50 บาท ลบ 0.50 บาท และ KBANK ปิด 137.50 บาท ลบ 1 บาท

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบ หลังตลาดคลายความกังวลกับสถานการณ์ความตรึงเครียดในตะวันออกกลาง และมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ต้องติดตามการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายปี 63

หุ้นกลุ่มซีพีและพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วย 1.บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี 2.บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) 3.บมจ. ช.การช่าง (CK) 4.บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (B.GRIM) ราคาเด้งดี๊ด๊าสวนทางกลุ่ม BBS ที่ประกอบด้วย BTS-BA-STEC ที่ราคาปรับตัวลง

หลังศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำพิพากษา โดยศาลให้เพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการคัดเลือกฯที่ไม่รับซองประมูลทั้งสองของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ส่งผลให้กลุ่มธนโฮลดิ้ง กลับเข้าสู่การแข่งขันประมูลได้เต็มตัวอีกครั้ง

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า หากกลุ่มธนโฮลดิ้ง ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลจะส่งผลให้ CK และ ITD ได้รับงานก่อสร้างโดยมูลค่างานนั้นเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่เป็นปัจจัยบวกให้ทั้ง 2 บริษัท ทั้งนี้ ประเมินราคาเป้าหมาย CK ไว้ที่ 25 บาทต่อหุ้น เช่นเดียวกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ที่มองเป็นบวกต่อ CK และ ITD

ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่ม BTS-BA-STEC ต่างปรับลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นตัวเต็งคว้างานพัฒนาพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา โดย บล.เคทีบี ระบุว่า เป็น sentiment เชิงลบต่อหุ้น BTS เพราะจะทำให้กลุ่มธนโฮลดิ้งเข้าสู่การแข่งขันประมูลได้เต็มตัว

จากที่เคยคาดว่ากลุ่ม BBS มีโอกาสชนะการประมูลครั้งนี้ เนื่องจากเสนอผลตอบแทนให้รัฐอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท สูงกว่ากลุ่ม Grand Consortium (ประกอบด้วย GRAND, AAV, และ Chris-tiani & Nielsen) ที่ 1 แสนล้านบาท.

อินเด็กซ์ 51