*สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “โมนิก้า” มีโอกาสได้นั่งพูดคุยกับ “เซียนหุ้น” และ “กูรู” อย่างถึงพรึกถึงขิง เพื่อเจียระไนข้อมูลให้แหลมคมสุดเท่าที่จะทำได้ ผลปรากฏออกมาว่า ทุกคนส่ายหัวกันเป็นแถว พร้อมกับพูดไปในทางเดียวกันว่า ตลาดหุ้นแกว่งไปแกว่งมาแบบนี้ “เจ๊ง” กันเป็นแถวอย่างแน่นอน เพราะตลาดหุ้นโดนครอบงำจากผู้เล่นกลุ่ม “กองทุน” กับ “ต่างชาติ” อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้วน่ะซี

*งานนี้ไม่ต้องแปลกใจที่มีหลายคนออกมาฟันธงแมงเม่ากระอักเลือดเป็นแถว เพราะเมื่อดูตามเนื้อผ้าที่เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ล้วนมีแต่ประเด็นที่ทำให้หงุดหงิดใจกันทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่สามารถเริงรมย์ไปกับบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นประเดี๋ยวประด๋าว แถมหุ้นที่ถีบตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเหลือเพียงไม่กี่ตัว จึงทำให้ผู้รู้ในฝ่ายต่าง ๆ ออกมาชี้แนะแนวทาง select buy เพื่อลดความเสี่ยงในการเคาะขวารัว ๆ พะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องนำข้อมูลไปเชื่อมโยงกับสัญญาณเทคนิคเส้น 75 วัน เพื่อทำให้แฟนคลับได้เห็นภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ไม่เคยผ่านจุดนี้ขึ้นไปอย่างสบายอุราสักที แถมจุดตัดของเที่ยวนี้อยู่ที่บริเวณ 1,600 จุดเสียด้วย เดี๊ยนถึงอยากให้แฟน ๆ ช่วยประเมินการยืนปิดที่ 1,586.16 จุด บวกไป 5.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.50 หมื่นล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นอีกไหมเอ่ย ?

*ส่วนรายที่เคาะขวากันไม่เบื่อ และยังเล่นชิว ๆ ได้อีกหลายรอบ “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่ GULF ก่อนใครเพื่อนอีกตามเคย เพราะเที่ยวนี้มาด้วยสตอรี่ที่อัดแน่นจริง ๆ จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 193.50 บาท บวกไป 16.50 บาท หรือขึ้นไป 9.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.53 พันล้านบาท พร้อมกับทำ all time high อีกแล้วแบบนี้ พี่น้องนักเล่นคิดว่าราคาเป้าหมายเบื้องต้นบริเวณ 200 บาท ไกลเกินเอื้อมไปหรือเปล่า ? ลองไปคิดดูนะคะ

*อีกรายที่ปึ๋งปั๋งชวนฟินสุด ๆ “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปยังหุ้น BGRIM หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 60 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.43 พันล้านบาท พร้อมกับทำ all time high อีกครั้งแบบนี้ เดี๊ยนถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องไหลตามน้ำโดยไม่มีข้อแม้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้สะท้อนให้เห็นว่า บรรดานักเล่นเข้ามามะรุมมะตุ้มเยอะแยะไปหมด หุ้นถึงมีโอกาสไปต่อแบบชิว ๆ นะจะบอกให้

*ส่วนรายที่เด้งรับข่าวรัฐสภาผ่านงบปี 2563 จนพี่เบิ้มวงการก่อสร้าง CK พุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 21.10 บาท บวกไป 2.20 บาท หรือขึ้นไป 11.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นอารมณ์ทางจิตวิทยามากกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะเมื่อส่องกล้องมองกันจริง ๆ ปีที่ผ่านมาก็ไม่ปัง เดี๊ยนถึงมองเกมหุ้นเที่ยวนี้อาจไม่ยาวเหมือนที่ใครบางคนคาดไว้ จึงต้องเผื่อทางหนีทีรอดให้กับตัวเองด้วยเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับหุ้น STEC ภายใต้คอนโทรลของ “เสี่ยหนู” ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 15.60 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 6.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.56 พันล้านบาท ก็คงไม่พ้นภาพหุ้นการเมืองที่ได้รับอานิสงส์จากเมกะโปรเจกต์อีกตามเคย “โมนิก้า” ถึงมองแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นในเที่ยวนี้น่าจะมาจากพร็อพเทรด เพราะแมงลือเม้าท์กันให้แซดว่า มีมาร์เก็ตติ้งหลายคนเป็นมือเคาะหุ้นให้กับคนใหญ่คนโตน่ะซี

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นน้องสวย BEAUTY เพื่อชี้ให้เห็นกระแสเก็งกำไรเที่ยวนี้คึกคักจริง ๆ หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.88 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 17% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.78 พันล้านบาทอย่างรวดเร็วนั้น ก็ปรากฏคำถามตามหลังมาในทันทีว่า วันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 25 เท่า มันสูงเกินไปหรือยัง ? เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นลองตรึกตรองให้ดีก่อนลุยต่ออีกยกในวันนี้นะคะ

*เมื่อบรรยากาศการ “เล็กสั้น ขยันซอย” กลับมาอีกรอบ “โมนิก้า” ก็ไม่แปลกใจที่หุ้น AMANAH กลับมาผาดโผนบนสังเวียนนี้กับเขาอีกครั้ง เพราะเป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นที่นักเล่นนิยมเคาะขวารัว ๆ เมื่อบรรยากาศลงทุนเป็นใจ วานนี้ถึงเห็นหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 3.50 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 13.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 205 ล้านบาท พร้อมกับแสดงท่าทีอยากขึ้นไปทดสอบยอดเดิมบริเวณ 3.80 บาทแบบนี้ น่าตามไปดูสักตั้งพะยะค่ะ

*ป.ล. วานนี้ยอดซื้อสุทธิไปโผล่ที่พร็อพเทรดสูงถึงระดับ 1 พันล้านบาท ตามด้วยแมงเม่าเคาะซื้ออีกกว่า 400 ล้านบาท ขณะที่นักเล่นอีกสองกลุ่มอย่าง “กองทุน” กับ “ต่างชาติ” สาดหุ้นออกมาตลอดทั้งวัน “โมนิก้า” เลยอยากรู้เหลือเกินว่า พอร์ตหุ้นรอบนี้ของใคร “เจ๋ง” และพอร์ตหุ้นของใคร “เจ๊ง” เพราะพี่ท่านเล่นดันหุ้นรายตัวสุดลิ่มทิ่มประตูเลยนะเนี่ย!