ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ม.ค.63 ปิดที่ 1,581.05 จุด ลดลง 5.85 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 65,404.07 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,328.13 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด GPSC ปิด 92 บาท ลบ 4.75 บาท, BAM ปิด 24.10 บาท บวก 1.30 บาท, GULF ปิด 191 บาท ลบ 4 บาท, PTT ปิด 45.50 บาท ลบ 0.50 บาท และ KBANK ปิด 131.50 บาท ลบ 1.50 บาท

ตลาดปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ นักลงทุนรอดูรายละเอียดข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐฯ เฟสแรก และทิศทางการเจรจาในอนาคต รวมทั้งผลประกอบการไตรมาส 1 กลุ่มแบงก์ ที่จะประกาศออกมาก่อน

ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเริ่มขยับซื้อขายคึกคัก ทั้ง บมจ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) และ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) หลังประกันสังคมปรับเพิ่มค่าบริการการแพทย์สำหรับปี 2020 เพิ่มขึ้นโดย เหมาจ่ายต่อหัว 9.3% ส่วนโรคเรื้อรังเพิ่ม 1.3% และโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง 16.6%

บล.บัวหลวง ประเมินกำไรหุ้น BCH และ CHG จะเพิ่มแบบอนุรักษนิยมไม่เกิน 5-7% โดยมองกำไรเพิ่มจากส่วนที่เป็นเหมาจ่ายต่อหัวเป็นหลัก ส่วนอื่นๆ ที่แปรผันตามการรักษาโรค เชื่อว่าอาจจะมีต้นทุนเพิ่มตามมาภายหลัง ทั้งจากการปรับปรุงคุณภาพต่างๆ กลยุทธ์ลงทุนระยะสั้น 5-10 วันทำการ แนะนำ sell on fact หุ้น BCH และ CHG

ด้านปัจจัยพื้นฐาน ชอบ CHG มากกว่า BCH ดังนั้น คำแนะนำหลักคือ ถือหุ้น BCH ขึ้นมารอบนี้ให้ทยอยลดน้ำหนัก เนื่องจากพื้นฐานเริ่มกังวลอัตรากำไรช่วงการลงทุนรอบใหม่ ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CHG หากยังไม่ต้องการ take profit รอบนี้ให้ถือต่อ-รอกำไรไตรมาส 1 โดดเด่น กว่ากลุ่ม (ก้าวกระโดดทั้ง YoY และ QoQ)

ขณะที่ บล.กรุงศรี BCH แนะนำ ซื้อราคาเป้าหมาย 20 บาท ได้ Sentiment บวกจากข่าวประกันสังคมปรับเพิ่มค่ารักษาพยาบาลขึ้น มอง BCH และ CHG ได้ประโยชน์สูงสุดเพราะมีสัดส่วนลูกค้าประกันสังคมสูงสุดของกลุ่ม โดยทุกๆ 1% ของรายได้ประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นจะหนุนกำไรสุทธิของ BCH เพิ่มขึ้น 1%

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะซื้อ BCH ให้ราคาเป้าหมาย 22 บาท ยังไม่รวมการปรับเพิ่มของประกันสังคม!!

อินเด็กซ์ 51